แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ดึงขมับ
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าดึงขมับ
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าบริการโรงพยาบาล 250 บาท
- ค่าแพทย์ 200-500 บาท หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละท่าน
- ค่าตรวจคัดกรอง COVID-19 ก่อนผ่าตัด (แพทย์จะเป็นผู้แจ้งอีกครั้ง ว่าต้องตรวจด้วยวิธีใด)
- กรณีตรวจ ATK ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 800 บาท
- กรณีตรวจ RT-PCR ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 2,250 บาท
หมายเหตุ
- ถ้ามารับบริการที่โรงพยาบาลเป็นครั้งแรก จะมีค่าลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ 20 บาท
- กรณีวันผ่าตัดมีญาติมาเฝ้าไข้ ต้องตรวจ ATK ที่โรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- อาจมีค่าใช้จ่ายบางรายการเพิ่มเติม
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ดึงขมับ
- ระยะเวลาผ่าตัดดึงขมับประมาณ 2-4 ชั่วโมง
- ควรนัดหมายล่วงหน้า เพื่อปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
- ระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบ
- แพทย์จะนัดมาดูแผลและตัดไหมภายใน 7-10 วันหลังผ่าตัด
- ราคานี้สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเท่านั้น
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้นไม่สามารถออกใบเสร็จได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี สมุนไพร น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 4 สัปดาห์
- งดน้ำ งดอาหาร ก่อนผ่าตัดประมาณ 6-8 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้
- วันผ่าตัดควรอาบน้ำ สระผม ก่อนมาโรงพยาบาล
- หากผู้รับบริการมีการต่อเล็บมือ เช่น เล็บเจล อะคริลิค หรือพีวีซี ต้องถอดเล็บก่อนเข้ารับบริการ (ทางโรงพยาบาลไม่มีบริการถอดเล็บให้) เนื่องจากระหว่างการทำหัตถการจำเป็นจะต้องสวมเครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้วเพื่อความปลอดภัย
การดูแลหลังรับบริการ
- 3 วันแรกหลังผ่าตัด ควรประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอาการบวม ห้ามประคบร้อนโดยเด็ดขาด
- 3 วันแรกหลังผ่าตัด ระมัดระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ ควรงดล้างหน้า หรือสระผมไปก่อน
- 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ให้พันผ้ายืดรัดหน้าตามแพทย์แนะนำ เพื่อยกกระชับและลดอาการบวม
- 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ควรนอนศีรษะสูง แนะนำให้ใช้หมอนรองคอ หลีกเลี่ยงการนอนทับหน้า นอนคว่ำ นอนตะแคง ระมัดระวังอย่าให้คอพับ
- ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง หรือเหนียว
- งดการนวดหน้า หรือทำหัตถการอื่นๆ บริเวณใบหน้าจนกว่าแผลจะหายสนิท
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
- การผ่าตัดดึงหน้า ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาให้ตรงกับความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
- ควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับการงดรับประทานยา วิตามิน อาหารเสริม หรือเครื่องดื่มที่อาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัด
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดดึงหน้า
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- มีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อน
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีผิวหนังบริเวณใบหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาร่องน้ำหมาก หรือริ้วรอยบริเวณมุมปากลึก
- ผู้ที่เข้ารับการฉีดสารเติมเต็ม แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชา หรือยาสลบที่ใช้
- มีอาการบวม ชา ปวดอย่างต่อเนื่อง
- มีรอยแผลเป็น
- ผมร่วงชั่วคราว หรือถาวรบริเวณรอยผ่าตัด
- เส้นประสาทบริเวณใบหน้าได้รับความเสียหาย
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการดึงขมับ
การผ่าตัดดึงหน้า เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังบริเวณใบหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับสู่ตำแหน่งเดิม ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น และลดความเด่นชัดของความหย่อนคล้อยต่างๆ
การผ่าตัดดึงหน้าสามารถเลือกทำเฉพาะจุด เช่น ดึงบริเวณขมับและแก้มที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้น หรือผ่าตัดดึงหน้าทั้งหมด ทั้งบริเวณใบหน้า หน้าผาก คิ้ว ขมับ และคอ ในผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากก็ได้
ผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้า อยู่ได้นานเท่าไหร่?
ผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้าจะอยู่ได้นานประมาณ 5 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหน้าของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม เมื่อผิวหน้ากลับมาหย่อนคล้อย ผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าก็สามารถพบแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว และเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขดึงหน้าอีกครั้งได้
การผ่าตัดดึงหน้าเห็นแผลเป็นหรือไม่?
วิธีการผ่าตัดดึงหน้า แพทย์จะเปิดแผลเหนือหูบริเวณขมับ ลากผ่านผิวหนังหลังแนวผมลงมาที่หน้าใบหู ไปตามขอบหูด้านหน้าลงไปทางติ่งหู แล้วอ้อมติ่งหูไปทางด้านหลัง จากนั้นจะตัดเข้าไปในแนวเส้นผมอีกที ดังนั้นแผลส่วนใหญ่จะถูกซ่อนเอาไว้ตามแนวเส้นผม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกจะเห็นแผลบริเวณขอบหูด้านหน้า แต่หลังจากแผลหายสนิทแล้วจะค่อยๆ ลดเลือนไป ทำให้มองเห็นไม่ค่อยชัด
หมายเหตุ
- ควรทำกับศัลยแพทย์ที่ชำนาญการและมีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยควรเลือกทำกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้
- หลังการผ่าตัดดึงหน้า จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่ให้บริการ ดึงหน้า ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลยันฮี ผ่าน HDmall
จองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th แล้วชำระเงินที่โรงพยาบาล
- กดจองแพ็กเกจที่ต้องการและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- รับคูปองยืนยันการจองทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- เช็กคิวหรือทำนัดผ่านแอดมิน HDmall เท่านั้น โดยนัดล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- เข้ารับบริการตามวันและเวลานัดที่ระบุในคูปอง เมื่อถึงโรงพยาบาล เพียงแสดงบัตรประชาชน ณ ศูนย์บริการลูกค้า ชั้น 1 โดยไม่ต้องแสดงคูปอง HDmall เข้ารับบริการ ชำระเงินตามยอดที่ฝ่ายการเงินแจ้ง
หมายเหตุ แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลยันฮี อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th