
ฟัน เป็นอวัยวะสำคัญในการบดเคี้ยว ทั้งยังผลต่อการออกเสียงรวมถึงรูปหน้า จึงควรรักษาสุขภาพฟันให้ดีตั้งแต่อายุยังน้อย
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
- ราคาอยู่ในช่วง 4,500-5,000 บาทต่อซี่ ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ประเมิน
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่ารักษารากฟันน้ำนม 1 ซี่
- ค่าทันตแพทย์
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าปฏิบัติงานวิชาชีพบุคลากรทางทันตกรรม ครั้งละ 280 บาท
หมายเหตุ
- กรณีปรึกษาทันตแพทย์แล้วไม่ตัดสินใจทำ มีค่าบริการเพิ่มเติม 300-500 บาท ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์แต่ละท่าน
- ถ้าต้องการฟิล์มเอกซเรย์ หรือต้องรับยา มีค่าบริการเพิ่มเติมดังนี้
- ค่าเอกซเรย์ฟิล์มเล็ก 200 บาท ฟิล์มใหญ่ 850 บาท
- ค่ายา และค่าผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรม ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ประเมิน
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของผู้รับบริการ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรดูแลรักษาฟันให้อยู่ในสภาพปกติก่อนการตรวจ
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ หืดหอบ ลมชัก ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- ผู้ที่ใช้ยาต้านเกล็ดเลือด ควรหยุดใช้ยา 7-10 วัน ก่อนพบทันตแพทย์
- หากมีฟันผุหรือมีหินปูนต้องรักษาก่อนรับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ
- ไม่ควรรับประทานอาหารในทันที ควรงดรับประทานอาหารจนกว่าอาการชาจะหมดไป ป้องกันการกัดลิ้นหรือกระพุ้งแก้ม
- ควรระมัดระวังการใช้งานซี่ฟันที่รักษารากฟัน งดเคี้ยวหรือกัดอาหารด้วยฟันซี่ดังกล่าว อาจทำให้ฟันแตกหรือหักได้
- ในกรณีที่วัสดุอุดฟันชั่วคราวเกิดหลุด ให้กลับมาพบทันตแพทย์ทันที เพื่อป้องกันโรคในช่องปากที่สามารถเข้าสู่ภายในคลองรากฟันได้
- ควรมาตามนัดแพทย์ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการถอนฟันซี่นั้นออก
ก่อนตัดสินใจ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจมีอาการปวดภายใน 1-3 วันแรกหลังการรักษา สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ แต่หากไม่ดีขึ้นควรกลับไปพบทันตแพทย์
- หากมีอาการต่อไปนี้ ควรกลับไปพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด
- มีอาการบวมภายในหรือภายนอกปากอย่างเห็นได้ชัด
- เกิดการแพ้ยา ซึ่งอาจแสดงอาการเป็นผื่น ลมพิษ หรืออาการคัน
- กลับไปมีอาการคล้ายเดิมเมื่อยังไม่ได้รักษารากฟัน
- รู้สึกว่าการเคี้ยวไม่เสมอกัน หรือฟันสบกันไม่พอดี
สิ่งที่ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- โรคประจำตัว
- ประวัติแพ้ยา
- ยาและอาหารเสริมที่รับประทานอยู่
- เคยมีปัญหาเลือดหยุดยาก
ข้อมูลทั่วไป
การทำฟันเด็ก (Pedodontist) เป็นการดูแลรักษาช่องปากของเด็กแรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 15 ปี โดยอาจแบ่งให้เข้าใจง่ายได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
การป้องกัน
นอกจากทันตแพทย์จะตรวจฟัน และแนะนำวิธีการทำความสะอาดฟันและช่องปากแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ อีก ที่ทันตแพทย์สามารถทำเพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ และปัญหาอื่นๆ ในเด็ก เช่น
- เคลือบหลุมร่องฟัน
- เคลือบฟลูออไรด์
- ขูดหินปูน
การรักษา
หากเกิดปัญหากับฟันน้ำนมแล้ว เช่น ฟันผุ ฟันแตกหัก ทันตแพทย์จะทำการรักษาให้ ด้วยวิธีการที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับสภาพของฟัน เช่น
- อุดฟัน
- ถอนฟัน
- รักษารากฟัน
- ครอบฟัน
เด็กควรเริ่มพบทันตแพทย์เมื่อไหร่?
เด็กสามารถเริ่มพบทันตแพทย์ได้ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นหรืออายุไม่เกิน 1 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นตั้งแต่แรกเริ่ม
ทำไมเด็กๆ จึงควรตรวจฟันอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ทั้งๆ ที่ไม่มีฟันผุ?
การตรวจฟันเป็นการคอยดูแลไม่ให้มีฟันผุ ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันที่เหมาะสมกับวัยและเด็กแต่ละคน นอกจากนี้ การเคลือบฟลูออไรด์หรือหลุมร่องฟันก็เพื่อป้องกันฟันผุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงติดตามความผิดปกติหรือโรคอื่นๆ ที่นอกเหนือจากฟันผุที่อาจเกิดขึ้นในเด็กแต่ละคนได้ เช่น การสบฟันที่ผิดปกติ การหลุดหรือการขึ้นของฟันที่ผิดปกติ เป็นต้น
ทำฟันเด็กต่างจากทำฟันผู้ใหญ่อย่างไร?
แม้ว่าขั้นตอนการรักษาช่องปากของเด็กจะไม่ต่างจากผู้ใหญ่มากนัก แต่สิ่งที่ต่างคือเด็กจะให้ความร่วมมือในการรักษาไม่เท่าผู้ใหญ่
นอกจากนี้ ทันตแพทย์เด็กจะเน้นการป้องกันและดูแล เช่น ให้คำแนะนำกับผู้ปกครองในการดูแลฟันของเด็ก การทำความสะอาดฟัน เป็นต้น ขณะที่การทำฟันผู้ใหญ่จะมีกระบวนการซับซ้อนมากขึ้น และอาจมีกระบวนการผ่าตัดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
รักษาฟันน้ำนมผุ ได้อย่างไรบ้าง?
- หากลูกมีฟันผุระยะแรกเริ่ม ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารและการทำความสะอาด หรือเคลือบหลุมร่องฟัน
- หากฟันผุถึงชั้นเนื้อฟัน ทันตแพทย์จะทำการอุดฟัน หรือครอบฟันให้
- หากฟันผุทะลุเข้าไปถึงโพรงประสาทฟัน จะต้องรักษาด้วยการรักษารากฟัน หรือถอนฟันแทน
- แต่หากฟันผุยังไม่ได้ทำลายรากฟันและกระดูกเบ้าฟันไปมาก ทันตแพทย์จะแนะนำให้เก็บรักษาฟันน้ำนมไว้ใช้งาน รอจนฟันแท้ขึ้นมาแทนที่
- การอุดฟันที่ผุลึกมาก การถอนฟัน หรือการรักษารากฟัน ทันตแพทย์จะใช้ยาชา เพื่อไม่ให้เด็กๆ รู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ไหว
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่มีแพ็กเกจ ทำฟันเด็ก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
จองผ่าน HDmall.co.th แล้วไปจ่ายเงินที่คลินิก รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- กด 'จองเลย' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- รับอีเมลยืนยันการจองแพ็กเกจ จากนั้นนัดหมายวัน-เวลารับบริการตามคำแนะนำในอีเมล
- รับคูปองยืนยันเวลานัด คูปองมีอายุ 30 วัน นับจากวันจองแพ็กเกจ
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับบริการ และชำระค่าแพ็กเกจราคาเต็ม
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของคลินิก
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
หมายเหตุ
- แพ็กเกจนี้ต้องนัดหมายเข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อนทำ หลังจากแพทย์ตรวจประเมินแล้วว่ารับบริการได้ ให้คุณจ่ายเงินโดยตรง ณ สถานที่ให้บริการ แล้วรับแคชแบ็กภายหลัง
- ผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต จะไม่สามารถรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ รวมถึงไม่สามารถเบิก Cashback จาก HDmall.co.th ได้
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ LDC Dental อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th