ใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด สามารถผลิตน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นหญิงอย่างสมบูรณ์ และทำให้การตกแต่งภายในช่องคลอดเหมือนธรรมชาติมากขึ้นด้วย
🚀 จองแพ็กเกจได้ด้วยตัวเอง ฟรี! ง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน
- กด จองเลย
- กรอกข้อมูลให้ครบ
- คลิกส่งข้อมูลให้ HDmall
เสร็จแล้วอย่าลืมเช็กคิวและทำนัดผ่านแอดมิน HDmall เท่านั้นนะ (นัดล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชม.)
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌈 เส้นทางสู่ความเป็นตัวของตัวเองที่แท้จริง! คุณเคยรู้สึกว่าชีวิตของคุณไม่สมบูรณ์แบบหรือไม่? การแปลงเพศอาจเป็นคำตอบที่คุณค้นหา มาเริ่มต้นการเดินทางสู่ความเป็นหญิงอย่างมีคุณภาพด้วย แพ็กเกจแปลงเพศเทคนิคต่อลำไส้ (แบบส่องกล้อง) ที่ โรงพยาบาลยันฮี!
🏥 ทำไมต้องเลือกบริการนี้? การแปลงเพศจากชายเป็นหญิงด้วยเทคนิคต่อลำไส้ใหญ่ ช่วยให้คุณมีช่องคลอดที่เสมือนจริง พร้อมประสิทธิภาพในการผลิตน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้การมีเพศสัมพันธ์เป็นไปอย่างราบรื่นและสุขสบายมากขึ้น
💡 เหมาะสำหรับใคร?
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาช่องคลอดตีบตัน
- ผู้ที่มีความรู้สึกเป็นหญิงและใช้ชีวิตในบทบาทนี้มาเป็นเวลานาน
🛌 สิ่งที่รวมในแพ็กเกจ:
- การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 6 – 7 ชั่วโมง
- พักฟื้นที่โรงพยาบาล 5 คืน พร้อมการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
อย่ารอช้าที่จะก้าวเข้าสู่ชีวิตใหม่ที่คุณฝันถึง! จองบริการ กับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th และเริ่มต้นการเดินทางสู่ความเป็นตัวของตัวเองให้เร็วที่สุด 📅
ให้โอกาสตัวเองได้สัมผัสความสุขในชีวิตใหม่ เริ่มต้นที่นี่!
รายละเอียด
รายละเอียดราคา แก้ไขการแปลงเพศ
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าแก้ไขการแปลงเพศที่อื่นด้วยลำไส้ใหญ่ แบบส่องกล้อง
- ค่านอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 5 คืน
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าปรึกษาศัลยแพทย์และจิตแพทย์ก่อนแปลงเพศด้วยลำไส้ใหญ่
- ค่าแพทย์ ท่านละประมาณ 1,000 บาท
- ค่าบริการโรงพยาบาล ครั้งละ 250 บาท
หมายเหตุ
- ถ้ามารับบริการที่โรงพยาบาลเป็นครั้งแรก จะมีค่าลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ 20 บาท
- ถ้าเคยฉีดสารต่างๆ มาก่อน เช่น ซิลิโคน สารเติมเต็ม เป็นต้น และต้องการปรึกษาแพทย์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มดังนี้
- ค่าแพทย์ 1,000 บาท (กรณีที่ไม่รับบริการในวันที่ปรึกษา)
- ค่าบริการโรงพยาบาล 250 บาท
- ถ้าต้องการปรึกษาแพทย์ท่านอื่นเพิ่ม จะต้องจ่ายค่าแพทย์เพิ่มประมาณ 1,000 บาท
- อาจมีค่ายาบางรายการเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
- Cashback ที่ได้รับจะไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นนอกเหนือจากบริการที่จอง เช่น ค่ายาผู้ป่วยนอก ค่าตรวจวินิจฉัย เป็นต้น
- หากวันที่ไปประเมินมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม HD จะออกค่าประเมินให้เฉพาะครั้งแรก โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากการประเมิน (เช่น ตรวจโควิด หรือค่ายา เป็นต้น)
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ แก้ไขการแปลงเพศ
- เทคนิคการต่อลำไส้⠀ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 6 – 7 ชั่วโมง
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขในกรณีที่แปลงเพศแล้วช่องคลอดตีบตัน หรือในผู้ที่ต้องการช่องคลอดที่มีความลึกมาก วิธีนี้ต้องทำการผ่าตัดช่องท้อง โดยนำลำไส้ใหญ่บางส่วน ประมาณ 7-8 นิ้ว มาสร้างเป็นผนังช่องคลอด ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกจะเหมือนกับแบบต่อกราฟทุกประการ
- ข้อดี มีผิวด้านในช่องคลอดที่เสมือนจริงกว่า โอกาสตีบตันน้อยกว่า
- ข้อเสีย มีแผลบนหน้าท้อง อาจจะเกิดคีลอยด์ได้ พักฟื้นนาน ค่าใช้จ่ายสูง
- ราคานี้สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเท่านั้น
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้นไม่สามารถออกใบเสร็จได้
⠀ข้อควรรู้ก่อนผ่าตัดแปลงเพศ
- ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป (ในกรณีที่อายุ 18 -20 ปี ต้องมีจดหมายรับรองจากผู้ปกครองเพื่อยินยอมการผ่าตัด) ส่วนอายุน้อยกว่า 18 ปี ยังไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้
- ใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงติดต่อกันเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไป โดยที่มีความรู้สึกเป็นหญิงมานานแล้ว รวมถึงเคยได้รับฮอร์โมนเพศหญิงมาก่อนอย่างน้อย 1 ปี
- ผ่านการประเมินสภาพจิตใจและมีใบรับรองจากจิตแพทย์อย่างน้อย 2 ท่าน
- สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่รุนแรงที่เป็นข้อห้ามในการดมยาสลบ
⠀เตรียมตัวอย่างไรก่อนผ่าตัดแปลงเพศ
- ต้องเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อแพทย์ที่ทำการผ่าตัดจะได้ทราบถึงสภาพความพร้อมของร่างกาย
- หากรับประทานยาชนิดใดอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ที่ทำการผ่าตัดทราบ เพื่อแนะนำว่าควรหยุดยาหรือเปลี่ยนแปลงตัวยาก่อนเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่
- ควรหยุดใช้ยาฮอร์โมนล่วงหน้า 1 เดือน
- งดวิตามิน อาหารเสริม 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ 1 เดือน
- งดแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์
- ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย 2-3 วัน เพื่อให้ภายในลำไส้มีการตกค้างของกากอาหารน้อยลง ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
การดูแลหลังรับบริการ
- หลังผ่าตัดนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 5 วัน
- ในช่วง 2 วันแรก ควรลดอาหารที่มีกากและเครื่องดื่มประเภทนมที่อาจทำให้มีกากและเกิดการขับถ่ายมาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
- ควรทำความสะอาดช่องคลอดด้วยน้ำยาป้องกันและฆ่าเชื้อโรค หรือน้ำเกลือล้างแผล วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น และวันละ 1 ครั้ง หลัง 1 เดือน จนประมาณ 6 เดือน
- ทาขี้ผึ้งรักษาที่บริเวณแผล รูเปิดท่อปัสสาวะ และคลิตอริสทุกครั้งหลังอาบน้ำ
- สามารถลุกเดินได้หลังผ่าตัด 5 วัน
- หากเกิดความผิดปกติต่างๆ เช่น ปัสสาวะขัด, ช่องคลอดตีบ, ปากช่องคลอดหดแคบ, แผลผ่าตัดแยก แนะนำให้มาพบแพทย์
- ควรรับประทานฮอร์โมน เพื่อคงสภาพความเป็นหญิงอย่างต่อเนื่อง สามารถเริ่มรับประทานฮอร์โมนหลังการผ่าตัดไปแล้ว 1 เดือน
- ควรใส่วัสดุขยายช่องคลอดเทียม หรือการแยงโม เพื่อป้องกันไม่ให้ช่องคลอดตีบตัน โดยแนะนำให้แยงโมทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ครั้งละ 15-30 นาที นาน 1 ปี หลัง 1 ปีขึ้นไปหากมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอไม่จำเป็นต้องแยงโม แต่เมื่อไรที่ไม่มีเพศสัมพันธ์ให้แยงโมอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง สำหรับการผ่าตัดแบบต่อลำไส้จำเป็นต้องแยงโมบริเวณปากทางช่องคลอดวันละ 1 ครั้ง
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- การผ่าตัดโดยใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด เป็นส่วนหนึ่งของการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
- ผู้ที่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง จะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ ทำความเข้าใจ และวางแผนการผ่าตัดอย่างละเอียด
- ควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับการงดรับประทานยา วิตามิน อาหารเสริม หรือเครื่องดื่มที่อาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
- หากมีโรคประจำตัว จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
ข้อห้ามสำหรับการแปลงเพศด้วยลำไส้ใหญ่
- ผู้ที่เป็นโรคในกลุ่มลำไส้ เช่น ลำไส้อักเสบ หรือมีกระเปาะที่ลำไส้
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
คุณสมบัติของผู้ที่สามารถผ่าตัดแปลงเพศ ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
- ในกรณีที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี จะต้องมีจดหมายรับรองจากผู้ปกครองเพื่อยินยอมการผ่าตัด
- ต้องใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป และมีความรู้สึกเป็นหญิงมานานแล้ว
- ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงมาก่อน อย่างน้อย 1 ปี
- ผ่านการประเมินสภาพจิตใจ และมีใบรับรองจากจิตแพทย์ อย่างน้อย 2 ท่าน
- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก บวม ติดเชื้อ แพ้ยาชา หรือแพ้ยาสลบ
- การผ่าตัดต่อลำไส้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างการอักเสบภายในช่องท้อง การรั่วของรอยต่อลำไส้ หรือการติดเชื้อในช่องท้องได้
- ปวดแผล สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่งให้
- ความรู้สึกทางเพศลดลง
- ช่องคลอดตีบ หรือท่อปัสสาวะตีบ
- ช่องคลอดทะลุเข้าลำไส้
- เนื้อตาย
- เกิดแผลเป็นที่หน้าท้อง ในกรณีที่ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดแผลหน้าท้อง
- อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดตกแต่งแคมหลังแปลงเพศเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการแก้ไขการแปลงเพศ
การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง เป็นการผ่าตัดเพื่อตกแต่งอวัยวะเพศชายภายนอกให้มีรูปร่างเหมือนอวัยวะเพศหญิงมากที่สุด
การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง มี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่
- สร้างช่องคลอดเทียม เริ่มจากตัดต่อท่อปัสสาวะที่ยาวให้สั้นลง และอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง สามารถนั่งปัสสาวะได้ จากนั้นจึงทำช่องคลอดเทียม โดยความลึกของช่องคลอดจะขึ้นอยู่กับความยาวของอวัยวะเพศเดิม
- ตกแต่งรูปร่างแคมใน และแคมนอกให้เหมือนอวัยวะเพศหญิงมากที่สุด
- ตกแต่งประสาทรับความรู้สึก โดยเก็บเส้นเลือด และเส้นประสาทรับรู้ไว้ แล้วสร้างเป็นปุ่มคลิตอริส (Clitoris) ซึ่งเป็นจุดสัมผัสรับรู้ทางเพศ
แพ็กเกจนี้ใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด (Colon Graft)
ในขั้นตอนการสร้างช่องคลอดเทียมขึ้นมาใหม่นั้น แพทย์จะต้องสร้างผนังเยื่อบุช่องคลอดเพื่อไม่ให้ช่องคลอดตีบแคบ แบ่งเป็น 2 วิธีหลักๆ คือ การบุเนื้อเยื่อชนิดที่ไม่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ และการบุเนื้อเยื่อชนิดที่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ
การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง โดยใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด (Colon Graft) เป็นหนึ่งในเทคนิคการตกแต่งภายในช่องคลอดด้วยเนื้อเยื่อชนิดที่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นหญิงอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะลำไส้ใหญ่สามารถผลิตน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติได้
นอกจากนี้การใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด ยังสามารถทำในผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศมาแล้ว แต่มีปัญหาช่องคลอดตีบตันจนทำให้ไม่สามารถร่วมเพศได้อีกด้วย
ข้อดีของการใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด
- ไม่ต้องใช้เจลหล่อลื่นช่วยในการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเนื้อเยื่อสามารถผลิตเมือกได้เองตามธรรมชาติ
- เหมาะสำหรับผู้ที่อวัยวะเพศเดิมมีขนาดเล็ก ทำให้มีเนื้อเยื่อไม่เพียงพอต่อการตกแต่งภายในช่องคลอด
- การใช้เยื่อเมือกธรรมชาติอย่างลำไส้ใหญ่ จะช่วยให้การตกแต่งภายในช่องคลอดมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาการตีบตันช่องคลอด ในผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดทำผนังช่องคลอดด้วยเนื้อเยื่อชนิดที่ไม่มีเยื่อธรรมชาติได้
ข้อจำกัด
- มีความเสี่ยงมากกว่าการทำผนังเยื่อบุช่องคลอดด้วยเนื้อเยื่อชนิดไม่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ เพราะต้องผ่าตัดต่อลำไส้ภายในช่องท้อง
หมายเหตุ
- หลังเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง โดยใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
- การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง จำเป็นต้องทำกับศัลยแพทย์ที่ชำนาญการและมีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกทำกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้
สถานพยาบาลอื่นที่มีบริการ ผ่าตัดแปลงเพศ ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลยันฮี ผ่าน HDmall
จองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th แล้วชำระเงินที่โรงพยาบาล จากนั้นเก็บใบเสร็จมารับ แคชแบ็ก* (กรณีลูกค้าใช้สิทธิประกันจะไม่สามารถรับแคชแบ็กได้)
- กดจองแพ็กเกจที่ต้องการและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- รับอีเมลเพื่อยืนยันการจอง พร้อมรหัสคูปองสำหรับขอแคชแบ็กจาก HDmall คูปองมีอายุ 30 วัน
- เช็กคิวหรือทำนัดผ่านแอดมิน HDmall เท่านั้น เพื่อรับสิทธิพิเศษ
- เข้ารับบริการตามวันและเวลานัดที่ระบุในคูปอง เมื่อถึงโรงพยาบาล เพียงแสดงบัตรประชาชน ณ ศูนย์บริการลูกค้า ชั้น 1 โดยไม่ต้องแสดงคูปอง HDmall เข้ารับบริการ ชำระเงินตามยอดที่ฝ่ายการเงินแจ้ง
- แจ้งขอแคชแบ็กจาก HDmall ภายใน 30 วันหลังชำระเงิน ทางไลน์ @hdcoth โดยพิมพ์ '5' หรือ 'ขอแคชแบ็ก' ลูกค้าจะได้รับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
หลักฐานที่ใช้ขอแคชแบ็ก
- รูปใบเสร็จของโรงพยาบาล
- รูปสมุดบัญชี
- รูปรหัสคูปองที่ได้รับ
หมายเหตุ
- แพ็กเกจนี้ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ลูกค้าต้องชำระค่าแพทย์และค่าบริการปรึกษาแพทย์ในราคาเต็มที่โรงพยาบาลไปก่อน หลังจากนั้นค่อยแจ้งแอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อกรอกแบบฟอร์มขอแคชแบ็กภายหลัง (ขั้นตอนการขอแคชแบ็กพร้อมรหัสจะแสดงในอีเมล)
- *จะได้รับแคชแบ็กเฉพาะแพ็กเกจที่ร่วมรายการ (สอบถามรายละเอียดได้จากแอดมิน)
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลยันฮี อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th