กายภาพบำบัด คืออะไร?

กายภาพบำบัด (Physical Therapy) คือ ศาสตร์การรักษาที่ไม่อาศัยการรับประทานยา แต่รักษาโดยใช้เครื่องมือทางกายภาพ (Physical Modalities) เพื่อบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยในกลุ่มอาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ข้อ กระดูก ระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ (หัวใจและปอด) นอกจากนี้กายภาพบำบัดจะรวมไปถึงโรคที่เกิดจากอุบัติเหตุ โรคออฟฟิศซินโดรม รวมทั้งผู้ป่วยอัมพฤกษ์-อัมพาต ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเสื่อม และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ซึ่งเครื่องมือทางกายภาพมีมากมายหลายชนิด เช่น คลื่นแสง คลื่นเสียง อุณหภูมิ รวมทั้งแรงภายนอกทั้งจากเครื่องมือและแรงที่จากตัวนักกายภาพบำบัดเอง 

ผู้ให้กายภาพบำบัดจะเรียกว่า “นักกายภาพบำบัด” ซึ่งจำเป็นต้องจบการศึกษาด้านกายภาพบำบัดโดยตรง และต้องมีใบประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดที่ออกให้โดยสภากายภาพบำบัดเท่านั้น

นวดเป็นศาสตร์หนึ่งที่ใช้ในการบำบัดรักษา

การนวดเพื่อการรักษา เป็นวิธีที่ให้ผลดีมากสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับระบบกระดูก กล้ามเนื้อ เช่น ออฟฟิศซินโดรม ปวดหลังปวดคอ เรื้อรัง อีกทั้งการนวดเพื่อการรักษา ยังสมารถฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของผู้ป่วยได้ เช่น ผู็ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต รวมไปถึงยังช่วยให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย และลดอาการเครียดของผู้ป่วยได้

ข้อควรระวังสำหรับการนวดเพื่อการรักษา

เหรียญมีสองด้านเสมอ การนวดก็เช่นกัน การนวดเพื่อการักษานอกจากจะยังช่วยลดอาการปวด ให้ความผ่อนคลายทั้งร่างกาย และจิตใจ แต่ในบางกรณีก็มีข้อระวัง และข้อห้าม ดังนี้

•  สำหรับป่วยที่มีไขสูงเกิน 38.5 องศา ควรหลีกเลี่ยงการนวด เพราะ จะทำให้กล้ามเนื้อยอก หรือระบม
• ข้อ และกล้ามเนื้อเมื่อเกิดอาการอักเสบเฉียบพลัน เช่น ปวด บวมแดง ให้หลีกเลี่ยงจนกว่าอาการจะทุเลาลง
• ผู้ป่วยที่เคยได้รับการผ่าตัดกระดูก หรือเคยเกิดอุบัติเหตุบริเวณกระดูก และกระดูกยังไม่ประสานกันดี ควรหลีกเลี่ยงการนวดบริเวณที่เคยมีกระดูกหัก หรือตำแหน่งที่เคยผ่าตัดกระดูก
• ผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน ไม่แนะนำให้รักษาโดยการนวด เพราะกระดูกอาจแตกหักได้
• ผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อทาผิวหนัง หรือมีบาดแผลควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค หรือติดเชื้อได้
• สตรีตั้งครรภ์ไม่ควรนวดบริเวณหนัาท้อง 
• ผู้ที่มีภาวะผิดปกติในการแข็งตัวของหลอดเลือด เพราะอาจทำให้เลือดออกใต้ผิวหนังเป็นจ้ำ หรือเป็นก้อนเลือดในกล้ามเนื้อ ซึ่งเกิดจากการนวดที่รุนแรง

กายภาพบำบัดมีประโยชน์ และช่วยฟื้นฟูร่างกายได้อย่างไรบ้าง

ระบบกระดูก และกล้ามเนื้อ เช่น ผู้ป่วยที่ข้อเท้าพลิกทำให้เอ็นฉีกขาด หลังจากได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางด้านระบบกระดูก และกล้ามเนื้อด้วยการใส่เฝือก โดยการรักษาที่ได้รับจากนักกายภาพบำบัดอาจเริ่มตั้งแต่

• ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลเฝือก 
  
• การเลือกอุปกรณ์ช่วยเดินให้เหมาะสมกับอาการ 
• กิจกรรมที่ผู้ป่วยต้องทำเพื่อให้เคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น เช่น การฝึกเดินด้วยอุปกรณ์ช่วยเดิน การออกกำลังกายเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น อาการบวม หรือการติดแข็งของข้อต่อใกล้เคียง 

เมื่อผู้ป่วยตัดเฝือกออก ต้องฝึกลงน้ำหนักอย่างถูกต้อง การออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อเท้า และการออกกำลังกายเพื่อป้องกันการพลิกซ้ำของข้อเท้าเป็นสิ่งสำคัญมาก 

ระบบประสาท เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต ซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย หรือไม่สามารถขยับร่างกายซีกนั้นได้เลย ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรได้รับการรักษาทางกายภาพบำบัดทันทีที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แม้อาจยังไม่รู้สึกตัวก็ตาม นักกายภาพบำบัดอาจเริ่มรักษาจาก

• เคลื่อนไหวข้อต่อของผู้ป่วยก่อนเพื่อป้องกันการติดแข็ง 
• เมื่อผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัว ก็จะเริ่มฝึกการเคลื่อนไหวตัวเองบนเตียงด้วยกำลังเท่าที่มี เช่น ฝึกนั่ง ฝึกยืน ฝึกเดินด้วยเครื่องช่วยเดินต่างๆ จนกระทั่งผู้ป่วยสามารถกลับมาเดินได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง

ระหว่างการเริ่มฝึกความเคลื่อนไหว หรือออกกำลังกาย ผู็ป่วยอาจจะมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง นักกายภาพบำบัดอาจเลือกใช้อุณหภูมิทั้งความร้อน หรือควาามเย็นเพื่อยับยั้งการเกร็งแข็งที่ผิดปกติ และส่งเสริมการเคลื่อนไหวที่ปกติได้

กายภาพบำบัดในเด็ก เช่น เด็กที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติของสมอง ทำให้มีพัฒนาการล้าช้ากว่าวัย  เช่น ไม่สามารถคลาน ยืน เดิน พูด หรือกลืนอาหารได้อย่างปกติ อาการดังกล่าวสามาถรแก้ไข หรือบรรเทาความรุนแรงของความบกพร่องทางร่างกายในอนาคตด้วยการทำกายภาพบำบัด

กายภาพบำบัดในผู้สูงอายุ เป็นสาขาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะในปัจจุบันทั้งประเทศไทย และประเทศทั่วโลก กำลังขยับเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ นักกายภาพบำบัดที่ทำงานในด้านนี้จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมาก เช่น  

• การออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมความแข็งแรงของร่างกาย
• การจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนสุขภาพจิตที่ดี
• การป้องกันภาวะโรคต่างๆ ที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น เช่น โรคเกี่ยวกับข้อ กระดูก เสื่อม  โรคอัลไซเมอร์  โรคกระดูกพรุน
  
  

ใครบ้างที่ควรทำกายภาพบำบัด?

ผู้ที่มีปัญหาด้านกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น ออฟฟิศซินโดรม ปวดตามส่วนต่างๆของร่างกาย  ปวดคอบ่าไหล่เรื้อรัง ข้อไหล่ติด เอ็นข้อไหล่อักเสบ เอ็นข้อศอกอักเสบ  ปวดหลัง ปวดสะโพกร้าวลงขา  ปวดเข่า เท้าชา รองช้ำ เอ็นร้อยหวายอักเสบ  ปวดส้นเท้า บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา 

ทำกายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาได้ที่ไหนบ้าง

อาการปวดกล้ามเนื้อต่างๆ บรรเทาได้ด้วยกายภาพบำบัด HDmall ได้รวบรวมแพ็คเกจกายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษา ไม่ว่าจะเป็น กายภาพบําบัด จัดกระดูก กายภาพบําบัด คอ  กายภาพบําบัด ข้อเท้า กายภาพบําบัด ข้อเข่าเสื่อม เป็นต้น จากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำมาให้เลือกสรรกัน ปลอดภัย และเชื่อถือได้ อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นส่วนลดดีๆ อีกด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ และคนที่คุณรักสามารถคลิกเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มในเว็บไซต์ได้เลย หากสั่งจองแพ็คเกจกายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาผ่าน HDmall สามารถผ่อนชำระค่าบริการได้ 0% สูงสุด 10 เดือน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำกายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษา