
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ตรวจระดับวิตามิน
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจระดับวิตามินเฉพาะบุคคล Personalised Vitamin Check-up 11 รายกาย มีดังนี้
- ตรวจระดับวิตามินเอ (Retinol)
- ตรวจระดับวิตามินอี Gamma-Tocopherol)
- ตรวจระดับวิตามินอี Alpha-Tocopherol)
- ตรวจระดับวิตามินซี (Ascorbic Acid)
- ตรวจระดับลูทีนและซีแซนทีน (Lutein + Zeaxanthin)
- ตรวจระดับเบต้าคริปโทแซนทิน (Beta Cryptoxanthin)
- ตรวจระดับแอลฟ่าแคโรทีน (Alpha Carotene)
- ตรวจระดับเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene)
- ตรวจระดับโคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)
- ตรวจระดับไลโคปีน (Lycopene)
- ตรวจวิเคราะห์ร่างกายโดยแพทย์ (Doctor Consultant)
- ค่าแพทย์
หมายเหตุ
- หากต้องการพบแพทย์ก่อนการตรวจและซื้อแพ็กเกจ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1,500 บาท และคิวนัดเป็นตามคลินิกกำหนด
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจระดับวิตามิน
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 30 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- เจ้าหน้าที่จะนัดหมายให้มาฟังผลการตรวจกับแพทย์อีกครั้ง ถัดจากวันตรวจประมาณ 7-14 วัน
- ชาวต่างชาติสามารถเข้ารับบริการได้ โดยใช้พาสปอร์ตยืนยันตัวตน
- กรณีมีการพบแพทย์ และต้องการใบรับรองแพทย์ กรุณาแจ้งแอดมิน HDmall หรือเจ้าหน้าที่คลินิกล่วงหน้า โดยทางคลินิกจะออกใบรับรองแพทย์ (ภาษาไทย) ให้ในวันที่รับบริการ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรอดนอน
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนตรวจ
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- การตรวจวิตามินไม่ใช่การวินิจฉัยโรค เป็นเพียงทางเลือกเสริมเพื่อให้ดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่รับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเป็นประจำ
- ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยา (Pharmacological) เช่น การได้รับเคมีบำบัด การได้รับยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือผู้ที่ผ่านการผ่าตัด
- ผู้ที่มีความเครียดสูง อยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ระบบดูดซึมไม่ดี มีปัญหาลำไส้
- ผู้ที่เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ (Oxidative stress-related disease) เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน หลอดเลือดสมองตีบ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจระดับวิตามิน
วิตามิน (Vitamin) เป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อให้การทำงานของระบบต่างๆ และการเจริญเติบโตเป็นไปอย่างปกติ โดยเราจะได้รับวิตามินจากอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม อาหารที่เลือกรับประทานอาจมีวิตามินในปริมาณที่น้อยหรือไม่ครบถ้วน หลายคนจึงเลือกรับประทานวิตามินเสริมเพิ่มเติมจากมื้ออาหารหลัก
รับประทานวิตามินเสริมเวลาไหนดี?
โดยปกติควรรับประทานวิตามินเสริมหลังมื้ออาหาร เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุด และหากเป็นไปได้ควรเลือกมื้ออาหารที่เป็นมื้อใหญ่สุดของวัน
ใครที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามิน?
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามิน ได้แก่
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
- ผู้ที่งดรับประทานเนื้อสัตว์
- ผู้ที่แพ้อาหารบางประเภท เช่น นมวัว
- ผู้ที่ผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้
- ผู้รับประทานยาที่ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินบางอย่าง
- ผู้ที่ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจำนวนมากเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินอย่างรวดเร็ว
การตรวจระดับวิตามิน เป็นการตรวจที่ทำให้รู้สภาวะขาดหรือเกินของวิตามินในร่างกาย เพื่อให้เลือกรับประทานเสริมได้อย่างเหมาะสม
การตรวจระดับวิตามิน สำคัญอย่างไร?
การตรวจวัดระดับวิตามินในร่างกาย นอกจากจะทำให้ทราบว่าควรได้รับวิตามินชนิดใดเพิ่มเติมแล้ว ยังเป็นการป้องกันการเลือกรับประทานวิตามินบางชนิดมากเกินไป จนอาจก่อให้เกิดผลเสียด้วย
ประเภทของวิตามิน
วิตามินแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
- วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 7 บี 9 บี 12 และวิตามินซี กลุ่มนี้จะอยู่ในร่างกายประมาณ 2-4 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือจากการใช้งานจะถูกขับออกทางปัสสาวะ โอกาสที่จะสะสมในร่างกายจึงมีน้อย ไม่ค่อยก่อให้เกิดผลข้างเคียง
- วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค วิตามินชนิดนี้จะละลายในไขมัน หรือน้ำมันเพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ หากได้รับมากเกินไปจะถูกสะสมไว้ในร่างกาย ซึ่งหากมีการสะสมมากเกินไปอาจมีผลเสียกับร่างกายได้
หมายเหตุ
- หากมียา วิตามิน หรือสมุนไพร ที่รับประทานเป็นประจำ อาจนำไปด้วยในวันตรวจ เพื่อปรึกษาแพทย์
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Bangkok Anti-Aging Center ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Bangkok Anti-Aging Center อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th