ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยเทคนิค ThinPrep และหาเชื้อ HPV DNA

การตรวจด้วยเทคนิค ThinPrep

การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test) เป็นวิธีคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยจะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากบริเวณปากมดลูกไปตรวจว่ามีเซลล์มะเร็งหรือเซลล์ผิดปกติที่กำลังกลายเป็นมะเร็งหรือไม่

การตรวจแปปสเมียร์สำคัญอย่างไร?

• ดูความเป็นไปได้ที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก
• สามารถตรวจพบเซลล์ที่อาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้
• ทำให้มีโอกาสตรวจพบเซลล์ผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

การตรวจแปปสเมียร์ทำอย่างไร?

ผู้รับบริการต้องนอนหงาย ขึ้นขาหยั่ง แล้วแพทย์จะใช้แปรงขนาดเล็กเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากบริเวณปากมดลูก ซึ่งการเก็บตัวอย่างสามารถทำได้ภายในคราวเดียวกันกับการตรวจภายใน

จากนั้นตัวอย่างเนื้อเยื่อจะถูกนำไปทดสอบได้ 2 วิธีการ

1. เป็นวิธีดั้งเดิม โดยการป้ายเซลล์หรือเนื้อเยื่อที่ได้ลงบนแผ่นกระจก หลังจากนั้นนำไปย้อมสีและตรวจด้วยกล้องขยาย เพื่อตรวจดูความผิดปกติของเซลล์
2. เป็นการนำเนื้อเยื่อที่ได้ไปใส่ในสารละลาย (liquid) แล้วนำไปผ่านกระบวนการกรองและปั่นต่างๆ จนได้เซลล์ซึ่งปราศจากสิ่งเจือปนอื่น หลังจากนั้นนำเซลล์ที่ได้มาป้ายบนแผ่นสไลด์ย้อมสีตรวจดูด้วยกล้องขยายเช่นเดียวกับวิธีแรก

สิ่งที่สามารถตรวจได้จากแปปสเมียร์

• เซลล์ที่มีความผิดปกติ หรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็ง
• การอักเสบ ซื่งอาจจะสามารถบอกได้ว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส รา หรือพยาธิบางชนิด
• ความผิดปกติจากการติดเชื้อ HPV

แพ็กเกจนี้เป็นการตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) ด้วยวิธี ThinPrep

การตรวจด้วย ThinPrep ตัวอย่างเนื้อเยื่อที่เก็บมาจะถูกนำไปใส่ในสารละลาย แล้วนำไปผ่านกระบวนการเพื่อให้ได้เซลล์ที่ไม่มีสิ่งเจือปนอย่างมูกหรือเลือด ทำให้สามารถตรวจเห็นเซลล์ได้ชัดเจนภายใต้กล้องจุลทรรศน์

ควรตรวจแปปสเมียร์เมื่อไหร่?

แนะนำให้ผู้หญิงทุกคนที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้ว ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปี ปีละ 1 ครั้ง หรืออาจเปลี่ยนเป็นตรวจทุก 3 ปีได้ แล้วแต่ประวัติผลการตรวจและความเสี่ยงในแต่ละคน สามารถรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้จากแพทย์ที่ทำการตรวจ

หมายเหตุ

• การตรวจแปปสเมียร์เป็นการตรวจคัดกรองเท่านั้น หากตรวจพบเซลล์ผิดปกติไม่ได้หมายความว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก และจำเป็นต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าเป็นมะเร็งหรือไม่
• อายุและความถี่ในการตรวจแปปสเมียร์อาจแตกต่างกันในแต่ละหน่วยงาน

ตรวจหาเชื้อ HPV DNA

การตรวจด้วยวิธี HPV DNA คืออะไร?

การตรวจด้วยวิธี HPV DNA คือ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบเจาะลึกถึงระดับ DNA ด้วยวิธี Thin Prep Plus Cervista HPV DNA Testing เพื่อตรวจหาเชื้อเอชพีวี สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงทั้ง 14 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ 16, 18 และ เอชพีวี อีก 12 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง

การตรวจด้วยวิธี HPV DNA ต่างจาก การตรวจด้วย Pap Smear อย่างไร?

การตรวจด้วยวิธี HPV DNA เหมือนกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Pap Smear คือ แพทย์จะใช้เครื่องมือสอดและถ่างช่องคลอด จากนั้นจะทำการนำตัวอย่างเซลล์จากมดลูก ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเซลล์ที่ผิดปกติหรือเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งอาจทำให้เกิดมะเร็งได้

แต่การตรวจด้วยวิธี HPV DNA จะเน้นตรวจหาสายพันธุ์เชื้อไวรัส HPV ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูก ส่วน Pap Smear เป็นการตรวจดูความผิดปกติของเซลล์ ที่อาจเปลี่ยนเป็นมะเร็งในอนาคต

การตรวจด้วยวิธี HPV DNA สามารถตรวจร่วมกับ Pap Smear ได้ เพื่อให้แพทย์มีโอกาสตรวจเจอมะเร็งในระยะเริ่มต้นได้แม่นยำขึ้น

โรงพยาบาลและคลินิกอื่น ที่ให้บริการ ตรวจมะเร็งที่ผู้หญิงเป็นกันเยอะ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่