รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌟 ฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมและตรวจมวลกระดูกในที่เดียว! คุณเคยรู้สึกเจ็บปวดที่ข้อเข่าเมื่อเดินหรือทำกิจกรรมประจำวันหรือไม่? หากคุณพบว่าการเคลื่อนไหวเป็นเรื่องยากและต้องการหาวิธีรักษาที่มีประสิทธิภาพ โปรแกรมฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมและตรวจวัดมวลกระดูกนี้อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา!
🏥 บริการฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมด้วย PRP และการตรวจมวลกระดูก ที่ Bangkok Anti-Aging Center จะช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตที่เคลื่อนไหวได้อย่างปกติอีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการดูแลจากที่มีประสบการณ์
💡 ทำไมต้องเลือกบริการนี้?
- การตรวจมวลกระดูกช่วยให้คุณรู้สถานะสุขภาพกระดูกของคุณได้อย่างชัดเจน
- PRP ช่วยฟื้นฟูข้อเข่าและบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การตรวจสแกนร่างกาย 8 ระบบฟรี เพื่อให้คุณเข้าใจสถานะสุขภาพโดยรวม
💪 คุณจะได้รับ:
- การตรวจวัดมวลกระดูกเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน
- การฉีด PRP ที่ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมร่างกาย
- การประเมินอาการและคำแนะนำจากแพทย์
อย่าปล่อยให้อาการเจ็บปวดคอยขัดขวางการใช้ชีวิตของคุณอีกต่อไป! จองบริการ กับเราง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th และเริ่มต้นการฟื้นฟูสุขภาพของคุณวันนี้ 📅
ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เริ่มต้นที่นี่!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าฉีด PRP Ready ฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อม 1 ครั้ง
- ค่าตรวจวัดมวลกระดูกและความเสื่อมของมวลกระดูก Bone Density ด้วยเครื่องตรวจวัดมวลกระดูก (Bone Densitometry)
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการ
- ฟรี! ตรวจสแกนร่างกาย Bio Body Scan ด้วยเครื่อง Electro Interstitial Scan (EIS) 8 รายการ มีรายการตรวจดังนี้
- ตรวจสแกนระบบหัวใจและหลอดเลือด ด้วยเครื่อง EIS
- ตรวจสแกนระบบต่อมไร้ท่อ ด้วยเครื่อง EIS
- ตรวจสแกนระบบขับถ่ายและระบบสืบพันธุ์ ด้วยเครื่อง EIS
- ตรวจสแกนระบบสั่งการของประสาทและกล้ามเนื้อ ด้วยเครื่อง EIS
- ตรวจสแกนระบบทางเดินหายใจ ด้วยเครื่อง EIS
- ตรวจสแกนระบบการย่อยอาหาร ด้วยเครื่อง EIS
- ตรวจสแกนระบบประสาทและสมอง ด้วยเครื่อง EIS
- ตรวจสแกนระบบการเผาผลาญอาหาร ด้วยเครื่อง EIS
หมายเหตุ
- ฉีดเข่า 1 หรือ 2 ข้าง ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
- หากต้องการพบแพทย์ก่อนการตรวจและซื้อแพ็กเกจ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1,500 บาท และคิวนัดเป็นตามคลินิกกำหนด
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจมวลกระดูก และฉีด PRP Ready
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 60 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- เจ้าหน้าที่จะนัดวันให้มาฟังผลการตรวจกับแพทย์อีกครั้ง ถัดจากวันตรวจประมาณ 7-14 วัน ไม่สามารถฟังผลทางโทรศัพท์ได้
- กรณีมีการพบแพทย์ และต้องการใบรับรองแพทย์ กรุณาแจ้งแอดมิน HDmall หรือเจ้าหน้าที่คลินิกล่วงหน้า โดยทางคลินิกจะออกใบรับรองแพทย์ (ภาษาไทย) ให้ในวันที่รับบริการ
- สำหรับการตรวจสแกนอวัยวะภายใน ใช้วิธีการเจาะเลือดและตรวจสแกนร่างกายด้วยเทคโนโลยี Electro Interstitial Scan โดยการส่งกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เข้าสู่ร่างกาย เพื่อวัดความต้านทานของน้ำที่อยู่ระหว่างเซลล์แต่ละอวัยวะ
- หากมีการดามเหล็กในร่างกาย หรือทำบอลลูนหัวใจ จะไม่สามารถตรวจร่างกายในส่วนของการสแกนร่างกายได้
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้นไม่สามารถออกใบเสร็จได้
ขั้นตอนรับบริการมีดังนี้
- ตรวจวัดมวลกระดูก ด้วยเครื่องตรวจวัดมวลกระดูก (Bone Densitometry) เพื่อดูความหนาแน่นและความเสื่อมของกระดูก (หากมีผลเอกซเรย์เพิ่มเติมให้นำมาด้วย)
- ประเมินอาการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
- แพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการฉีด PRP (Platelet-Rich Plasma) เข้าสู่ตำแหน่งที่บาดเจ็บ หรือต้องการฟื้นฟูผิวพรรณ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะฉีดภายใน 30 นาที (ฉีดเข่า 1 หรือ 2 ข้าง ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน)
- Bone Densitometry เป็นการตรวจหาความหนาแน่นของมวลกระดูก โดยวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกทั้งร่างกาย ค่าที่ออกมาจะมี 2 ค่า ได้แก่ Z score และ T score
- Z score เกิดจากการนำค่าตัวเลขมวลกระดูกในช่วงอายุเท่ากันกับผู้รับบริการ มาเปรียบเทียบกัน แล้วดูว่าค่ามวลกระดูกสูงกว่าหรือต่ำกว่า ออกมาเป็นตัวเลข
- T score เป็นค่าที่เปรียบเทียบกับคนอายุ 30 ปี ซึ่งหากเป็นผู้สูงอายุ ค่าที่ได้จะออกมาเป็นลบ เพราะมวลกระดูกผู้สูงอายุย่อมต้องพรุนกว่าวัยหนุ่มสาว เป็นการเปรียบเทียบเพื่อดูว่ากระดูกพรุนมากหรือน้อย โดยทั่วไปตัวเลขที่ได้ จะออกมาเป็นช่วง ดังนี้
- ช่วง 0 ถึง -1 ถือว่า ปกติ
- ช่วง -1 ถึง -2.5 ถือว่า กระดูกบาง
- ต่ำกว่า -2.5 ถือว่า กระดูกพรุน โอกาสที่ล้มลงแล้วกระดูกจะหักง่ายมีมากกว่าปกติ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- งดรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน
- งดยา NSAIDs ก่อนและหลังการฉีด PRP เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
- ดื่มน้ำมากๆ ตั้งแต่ก่อนวันฉีด 1 วัน
- ถ้ามีอาการป่วยอยู่ ควรรักษาให้หายก่อน เพราะอาจมีเชื้อในกระแสเลือด
การดูแลหลังรับบริการ
- หลังฉีดอาจมีการปวดตึงบริเวณตำแหน่งที่ฉีด ควรใช้ความเย็นประคบประมาณ 48 ชั่วโมง ร่วมกับรับประทานยาบรรเทาอาการปวด เช่น พาราเซตามอล
- ควรงดยาสเตียรอยด์และยาต้านการอักเสบต่อไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล และประคบเย็นได้
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณตำแหน่งที่ฉีด
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการฉีด PRP
การฉีด PRP จะต้องเก็บเลือดของผู้รับบริการเองมาปั่นแยกเกล็ดเลือด ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเกล็ดเลือดจึงไม่สามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ เช่น
- ผู้ป่วยโรคโลหิตจาง
- ผู้ป่วยที่มีเกล็ดเลือดต่ำหรือเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งกระดูก
- ผู้ป่วยที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจมวลกระดูก และฉีด PRP Ready
ภาวะกระดูกพรุน (Osteoporosis) เป็นภาวะที่ความหนาแน่นของเนื้อกระดูกลดลง ส่งผลให้กระดูกขาดความแข็งแรง แตกหักได้ง่ายแม้เกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย มักพบในหญิงหมดประจำเดือน และพบได้บ้างในผู้ชายและเด็ก
อาการ
ผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุนมักทราบเมื่อมีอาการออกมาแล้ว แต่ก็มีอาการบ่งชี้ที่สามารถสังเกตเพื่อให้รับการรักษาได้แต่เนิ่นๆ และยังมีอาการบ่งชี้อื่นๆ ที่ควรใส่ใจสังเกต เพื่อให้สามารถรักษาได้ทัน
- กระดูกข้อมือ แขน สะโพก และกระดูกสันหลังแตกหักได้ง่าย แม้ถูกกระแทกแบบไม่รุนแรง
- หลังค่อม หรือกระดูกสันหลังส่วนบนโค้งลง
- ความสูงลดลง
- อาจมีอาการปวดหลังเรื้อรังด้วย
การตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูก คืออะไร?
การตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก เป็นการตรวจสุขภาพของกระดูกว่าอยู่ในระดับปกติดีหรือเป็นโรคกระดูกพรุนหรือไม่
การตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก มีข้อดีอย่างไร?
- ทำให้ทราบว่ากระดูกยังมีความหนาแน่นปกติดี หรือมีภาวะกระดูกพรุน จำเป็นต้องได้รับการรักษาหรือเสริมสร้างกระดูกอย่างไรหรือไม่
- หลังจากตรวจ จะได้ทราบวิธีปฏิบัติตัวที่เหมาะสม หรือสิ่งที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
การฉีดเกล็ดเลือดสกัดเข้มข้น หรือการฉีดพีอาร์พี (Platelet Rich Plasma: PRP)
เป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือก ใช้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้ที่มีอาการระดับปานกลาง มีความปลอดภัยมากและมีโอกาสเกิดอาการแพ้น้อย เพราะใช้เกล็ดเลือดที่สกัดจากเลือดของตัวเอง
ในเกล็ดเลือดจะมีโกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) หลายชนิด โปรตีน และเซลล์จากกระแสเลือด ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมหลอดเลือด กระดูก และกล้ามเนื้อ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์และคอลลาเจน อีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวดในข้อได้เป็นอย่างดี
แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมเข้ารับการฉีด PRP หลังจากที่การรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรับประทานยาแก้ปวดไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีด PRP ต้องรักษากี่ครั้ง?
- จำนวนครั้งในการฉีด PRP จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยส่วนมากจะต้องฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ โดยจะเริ่มเห็นผลการรักษาในช่วง 4-6 สัปดาห์เป็นต้นไป
- ผลการรักษาด้วยการฉีด PRP จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ ฮอร์โมน ความรุนแรงของอาการ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย
ขั้นตอนในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีด PRP
- แพทย์จะเก็บเลือดของผู้รับการฉีด PRP ประมาณ 20 ซีซี เพื่อนำไปปั่นแยกชั้นเกล็ดเลือด ใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 นาที จะได้เกล็ดเลือดลักษณะสีเหลืองใสประมาณ 2 ซีซี
- แพทย์ฉีดเกล็ดเลือดบริเวณที่ต้องการรักษา หากเป็นการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมก็จะฉีดบริเวณข้อเข่า
- ในช่วงที่รับการรักษาด้วยวิธีนี้ผู้ป่วยไม่ควรใช้ยาชา ยาต้านการอักเสบ หรือยาสเตียรอยด์ เพราะตัวยาจะไปลดประสิทธิภาพการทำงานของเกล็ดเลือด
ข้อดีของการฉีด PRP
- การฉีด PRP เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยสูง และมีผลข้างเคียงน้อย เพราะใช้เกล็ดเลือดจากตัวผู้ป่วยเอง
- การฉีด PRP อาจทดแทนการใช้ยาฉีดยาสเตียรอยด์ได้ ซึ่งการฉีดยาสเตียรอยด์อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ เช่น ข้อสึกกร่อนรุนแรง ข้ออักเสบจากผลึกสเตียรอยด์
หมายเหตุ
- การฉีด PRP ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ และควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยก่อนตัดสินใจ
- สาร PRP ที่ใช้ฉีดได้มาจากเลือดของตัวเอง ดังนั้นโอกาสแพ้หรือมีปัญหาแทรกซ้อนจึงน้อย อย่างไรก็ตามควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่สะอาดและได้มาตรฐาน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงดังกล่าว
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่มีบริการ ตรวจ รักษา และผ่าเข่า ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Bangkok Anti-Aging Center ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Bangkok Anti-Aging Center อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ


รู้โปรฯ ใหม่ก่อนใคร! แค่ทิ้งเมลไว้ เดี๋ยวเราเตือนคุณเอง
รีวิวของแพ็กเกจ
ต้องนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการหรือไม่?
การตรวจมวลกระดูกคืออะไร?
การฉีด PRP มีผลข้างเคียงหรือไม่?
ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างก่อนเข้ารับบริการ?
แพ็กเกจอื่นใน ตรวจ รักษา และผ่าเข่า
ส่องกล้องซ่อมเอ็นข้อเข่า Asthroscope ACL of Knee
บรรเทาอาการปวดจากข้อเข่าเสื่อม ด้วยแผ่น Nano Needle
ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า รวมพักฟื้นห้องเดี่ยว Standard 5 วัน 4 คืน สำหรับผู้ที่อายุ 55 ปีขึ้นไป
ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP เพื่อรักษาโรคข้อ 1 ครั้ง
แพ็กเกจอื่นใน Bangkok Anti-Aging Center
สวนล้างลำไส้ ด้วยวารีบำบัด (Colon Hydrotherapy) 1 ครั้ง
ตรวจคัดกรองมะเร็ง 27 รายการ สำหรับผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป ฟรี! ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ EKG 1 ครั้ง
ตรวจคัดกรองมะเร็ง 26 รายการ พร้อมฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ชนิด 4 สายพันธุ์ 3 เข็ม สำหรับผู้หญิง
ตรวจภูมิแพ้อาหารเฉียบพลัน และสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ 44 รายการ Allergen-Specific Immunoglobulin E (IgE) ด้วยวิธีเจาะเลือด
