เรื่องควรรู้
ปิด
ปิด
- โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) แพร่ระบาดผ่านทางละอองจากระบบทางเดินหายใจ ในขณะที่ผู้ติดเชื้อไอ จาม หรือพูด
- เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะเข้าไปเกาะที่เซลล์ในเยื่อบุจมูกและขนจมูกผ่านการหายใจ จึงควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน และรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร
- ละอองที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังสามารถตกลงบื้นพื้นผิวต่างๆ เช่น ราวบันได พื้นโต๊ะ หรือลูกบิดประตู หากไปสัมผัสพื้นผิวนั้นๆ แล้วนำมือมาจับตา จมูก หรือปาก ก็อาจติดเชื้อได้ จึงควรหมั่นล้างมือ หรือใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ หรือเจลล้างมือถูมืออยู่เสมอ
- ผู้ที่เคยเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เคยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย COVID-19 มีอาการหอบเหนื่อย เป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว หรือมีอาการเจ็บหน้าอกฉับพลัน ควรไปตรวจคัดกรอง COVID-19 ทันที
- เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจโควิด 19 (COVID-19) รูปแบบต่างๆ พร้อมรับส่วนลดทันทีเมื่อจองคิวผ่าน HDmall.co.th หรือไลน์ @hdcoth
- จองวัคซีนทางเลือก Moderna หรือ Sinopharm หรือแอดไลน์สอบถามแอดมินได้ที่ @hdcoth
จากสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทยและทั่วโลกที่ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนอาจไม่สามารถกักตัวอยู่ในที่พักได้ เพราะจำเป็นต้องเดินทางไปทำงาน เรียนหนังสือ หรือทำกิจวัตรประจำวันอื่นๆ
สำหรับใครต้องเป็นเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วกังวลว่า โควิดติดทางไหนได้บ้าง สามารถป้องกันได้อย่างไร ในบทความนี้จะพาไปทำควารมรู้จักกับช่องทางการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 สาเหตุของโรค COVID-19 นั่นเอง
โควิด-19 (COVID-19) ติดทางไหน แพร่ระบาดได้อย่างไร?
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 สามารถแพร่จากคนสู่คน ผ่านทางละอองน้ำมูก น้ำลายจากจมูก หรือปาก ซึ่งออกมาขณะที่ผู้ติดเชื้อไอ จาม หรือพูด ทำให้ผู้ที่หายใจเอาละอองเหล่านี้เข้าไปติดเชื้อตามไปด้วย
แต่ละอองเหล่านี้ค่อนข้างหนัก ลอยไปไม่ได้ไกล และตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว การรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร และสวมใส่หน้ากากอนามัย จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกัน COVID-19 ได้ในข้างต้น
อย่างไรก็ตาม ละอองที่ตกลงสู่วัตถุ และพื้นผิวต่างๆ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู หรือพื้นโต๊ะ ก็สามารถทำให้ติดเชื้อ COVID-19 ได้ เมื่อเราเอามือไปจับพื้นผิวเหล่านั้น แล้วมาจับตา จมูก หรือปาก
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมทุกคนจึงต้องหมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ หรือเจลแอลกอฮอล์ถูมือ
สาเหตุที่ทำให้โควิด-19 (COVID-19) ติดต่อกันได้ง่าย
สาเหตุที่ทำให้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 (COVID-19) ติดต่อกันได้ง่าย มีดังนี้
- ตำแหน่งเซลล์แรกที่ COVID-19 เข้าไปโจมตี ไวรัสจะเข้าไปเกาะที่เซลล์ในเยื่อบุจมูกและขนจมูก ทำให้เซลล์ไวรัสแพร่กระจายผ่านการหายใจเข้า-ออกได้
- COVID-19 มีระยะฟักตัวนาน ทำให้กว่าที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะรู้ตัว หรือแสดงอาการ ก็อาจผ่านไป 5-14 วันแล้ว
- COVID-19 มีระยะเวลาแพร่เชื้อนาน การที่ระยะเวลาแพร่เชื้อของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีระยะเวลานาน 8-10 วัน หรือนานกว่านั้น ทำให้เพิ่มโอกาสในการแพร่ระบาดของโรคได้มากขึ้น
- อัตราการเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 มักมีอาการเบื้องต้นคล้ายไข้หวัด เช่น มีไข้ ไอแห้ง อ่อนเพลีย ทำให้หลายคนที่ไม่ได้มีอาการหนักอาจไม่ได้เข้ารับการรักษาที่เหมาะสม และใช้ชีวิตตามปกติ จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค
สามารถติดเชื้อโควิด-19 (COVID-19) จากผู้ป่วยที่ไม่มีอาการได้หรือไม่?
ได้ จากที่กล่าวไปข้างต้นว่า COVID-19 แพร่ระบาดผ่านทางละอองจากระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย อีกทั้งผู้ติดเชื้อส่วนมากมักไม่มีอาการแสดง หรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะในระยะเริ่มแรก
จึงทำให้มีความเป็นไปได้ที่เราจะติด COVID-19 จากผู้ป่วยที่ไอเล็กน้อย หรือไม่รู้สึกป่วยเลยนั่นเอง
เมื่อไหร่ควรไปตรวจคัดกรองโควิด-19 (COVID-19)?
เพจไทยรู้สู้โควิดได้ให้คำแนะนำในการสังเกตตนเอง 6 ข้อ ดังนี้
- ไม่มีอาการ ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย COVID-19 และไม่ได้กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
- ไม่มีอาการสัมผัสใกล้กับชิดผู้ป่วย COVID-19 และกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
- มีอาการเล็กน้อย ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย COVID-19 และไม่ได้กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
- มีอาการเล็กน้อย ได้แก่ ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย COVID-19 และกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
- มีอาการไข้สูง ไอ หอบเหนื่อย
- มีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ร่วมกับเป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว หรือมีอาการเจ็บหน้าอกฉับพลัน
หลังจากที่สังเกตตนเองแล้ว ให้ดูว่าตนเองอยู่ในข้อใดจาก 6 ข้อข้างต้น แล้วปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
- หากอยู่ในข้อ 1 ไม่ต้องไปตรวจคัดกรอง COVID-19
- หากอยู่ในข้อ 2 หรือ 3 ให้กักตัว 14 วัน เพื่อสังเกตอาการของตนเอง ถ้ามีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หรือหอบเหนื่อย ค่อยไปตรวจคัดกรอง COVID-19
- หากอยู่ในข้อ 4 5 หรือ 6 ควรไปตรวจคัดกรอง COVID-19 ทันที
จะเห็นได้ว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) สามารถติดต่อกันได้ง่าย อีกทั้งยังอาจไม่แสดงอาการใดๆ หากคุณจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ควรที่จะเข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 เพื่อที่จะได้เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที และลดโอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อต่อไป
อ่านเพิ่มเติม: รวมข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจโควิด วัคซีนป้องกันโควิด รีวิวตรวจโควิด และสถานที่ตรวจโควิด
สำหรับผู้ที่สนใจตรวจคัดกรองโควิด-19 สามารถ เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจคัดกรองโควิด-19 (COVID-19) ด้วยวิธีต่างๆ เช่น แหย่จมูก (Swab, PCR) เจาะเลือด ทั้งแบบตรวจที่โรงพยาบาลและระบบ Drive Thru พร้อมรับส่วนลดทันทีเมื่อจองคิวผ่าน HDmall.co.th หรือแอดไลน์ @hdcoth จะมีน้องจิ๊บใจดี คอยให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9 โมงเช้าถึงตีหนึ่ง แอดได้เลยไม่ต้องรอ!
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ระยะฟักตัวโควิด นานแค่ไหน แพร่เชื้อทันทีเลยไหม?
- ระยะแพร่เชื้อโควิด! เริ่มแพร่เมื่อไร เลิกกักตัวได้ตอนไหนกันแน่?
- รวมรีวิวการรักษาโรคโควิด-19 ประสบการณ์จริงจาก HDreview
- รู้จักกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) โควิดสายพันธุ์ใหม่จากแอฟริกาใต้
- เช็คอาการป่วยโควิดระลอกที่ 3 ในไทย มีอะไรต่างจากเดิมบ้าง?
ที่มาของข้อมูล
ปิด
ปิด
- ไทยรู้สู้โควิด, เมื่อไหร่ต้องไปตรวจโควิด-19 (https://www.facebook.com/thaimoph/photos/a.117672836509295/225597362383508/), 8 มกราคม 2021.
- BBC NEWS, โควิด-19: ทำไมโรคนี้จึงติดต่อกันได้ง่าย (https://www.bbc.com/thai/55557300), 8 มกราคม 2021.
- World Health Organization (WHO), Coronavirus disease (COVID-19) (https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019), 8 January 2021.