ตรวจเต้านมด้วยวิธีอัลตราซาวด์

มะเร็งเต้านม เกิดจากเนื้อเยื่อที่มีความผิดปกติส่วนใดส่วนหนึ่งภายในเต้านมเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์มะเร็งและขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นก้อนเนื้อร้าย ก่อนจะลุกลามไปสู่เนื้อเยื่อข้างเคียงและแพร่กระจายไปยังเซลล์อื่นของร่างกาย แม้มะเร็งชนิดนี้จะสามารถพบได้ทั้งในเพศหญิงและชาย แต่มีโอกาสพบในเพศชายน้อยมากเพียง 1% เท่านั้น
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านม

• อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป 
• มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านมมาแล้วข้างหนึ่ง 
• มีประวัติการเป็นมะเร็งรังไข่ 
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม 
• การกลายพันธุ์ของยีน BRCA 1 หรือ BRCA 2 สามารถตรวจการกลายพันธุ์ของยีนนี้ได้ด้วยการตรวจเลือดหรือเนื้อเยื่อ
• การสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นเวลานาน
• ลักษณะของการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ความอ้วน ขาดการออกกำลังกาย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือได้รับรังสีในปริมาณสูง เป็นต้น
  อาการที่ควรรีบพบแพทย์
  มะเร็งเต้านมอาจมีอาการได้หลากหลาย แต่ที่สังเกตเห็นได้ชัดเป็นครั้งแรกคือการคลำพบก้อนหรือบริเวณเนื้อเยื่อเต้านมหนาขึ้น รวมถึงหากสังเกตเห็นอาการต่อไปนี้ก็ควรพบแพทย์ทันที 
• ขนาดหรือรูปร่างของหน้าอกข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างเปลี่ยนแปลงไป
• มีของเหลวไหลออกมาจากหัวนม อาจมีคราบเลือดปนมาด้วย
• มีก้อนหรือการบวมในบริเวณรักแร้
• มีรอยบุ๋มบนผิวของทรวงอก
• มีผื่นขึ้นบนหัวนมหรือรอบหัวนม
• หัวนมเปลี่ยนรูปทรงไปจากเดิม เช่น หัวนมบุ๋มลงไปในเต้า เป็นต้น
  การวินิจฉัยโรค
• การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) เป็นการตรวจด้วยเครื่องมือที่ใช้รังสีชนิดพิเศษคล้ายการเอกซเรย์ แม้ปริมาณรังสีจะน้อยกว่าเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป แต่ก็สามารถตรวจได้ละเอียดมาก เหมาะสำหรับการตรวจหามะเร็งเต้านมขนาดเล็กเพราะสามารถตรวจได้ตั้งแต่ยังคลำก้อนไม่พบ รวมผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี เนื้อเต้านมไม่หนาแน่นมาก แต่สำหรับผู้ที่อายุน้อยจะแปลผลแมมโมแกรมยาก หากพบก้อนก็ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นน้ำหรือก้อนเนื้อ
• การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นการตรวจด้วยการส่งคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงเข้าไปในเต้านม คลื่นเสียงจะสะท้อนกลับมาที่เครื่องแสดงความแตกต่างของเนื้อเยื่อ สามารถใช้ในผู้ที่อายุน้อยและผู้ที่มีความหนาแน่นของเต้านมสูงกว่าปกติ ทำให้ช่วยวินิจฉัยได้ว่าก้อนต่างๆ ในเต้านมเป็นน้ำหรือก้อนเนื้อ จึงวางแผนการรักษาได้ง่ายขึ้น
  วิธีการรักษามะเร็งเต้านม
  วิธีการรักษามะเร็งเต้านมที่ได้ผลดีและเป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบัน มีดังนี้
• การรักษาโดยการผ่าตัด
• การรักษาโดยการฉายแสง (รังสีรักษา)
• การรักษาโดยยาเคมีบำบัด
• การรักษาโดยใช้ฮอร์โมน
• การรักษาโดยยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (Targeted Therapy)
  หมายเหตุ
• สำหรับผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดเสริมหน้าอก ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับการตรวจทุกครั้ง
• อาการปวดเต้านมอาจไม่ใช่อาการของโรคมะเร็งเต้านมเสมอไป
• แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าควรตรวจเต้านมแบบแมมโมแกรมหรืออัลตราซาวด์ โดยพิจารณาจากอาการ ความผิดปกติ และอายุเป็นรายบุคคลไป 
• การตรวจมะเร็งเต้านมทั้งสองแบบ ควรตรวจที่สถานพยาบาลเดิมในครั้งต่อไป เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลการตรวจจากประวัติเก่าได้อย่างสะดวก แม่นยำ ต่อเนื่อง และช่วยประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ได้ดียิ่งขึ้น

โรงพยาบาลและคลินิกอื่น ที่ให้บริการ ตรวจมะเร็งที่ผู้หญิงเป็นกันเยอะ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่