แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser 4 จุด 1 ครั้ง
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าห้องปฏิบัติการ (Lab) สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี 3,970 บาท
- ค่าห้องปฏิบัติการ (Lab) สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี 5,570 บาท
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 4-6 ชั่วโมง
- ก่อนทำแพทย์จะให้คำปรึกษา และสั่งให้เจาะ Lab เพื่อเตรียมความพร้อม จะสามารถรับบริการได้ก็ต่อเมื่อผลตรวจสุขภาพระบุว่า มีสุขภาพดีและพร้อมสำหรับการรับบริการ
- ให้บริการโดยศัลยแพทย์พลาสติกตกแต่ง ที่ได้รับการรับรองจากแพทยสภา และทำในห้องผ่าตัดปลอดเชื้อมาตรฐานสากล
- มีวิสัญญีแพทย์ดูแลตลอดการผ่าตัด และมีพยาบาลวิชาชีพคอยดูแลอย่างใกล้ชิดหลังรับบริการ
- ขณะใช้เครื่อง Vaser ผู้รับบริการจะรู้สึกบริเวณที่หัวเลเซอร์สัมผัสกับเนื้อเยื่อ เนื่องจากยาชาที่ผสมอยู่จะช่วยลดความเจ็บปวดขณะทำได้
- การดูดไขมันเป็นเพียงการลดไขมันส่วนเกินที่ดูไม่สมสัดส่วน แต่ไม่ใช่การลดน้ำหนัก
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนรับบริการ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ 2 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
- งดดื่มชา กาแฟ รวมถึงน้ำอัดลมก่อนดูดไขมัน เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะขณะดูดไขมัน
- สามารถรับประทานอาหารได้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนดูดไขมัน
- ควรวางแผนการเดินทางหรือทำงานหลังการดูดไขมัน
- เตรียมเสื้อผ้าสีเข้มไว้สำหรับใส่ในวันดูดไขมัน เพราะหลังจากดูดไขมันจะมีน้ำซึมออกมา ซึ่งอาจทำให้เห็นเป็นคราบได้
การดูแลหลังรับบริการ
- รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ทำความสะอาดแผลทุกวันจนกว่าจะตัดไหม
- หลังดูดไขมัน แพทย์จะเย็บปิดปากแผล 1 เข็ม ผู้รับบริการจะต้องทำความสะอาดแผลทุกวัน โดยใช้สำลีชุบเบตาดีนเช็ดบริเวณแผลผ่าตัด และใช้ผ้าก๊อซที่แพทย์ให้ ปิดปากแผล ทำติดต่อกันทุกวันจนกว่าแพทย์จะนัดเข้ามาตัดไหม ใช้ระยะเวลาประมาณ 5-7 วัน
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ยาชาที่แพทย์ใส่เข้าไปในระหว่างการดูดไขมัน อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือมึนหัวได้ จึงควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ และให้ร่างกายขับยาชาออกมาในรูปแบบของปัสสาวะ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปภายในเวลาประมาณ 24 ชั่วโมงหลังดูดไขมัน
- รับประทานอาหารสุก งดรับประทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาหารดิบ อาหารทะเล ของหมักดอง 1 เดือนหลังดูดไขมัน
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ 1 เดือนหลังดูดไขมัน
- งดยาและอาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) วิตามินอี น้ำมันตับปลา แปะก๊วย โสม 2 สัปดาห์หลังดูดไขมัน
- ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ เพราะจะทำให้แผลชื้น ไม่สมานติดกัน และอาจติดเชื้อได้
- ไม่แนะนำให้อาบน้ำ แต่สามารถเช็ดตัวได้ โดยใช้พลาสเตอร์แบบกันน้ำปิดปากแผลก่อนทำความสะอาดร่างกาย
- สวมใส่ชุดยกกระชับตามคำแนะนำของแพทย์
- การออกกำลังกาย หลังดูดไขมันประมาณ 2 สัปดาห์ คนไข้สามารถเริ่มออกกำลังกายแบบเบา ๆ ได้ หากต้องการออกกำลังกายหนัก สามารถทำได้หลังจากดูดไขมันไปแล้ว 1 เดือน
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามสำหรับการดูดไขมัน
- อายุต่ำกว่า 18 ปี
- สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- สูบบุหรี่
- เป็นโรคเบาหวาน
- เป็นโรคผิวหนัง ติดเชื้อที่ผิวหนัง เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจ ตับ ไต และต่อมไทรอยด์
- มีอาการไส้เลื่อนบริเวณหน้าท้อง (abdominal hernia) หรือมีภาวะกล้ามเนื้อท้องแยกตัวรุนแรง (severe diastasis recti)
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีโรคประจำตัว หรือกำลังได้รับการรักษาอื่นๆ อยู่
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- มีสุขภาพดี
- มีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักมาตรฐาน (Ideal weight) ไม่เกิน 30%
- มีไขมันสะสมแม้ผ่านการควบคุมอาหารและออกกำลังกายมาแล้ว
- มีผิวหนังที่กระชับและยืดหยุ่น กล้ามเนื้อทำงานดี
- เหมาะกับคนทุกสีผิว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ผิวหนังไหม้จากความร้อนที่เกิดขึ้นจากอัลตราซาวด์
- มีความเสี่ยงสูงที่ผิวหนังจะมีลักษณะเหี่ยวย่น เป็นคลื่น ไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ
- สีผิวเปลี่ยน
- เกิดการติดเชื้อบริเวณที่ทำ
- ผลข้างเคียงอื่นๆ แบบเดียวกันกับการดูดไขมันแบบดั้งเดิม เช่น เกิดก้อนไขมันอุดตันในเส้นเลือด มีอาการชา เจ็บปวดและมีอาการช้ำ สูญเสียเลือดมากเกินไป เป็นต้น
ข้อมูลทั่วไป
การดูดไขมันแบบเวเซอร์ (Vaser®️ Liposuction)⠀เป็นเทคนิคการดูดไขมันที่มีการใช้คลื่นอัลตราซาวด์หรือคลื่นเสียงความถี่สูงเข้ามาช่วย ไขมันที่ถูกดูดออกมีเลือดปนอยู่ค่อนข้างน้อยกว่า มีอาการช้ำน้อยกว่า และฟื้นตัวเร็วกว่าการดูดไขมันแบบธรรมดา
การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เหมาะสำหรับการลดไขมันสะสมบางส่วนของร่างกาย เช่น หน้าท้อง เอว สะโพก บั้นท้าย แขน ต้นขา เป็นต้น
เทคนิคการดูดไขมันแบบเวเซอร์แตกต่างอย่างไร?
การดูดไขมันแบบเวเซอร์ จะใช้ท่อดูดที่สามารถกระจายคลื่นอัลตราซาวด์บริเวณปลายท่อ ทำให้ไขมันสะสมอ่อนตัวลง กลายเป็นของเหลวที่ถูกดูดออกมาได้ง่ายขึ้น เนื้อเยื่อข้างเคียงอื่นๆ และหลอดเลือดได้รับผลกระทบน้อย เลือดจึงออกน้อย ทำให้สิ่งที่ดูดออกมาส่วนใหญ่เป็นไขมันตามต้องการ
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Dermaster ผ่าน HDmall
ขั้นตอนการจ่ายเงินและรับแคชแบ็ก
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับบริการที่คลินิกตามวันที่นัดหมาย
- ชำระเงินที่คลินิกเต็มจำนวนตามที่แพทย์ประเมิน
- ทักไลน์ @hdcoth และกดปุ่ม “ทำนัด/ขอแคชแบ็ก” กรอกลิงก์ที่เจ้าหน้าที่ส่งให้พร้อมแนบใบเสร็จภายใน 30 วันหลังรับบริการ
หมายเหตุ
- ผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต จะไม่สามารถรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ รวมถึงไม่สามารถเบิก Cashback จาก HDmall.co.th ได้
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Dermaster อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th