ยาลดความอ้วน เป็นตัวช่วยลดน้ำหนักที่ต้องใช้ควบคู่กับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ภายใต้การควบคุมของแพทย์
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าปรึกษาแพทย์เรื่องลดน้ำหนัก และรับยาลดน้ำหนัก 1 สัปดาห์
หมายเหตุ
- ยาลดน้ำหนัก เป็นสูตรเฉพาะของศูนย์การแพทย์ธนบุรี
- ยังไม่รวมค่าหัตถการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การทำเลเซอร์ และทรีตเมนต์สลายไขมัน ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 30 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล จึงควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
- หากเกิดความผิดปกติใดๆ หลังรับบริการ ควรรีบพบแพทย์ทันที
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาและประเมินความเสี่ยงในการใช้ยาลดน้ำหนัก
- แพทย์อาจมีการตรวจมวลไขมันในร่างกายเพื่อดูว่าเข้าข่ายโรคอ้วนที่จำเป็นต้องรักษาด้วยยาลดความอ้วนหรือไม่
การดูแลหลังรับบริการ
- รับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หากกินยาแล้ว ใจสั่นตลอดเวลา และมีอาการประสาทหลอน แนะนำว่าควรหยุดยา และไปพบแพทย์โดยด่วน
- ดื่มน้ำให้มากขึ้นหรือจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันอาการปากแห้ง คอแห้ง
- รับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
ก่อนตัดสินใจ
- การใช้ยาลดน้ำด้วยตนเอง โดยไม่ปรึกษาแพทย์นั้นมีอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกชนิดของยาลดน้ำหนักที่เหมาะสมต่อร่างกายของแต่ละบุคคล
ข้อห้ามสำหรับการลดน้ำหนักด้วยยา
- ห้ามใช้ยาลดน้ำหนักกับสตรีมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงในนมบุตร
- ห้ามซื้อยามารับประทานเอง
- ผู้ป่วยจิตเวชควรปรึกษาจิตแพทย์ก่อน
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ
- ผู้ที่ป่ยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่ไม่สามารถควบคุมการกินได้
- ผู้ที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้
- ผู้ป่วยไขข้อเสื่อม
- ผู้ป่วยโรคอ้วน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความดันโลหิตสูง
- นอนไม่หลับ
- ปากแห้ง คอแห้ง
- คลื่นไส้ ท้องเสีย ถ่ายเป็นคราบไขมัน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร
- ใจสั่น
สิ่งที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- การตั้งครรภ์
- โรคประจำตัว
- ยา วิตตามิน อาหารเสริมที่รับประทานเป็นประจำ
- ประวัติการแพ้ยา
ข้อมูลทั่วไป
การลดน้ำหนักด้วยยา⠀คือ การลดน้ำหนักด้วยการใช้ยา ควบคู่กับการคุมอาหารหรืออื่น ๆ ซึ่งแพทย์จึงมักจะเลือกใช้ยาลดน้ำหนักในกรณีที่ผู้เข้ารับบริการนั้นเป็นโรคอ้วน หรือมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยวิธีปกติ เช่น การออกกำลังกายห รือการควบคุมอาหาร เนื่องจากการลดน้ำหนักด้วยยานั้นยังมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอยู่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
ชนิดของยาลดน้ำหนักมีอะไรบ้าง
- ยาลดความอยากอาหาร มีคุณสมบัติในการออกฤทธิ์กับประสาทส่วนกลาง ช่วยลดความอยากอาหาร เป็นยาที่ใช้ร่วมกับการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และภาวะคอเลสเตอรอลสูง โดยยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก อีกทั้งยังจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ฉะนั้นในการใช้จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
- ยาละลายไขมัน เป็นยาที่มีหน้าที่ดักไขมันเอาไว้และขับถ่ายออกมาทางอุจจาระ ทำให้อุจจาระเป็นมูกลื่น เมื่อรับประทานไปนานๆ สามารถทำให้ขาดวิตามินบางอย่างได้ เพราะไขมันมีส่วนสำคัญในการช่วยดูดซึมของวิตามินบางชนิด
- ยาขับน้ำ เป็นยาที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยและมีปริมาณมากขึ้น ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ยากลุ่มนี้ไม่ได้ช่วยให้ไขมันส่วนเกินหายไป ที่หายไปคือน้ำในร่างกาย
- ยาระบาย เป็นยาที่กระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว ทำให้รู้สึกอยากถ่าย เหมาะสำหรับคนที่ท้องผูก ถ่ายยาก
- อาหารเสริมและสมุนไพรที่ใช้ในการลดน้ำหนัก เป็นกลุ่มยาที่ทำขึ้นมาเพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญได้ดีขึ้น แต่ไม่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้โดยตรง
ข้อดี
- สะดวก สามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว
- เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถลดน้ำหนักด้วยวิธีปกติ
- สามารถลดน้ำหนักได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ในระยะที่กำหนด (หากปฏิบัติตามที่แพทย์กำหนดอย่างเคร่งครัด)
ข้อเสีย
- น้ำหนักตัวสามารถกลับมาเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นได้หากใช้ยาไม่ถูกวิธี
- เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ไม่ยั่งยืน
- ผลข้างเคียงค่อนข้างอันตรายหากไม่อยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หมายเหตุ
- ยาลดความอ้วนมีหลายประเภท ขนาดและการใช้ยาก็แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
- ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
- หากสามารถลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมายแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ในเรื่องการหยุดยาและไม่ควรหยุดยาด้วยตนเอง
คลินิก ศูนย์สุขภาพอื่นๆ ที่มี โปรแกรมลดน้ำหนัก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- กด 'ชำระเงินออนไลน์' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 24 ชั่วโมงหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่ศูนย์การแพทย์เพื่อรับบริการ
จองผ่าน HDmall.co.th แล้วไปจ่ายเงินที่ศูนย์การแพทย์ รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- กด 'สอบถามข้อมูล' แล้วแจ้งชื่อและข้อมูลสำหรับจองแพ็กเกจกับแอดมิน
- รับคูปองทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่ศูนย์การแพทย์เพื่อรับบริการ และชำระค่าแพ็กเกจราคาเต็ม
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของศูนย์การแพทย์
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่ศูนย์การแพทย์ได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ ศูนย์การแพทย์ธนบุรี อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) 15.45-18.30 น. (รับคิวสุดท้าย 18.00 น.)
-
ใช้ MRT ลงสถานีท่าพระ จากนั้นต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้าง 20-30 บาท หรือใช้ BTS ลงสถานีวงเวียนใหญ่ จากนั้นต่อแท็กซี่ประมาณ 50 บาท
-
จอดรถที่หน้าคลินิก
-
จ่ายบัตรเครดิตได้ ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม