การฉีดฟิลเลอร์ (Filling substance) ช่วยเติมเต็มผิวชั่วคราว แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก หรือปรับรูปหน้าบางจุด
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าฉีดฟิลเลอร์ Juvederm 1 ครั้ง
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ 20 บาท
- ค่าบริการโรงพยาบาล 250 บาท
- ค่าแพทย์ 200-500 บาท หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละท่าน
หมายเหตุ
- อาจมีค่าใช้จ่ายบางรายการเพิ่มเติม
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 15-30 นาที
- โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
- ราคานี้สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเท่านั้น
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้นไม่สามารถออกใบเสร็จได้
การดูแลหลังรับบริการ
- ไม่กดหรือนวดแรงๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ในช่วงแรก
- ควรดื่มน้ำให้มากๆ
- งดใช้เครื่องสำอาง 12 ชั่วโมงหลังรับบริการ
- งดออกกำลังกายในช่วง 48 ชั่วโมงหลังรับบริการ
- ไม่ควรให้ใบหน้าสัมผัสความร้อนจัด เช่น ซาวน่า
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามสำหรับการฉีดฟิลเลอร์
- กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่อายุต่ำกว่า 22 ปี
- ผิวหนังอักเสบหรือมีการติดเชื้อใกล้กับบริเวณที่จะฉีด
- แพ้สารที่เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์
- เคยมีปัญหาเลือดหยุดยาก
- มีประวัติเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- รักษาด้วยเลเซอร์ ขัดผิว หรือใช้สารลอกผิว
- ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้อยู่
- ประวัติแพ้ยา
- การรักษาอื่นๆ ที่ทำอยู่
- โรคประจำตัว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจมีอาการฟกช้ำ บวม หรือแดงเล็กน้อย
- หากมีอาการอื่นที่รุนแรงกว่านี้ เช่น เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นตุ่มหนอง ควรไปพบแพทย์
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ Juvederm
ฟิลเลอร์ (Dermal Filler) เป็นสารที่ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มผิวหนัง สามารถปรับให้บริเวณผิวที่บางดูเต็มขึ้นได้ จึงนิยมนำมาใช้ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องผิวตอบ ผิวไม่สม่ำเสมอ และริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า
สารสำคัญหลักของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ส่วนใหญ่ประกอบด้วยสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic acid) หรือเรียกว่า HA อาจอยู่ในรูปของสารโซเดียมไฮยาลูรอเนต (Sodium Hyaluronate) ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ชั่วคราวที่ค่อนข้างปลอดภัย หลังฉีดแล้วสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้
ไฮยาลูรอนิกแอซิดเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่อยู่ในชั้นหนังแท้ มีหน้าที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะถูกสังเคราะห์ให้ใกล้เคียงกับสารในชั้นผิว จึงมักไม่ก่อให้เกิดการแพ้
ฟิลเลอร์ลดริ้วรอยได้อย่างไร?
ฟิลเลอร์ที่เป็นสารกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด เมื่อฉีดออกจากเข็มจะมีลักษณะเป็นเจลกึ่งแข็งกึ่งเหลวแทรกตัวอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณที่ฉีด จึงสามารถเติมเต็มผิวให้ริ้วรอยตื้นขึ้นได้
แพ็กเกจนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ Juvéderm®️
ฟิลเลอร์ Juvéderm®️ มาจากประเทศอเมริกา เน้นการพัฒนาฟิลเลอร์ให้เป็นเนื้อเจลละเอียด ปั้นขึ้นรูปได้ง่าย โดยมีจุดเด่นคือความเรียบเนียน เพราะมีเทคโนโลยี hylacross และ vycross ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้ดี พร้อมมียาชาผสมในทุกรุ่น อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
คุณสมบัติของฟิลเลอร์ Juvéderm®️ แต่ละรุ่น
ความเข้มข้นของไฮยาลูรอนิกแอซิด: Ultra plus XC > Voluma > Volift > Volbella > Volite
- Juvéderm®️ Voluma เนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับเติมใต้ตา ร่องแก้ม คางและขมับ อยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
- Juvéderm®️ Volift เนื้อนิ่ม มีความละเอียดสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบาง สำหรับเติมใต้ตา รอยขมวดคิ้ว ร่องมุมปากที่ไม่ลึกมาก ร่องแก้มชั้นตื้น อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvéderm®️ Volbella เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมาก ไม่เป็นก้อน เหมาะสำหรับเติมหน้าผาก อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Juvéderm®️ Volite เนื้อละเอียด ไม่ค่อยใช้ในการปรับรูปหน้าแต่จะใช้ฉีดผิวชั้นตื้น ปรับสภาพผิวให้ดูชุ่มชื้น ยืดหยุ่นขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบางแต่ไม่บางมาก อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
- Juvéderm®️ Ultra plus XC เนื้อนิ่มและฟูมาก ไฮยารูลฃอนิกแอซิดมีความเข้มข้นสูง มีแรงยกผิวที่เพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาร่องลึกต่างๆ มักใช้บริเวณริมฝีปาก ร่องแก้ม อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
เปรียบเทียบคุณสมบัติของฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ
- ความยืดหยุ่น
Juvéderm®️ > Restylane®️ > Neuramis®️ DEEP
ยิ่งมีค่าความยืดหยุ่นสูง จะยิ่งเหมาะกับการเติมเต็มผิวบริเวณที่ขยับบ่อยๆ โดย Juvéderm®️ มีความยืดหยุ่นสูงเพราะมีเทคโนโลยี hylacross
- ความอุ้มน้ำ
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvéderm®️ มีค่าความอุ้มน้ำสูง โดยเฉพาะรุ่น Ultra plus XC มีค่าความอุ้มน้ำสูงที่สุดในกลุ่มฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvéderm®️ ทำให้เมื่อดื่มน้ำมาก ฟิลเลอร์ที่มีค่านี้สูงก็จะยิ่งฟูมากขึ้น แต่ถ้าดื่มน้ำน้อย ฟิลเลอร์ก็จะแฟบลง
- ความแข็งที่ส่งผลต่อการปรับรูปหน้า
ฟิลเลอร์ Restylane®️ มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีค่าความแข็งสูง การกระจายตัวต่ำ ซึ่งทำให้ยกผิวในระดับชั้นลึกได้ดี แต่ไม่เหมาะสำหรับตำแหน่งผิวที่มีการขยับบ่อยๆ เพราะฟิลเลอร์จะแตกเป็นเม็ดเล็กๆ และสลายไว
หมายเหตุ
- แพทย์จะวินิจฉัยปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นและยี่ห้อที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสภาพผิวเดิมของผู้รับบริการมากที่สุด
- เทคโนโลยีและขั้นตอนการผลิตที่ต่างกันทำให้คุณสมบัติต่างๆ ของฟิลเลอร์ไม่เหมือนกัน เช่น ลักษณะความแข็งของเจล การกระจายตัว และระยะเวลาในการสลายตัว แม้จะมีสารไฮยาลูรอนิกแอซิดในปริมาณและความเข้มข้นเดียวกันก็ตาม
- คุณสมบัติที่ไม่เหมือนกันทำให้ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวเหมาะกับการแก้ไขปัญหาผิวที่บริเวณแตกต่างกันไป
- ผลิตภัณฑ์ที่มียาชาผสมในสูตรจะช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นเล็กน้อยขณะฉีด
สถานที่อื่นๆ ที่ให้บริการ ฉีดฟิลเลอร์ ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลยันฮี ผ่าน HDmall
จองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th แล้วชำระเงินที่โรงพยาบาล จากนั้นเก็บใบเสร็จมารับ แคชแบ็ก* (กรณีลูกค้าใช้สิทธิประกันจะไม่สามารถรับแคชแบ็กได้)
- กดจองแพ็กเกจที่ต้องการและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- รับอีเมลเพื่อยืนยันการจอง พร้อมรหัสคูปองสำหรับขอแคชแบ็กจาก HDmall คูปองมีอายุ 30 วัน
- เช็กคิวหรือทำนัดผ่านแอดมิน HDmall เท่านั้น เพื่อรับสิทธิพิเศษ
- เข้ารับบริการตามวันและเวลานัดที่ระบุในคูปอง เมื่อถึงโรงพยาบาล เพียงแสดงบัตรประชาชน ณ ศูนย์บริการลูกค้า ชั้น 1 โดยไม่ต้องแสดงคูปอง HDmall เข้ารับบริการ ชำระเงินตามยอดที่ฝ่ายการเงินแจ้ง
- แจ้งขอแคชแบ็กจาก HDmall ภายใน 30 วันหลังชำระเงิน ทางไลน์ @hdcoth โดยพิมพ์ '5' หรือ 'ขอแคชแบ็ก' ลูกค้าจะได้รับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
หลักฐานที่ใช้ขอแคชแบ็ก
- รูปใบเสร็จของโรงพยาบาล
- รูปสมุดบัญชี
- รูปรหัสคูปองที่ได้รับ
หมายเหตุ
- แพ็กเกจนี้ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ลูกค้าต้องชำระค่าแพทย์และค่าบริการปรึกษาแพทย์ในราคาเต็มที่โรงพยาบาลไปก่อน หลังจากนั้นค่อยแจ้งแอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อกรอกแบบฟอร์มขอแคชแบ็กภายหลัง (ขั้นตอนการขอแคชแบ็กพร้อมรหัสจะแสดงในอีเมล)
- *จะได้รับแคชแบ็กเฉพาะแพ็กเกจที่ร่วมรายการ (สอบถามรายละเอียดได้จากแอดมิน)
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลยันฮี อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th