รีวิว ตรวจระดับวิตามิน ที่ Bangkok Anti-Aging Center


สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • พีมมีงานอดิเรกเป็นนักปั่นจักรยานค่ะ เวลาไปออกทริปปั่นก็ต้องใช้สารอาหารและวิตามินหลายอย่างในการเติมพลังงานเข้าร่างกาย แต่ไม่เคยเช็กระดับวิตามินเลยว่าที่เรากินเข้าไปมันเพียงพอกับและดีกับสุขภาพเราหรือยัง
  • การตรวจวิตามินจะเป็นการเจาะเลือดส่งตรวจทางห้องแลป หลังจากนั้นเราก็รอผลประมาณ 7-10 วันค่ะ
  • ผลตรวจระดับวิตามินจะแบ่งออกเป็น 3 สี คือ สีแดง = ระดับวิตามินต่ำว่าเกณฑ์ (Low) สีเหลือง = ระดับวิตามินปานกลาง (Moderate) และสีเขียว = ระดับวิตามินสูงตามเกณฑ์ (Excellent)
  • คุณหมอมองว่า พีมมีกิจวัตรการกินวิตามินเข้าร่างกายโอเคอยู่ แต่พีมมักจะไปเน้นวิตามินและแร่ธาตุที่เน้นให้พลังงานต่อร่างกายมากกว่า จนลืมว่า เราก็ต้องกินวิตามินฝั่งที่มันช่วยชะลอวัยหรือ Anti-Aging ด้วยนะ
  • รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDreview ได้รับการสปอนเซอร์จากทาง HDmall.co.th และ Bangkok Anti-Aging Center

งานอดิเรกของพีมคือการปั่นจักรยานค่ะ เวลาไปออกทริปปั่นจักรยานก็ต้องใช้พลังงานเยอะมาก เลยกินอาหารและกินวิตามินหลายตัวเพื่อฟื้นฟูให้ร่างกายเป็นประจำ ไม่อย่างนั้นได้หมดแรงกลางทางก่อนแน่ๆ

งานอดิเรก ปั่นจักรยาน

แต่ถึงจะกินวิตามินเยอะขนาดไหนก็ไม่เคยรู้เลยว่า วิตามินที่เรากินเข้าไปมันเพียงพอกับและดีกับสุขภาพเราหรือยัง หรือควรกินวิตามินตัวไหนเพื่อให้ร่างกายเราดูดซึมสารอาหารไปใช้งานได้เต็มที่

ด้วยความสงสัย ก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมและรู้ว่ามีโปรแกรมตรวจระดับวิตามินในร่างกายด้วย ดูว่าร่างกายของเรามีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เท่าไหร่ เพื่อจะได้วางแผนการแก้ไข ปรับเสริมเติมวิตามินที่ร่างกายขาด แถมยังได้ปรึกษากับแพทย์ด้วยว่าการกินวิตามินของเราทุกวันนี้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รึยัง

จากที่หาข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็ไปสะดุดตากับโปรแกรมตรวจระดับวิตามิน ที่ Bangkok Anti-Aging Center หรือ BAAC ในเว็บไซต์ HDmall.co.th ซึ่งเป็นเว็บขายแพ็กเกจสุขภาพที่ใหญ่มากๆ ก็เลยตัดสินใจจองคิวทำนัดเข้าไปตรวจเลยค่ะ

สำหรับ Bangkok Anti-Aging Center หรือ BAAC มี 3 สาขาค่ะ คือ สาขาสยาม สาขาสุทธิสาร และสาขาบางนา ซึ่งพีมก็เลือกสาขาบางนา เพราะใกล้บ้าน เดินทางสะดวกค่ะ

รีวิว ตรวจระดับวิตามินที่ Bangkok Anti-Aging Center

BAAC สาขาบางนาจะอยู่เลยจากเซ็นทรัลบางนามาเล็กน้อยค่ะ ด้านหน้าตึกมีลานจอดรถให้ ถ้าใครขับรถมาให้สังเกตสะพานลอยและ SB Design Square ค่ะ เลยมานิดเดียวก็จะเห็นตัวอาคารและป้ายเขียนว่า BAAC ด้านหน้ามาถึงก็เลี้ยวรถเข้าไปจอดได้เลยค่ะ

Bangkok Anti-Aging Center สาขาบางนา

จากนั้นก็ยื่นคูปองที่ได้รับทางอีเมลจาก HDmall.co.th ให้เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์พร้อมบัตรประชาชนเพื่อยืนยันนัดหมายค่ะ

รีวิว ตรวจระดับวิตามินที่ Bangkok Anti-Aging Center

นั่งรอสักพัก เจ้าหน้าที่ก็นำเอกสารมาให้กรอกข้อมูลส่วนตัว และพาขึ้นไปเจาะเลือดที่ชั้นสองค่ะ บรรยากาศห้องเจาะเลือดก็เป็นโซฟาตัวใหญ่ให้นั่งสบายๆ ไม่ต้องเกร็ง จากนั้นจะมีพยาบาลเข้ามาขอเจาะเลือดเราเพื่อส่งตรวจระดับวิตามินในห้องแลปค่ะ

เจาะเลือดตรวจระดับวิตามินที่ Bangkok Anti-Aging Center

หลังจากเจาะเลือดเสร็จ ก็ลงมาทำนัดหมายอีกครั้ง เพราะการตรวจระดับวิตามินจะต้องรอผลตรวจประมาณ 7-10 วัน แล้วเราค่อยกลับมาฟังผลกับคุณหมอโดยตรงค่ะ

สำหรับโปรแกรมตรวจระดับวิตามิน มีทั้งหมด 11 รายการตามลิสต์ด้านล่างนี้เลยค่ะ

  1. วิตามินเอ (เรตินอล) - Vitamin A (Retinol)
  2. วิตามินอี (แกมม่า-โทโคฟีรอล) - Vitamin E (Gamma-Tocopherol)
  3. วิตามินอี (แอลฟ่า โทโคฟีรอล) - Vitamin E (Alpha-Tocopherol)
  4. ตรวจระดับลูทีน + ซีแซนทีน - Lutein + Zeaxanthin
  5. ตรวจระดับเบต้าคริปโทแซนทิน - Beta Cryptoxanthin
  6. ตรวจระดับไลโคปีน - Lycopene
  7. ตรวจระดับแอลฟ่าแคโรทีน - Alpha Carotene
  8. ตรวจระดับเบต้าแคโรทีน - Beta Carotene
  9. ตรวจระดับโคเอนไซม์คิวเทน - Coenzyme Q10
  10. ตรวจระดับวิตามินซี - Vitamin C (Ascorbic Acid)
  11. ตรวจวิเคราะห์ร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ - Doctor Consultant

ฟังผลตรวจระดับวิตามินกับแพทย์

พอถึงวันนัดหมาย ก็กลับมาที่ BAAC อีกครั้งเพื่อฟังผลตรวจระดับวิตามินกับแพทย์ค่ะ พอเข้าพบคุณหมอเค้าก็เอาผลตรวจระดับวิตามินมาอธิบายให้ฟังแบบเข้าใจง่ายมากๆ ค่ะ โดยผลตรวจระดับวิตามินแต่ละชนิดจะเป็นแท่งขีดพลังที่แบ่งสีออกเป็น 3 สี คือ

  • สีแดง = ระดับวิตามินต่ำว่าเกณฑ์ (Low)
  • สีเหลือง = ระดับวิตามินปานกลาง (Moderate)
  • สีเขียว = ระดับวิตามินสูงตามเกณฑ์ (Excellent)

เหนือแท่งขีดพลังของระดับวิตามินทุกอันก็จะมีลูกศรเขียนว่า “You” สีดำวางอยู่ตรงตำแหน่งระดับวิตามินที่ทางห้องแลปวิเคราะห์ออกมาค่ะ บางอันก็วางอยู่ตรง Low ท้ายๆ บางอันก็วางอยู่ Moderate ปลายๆ เกือบถึง Excellent

รายงานผลตรวจระดับวิตามินที่ Bangkok Anti-Aging Center

ผลตรวจระดับวิตามินมีอยู่หลายตัวมาก พีมขอสรุปในส่วนของรายการวิตามินที่ทำให้แปลกใจมากที่สุดแล้วกันนะคะ เพราะโดยส่วนตัวเข้าใจมาตลอดว่าได้รับวิตามินเหล่านี้เพียงพอ แต่สรุปแล้วกลับไม่เป็นไปตามที่คิดเลยค่ะ เพราะผลตรวจออกมาอยู่ในเกณฑ์ต่ำหลายตัวเลย

1. ตัวแรกที่ทำให้แปลกใจก็คือ “ซีแซนทีน” (Zeaxanthin) ค่ะ เป็นสารประกอบที่เกี่ยวกับการมองเห็นและป้องกันการทำลายเซลล์ประสาทตา จะมีอยู่เยอะในผลไม้สีส้มๆ หรือไข่แดง

ตอนแรกนึกว่าเรามีซีแซนทีนในร่างกายเยอะพอแล้วนะ สรุปไม่ใช่ ผลตรวจออกมาอยู่ในขีดสีแดงค่ะ คุณหมอเลยแนะนำให้กลับไปกินอาหารเสริมหน่อย โดยสามารถหาซื้อได้ทั่วไปเลย ถ้าอ่านหน้าฉลากพวกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมก็จะเขียนไว้เลยว่า Zeaxantein เลยค่ะ

2. ตัวที่สองถัดมา ก็คือ “ไลโคปีน” (Lycopene) ค่ะ มีประโยชน์ด้านการป้องกันผิวจากแสงแดด ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดมะเร็งได้ด้วย ถ้าเอาผักเด่นๆ ที่เจอวิตามินตัวนี้ได้เยอะก็จะเป็นมะเขือเทศซึ่งเราชอบกินมาก แต่ผลตรวจออกมาดันอยู่ในเกณฑ์สีแดงซะงั้น

จากที่คุยกับคุณหมอก็อธิบายว่า บางทีเราอาจจะกินไลโคปีนพอ แต่ด้วยกิจกรรมปั่นจักรยานที่ทำเป็นประจำ พอกินอาหารที่มีไลโคปีนเข้าไปก็ถูกร่างกายเอามันไปใช้เป็นพลังงานปั่นจักรยานจนหมดเกลี้ยงเลย ผลตรวจมันเลยออกมาเป็นตัวแดงแบบนี้ และแนะนำให้กินอาหารเสริมให้เยอะขึ้นอีกหน่อยค่ะ

3. และตัวสุดท้ายก็คือ “แคโรทีน” (Carotene) ซึ่งก็อยู่ในผักผลไม้สีส้มค่ะ มีจุดเด่นด้านการช่วยลำเลียงสารอาหารในหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดี ตอนแรกก็นึกว่าตัวเองมีวิตามินตัวนี้เยอะเหมือนกัน แต่ผลตรวจออกมาอยู่ในระดับกลางๆ เท่านั้นเองค่ะ

ปรึกษาแพทย์เรื่องผลตรวจระดับวิตามินที่ Bangkok Anti-Aging Center

ส่วนรายการวิตามินตัวอื่นๆ ก็ออกมาอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ในระดับพอดีๆ แต่ไม่ได้สูงมากค่ะ จะมีก็เบต้าคริปโทแซนทิน (β-Cryptoxanthin) โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) และวิตามินซีที่อยู่ในระดับสูงใช้ได้หน่อย โดยสรุปคุณหมอก็แนะนำว่า ควรปรับแนวทางการวิตามินอยู่หลายตัวเลยค่ะ

รู้ผลตรวจวิตามินแล้ว กินวิตามินอะไรดี?

ปัจจุบัน พีมกินวิตามินและแร่ธาตุที่เน้นให้พลังงานต่อร่ายกายมาก เพราะคิดว่าจะได้ช่วยเรื่องการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน จนลึมคิดไปว่า เราควรกินวิตามินที่ช่วยชะลอวัยหรือวิตามินที่เสริมด้าน Anti-Aging ด้วย

เพราะวิตามินฝั่ง Anti-Aging จะช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของเซลล์ในร่างกายเราได้ ซึ่งการที่เซลล์ในร่างกายมันยังเฟรชอยู่ ก็จะทำให้เรามีพละกำลังทำกิจกรรมต่างๆ ได้เยอะขึ้น โรคภัยต่างๆ ก็จะไม่เกิดง่ายๆ เพราะเซลล์ร่างกายยังต้านทานเชื้อโรคได้ดีอยู่ ที่สำคัญมันยังทำให้เราดูไม่แก่เร็วด้วยค่ะ ผิวพรรณก็จะยังผ่องใส ริ้วรอยบนใบหน้าก็จะเกิดน้อยลง

ผลตรวจระดับวิตามินที่ Bangkok Anti-Aging Center

พีมเองก็เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องผิวพรรณและรูปลักษณ์เหมือนกัน ไม่ใช่แค่อยากเติมพลังให้ร่างกายเยอะๆ เพื่อเอาไปปั่นจักรยานเยอะอย่างเดียว

พอผลตรวจออกมาพบว่าร่างกายยังขาดวิตามินและแร่ธาตุสำคัญอีกหลายตัว ก็เกิดคำถามว่า แล้วแบบนี้เราควรกินวิตามินอะไรดี?

คุณหมอก็อธิบายว่า ลำพังการรับวิตามินจากอาหารที่กินเป็นประจำอาจจะไม่พอค่ะ เพราะกิจวัตรของเราที่ทำให้เสียพลังงานเยอะ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรกินวิตามินเสริมเป็นเม็ดๆ ด้วย แต่ก็ต้องดูจากผลตรวจด้วยว่าควรเสริมตัวไหน เพราะไม่ใช่ว่าวิตามินทุกตัวจะดีต่อร่างกาย เพราะหากเรากินวิตามินมากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียเหมือกนันค่ะ

จากผลตรวจระดับวิตามินและคำอธิบายจากคุณหมอ ทำให้วางแผนการกินวิตามินเสริมได้ดีมากๆ โดยคุณหมอก็ช่วยคำนวณปริมาณมิลลิกรัมที่ควรได้รับต่อวันให้เราด้วยค่ะ ประทับใจมากๆ เลย

หลังจากนี้พีมก็จะกลับไปปรับตารางการกินวิตามิน แล้วกลับมาตรวจระดับวิตามินซ้ำอีกครั้งเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของระดับวิตามินในร่างกายค่ะ ซึ่งคุณหมอก็แนะนำให้ลองไปปรับพฤติกรรมประมาณ 6 เดือน แล้วค่อยกลับมาตรวจซ้ำอีกครั้ง หรือจะรอสัก 1 ปีก่อนก็ได้ค่ะ

โดยส่วนตัวพีมมองว่า การตรวจระดับวิตามินในร่างกายก็เป็นอีกโปรแกรมการตรวจที่สำคัญไม่แพ้การตรวจสุขภาพประจำปีเลยนะคะ เพราะการตรวจสุขภาพประจำปีทำให้เรารู้ความเสื่อมของร่างกายในระบบต่างๆ แต่การตรวจระดับวิตามิน ทำให้เรารู้ว่าควรเสริมเติมอะไรให้ร่างกายบ้าง

รีวิวตรวจระดับวิตามินที่ Bangkok Anti-Aging Center

พีมก็ต้องขอขอบคุณคุณหมอที่ BAAC มากๆ เลยที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการกินวิตามินกับพีม ถ้าไม่ได้มาตรวจวิตามินที่นี่ พีมก็คงมองข้ามเรื่องการกินวิตามินฝั่ง Anti-Aging ไปเลยจริงๆ ค่ะ แล้วก็คงจะกลายเป็นคนที่แก่เร็ว ใบหน้ามีแต่ริ้วรอยเต็มไปหมดแน่ๆ 555+

สำหรับเพื่อนๆ นักกีฬา คนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ หรือนักปั่นจักรยานแบบพีมนะคะ อย่ามัวแต่กินอาหารเสริมที่ช่วยเติมพลังให้กับเราอย่างเดียว แต่วิตามินฝั่งที่ช่วยชะลอวัยให้กับร่างกายของเราก็ละเลยไม่ได้เหมือนกันค่ะ

ส่วนแพ็กเกจตรวจวิตามินที่ BAAC พีมขอเชิญชวนให้ทุกคนมาลองตรวจดูค่ะ จะได้รู้ว่า เราควรกินอาหารและวิตามินเสริมอย่างไรให้ส่งผลดีต่อร่างกายที่สุด อย่าลืมลองมาตรวจกันนะคะทุกคน

ข้อมูล Bangkok Anti-Aging Center

ขยาย

ปิด

  • สาขาสุทธิสาร: อาคาร BAAC เดินทางด้วย MRT สถานีสุทธิสาร ทางออก 2-3 ต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาในซอยประมวลสุข ดูแผนที่
  • สาขาสยาม: คลินิกอยู่ที่ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ชั้น 8 เดินทางด้วย BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออก 5 ดูแผนที่
  • สาขาบางนา: อาคาร BAAC อยู่ติดกับ SB Design บนถนนบางนาตราด กม.ที่ 4 ก่อนถึงทางแยกไปถนนศรีนครินทร์ ดูแผนที่
  • ดูแพ็กเกจทั้งหมดจาก Bangkok Anti-Aging Center ที่นี่

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat