14,051 บาท*

การเสริมจมูก เป็นการใส่ซิลิโคนเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงจมูก โดยซิลิโคนมีทั้งแบบสำเร็จรูป และซิลิโคนแท่ง (แบบเหลาเอง)
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
💵 ลดเพิ่ม 600 บาท เมื่อชำระค่าแพ็กเกจผ่านแอดมินทางไลน์ ด้วยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีของ HDmall เท่านั้น (ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ได้)
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา เสริมจมูก เบบี้แองเจิ้ล
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าเสริมจมูกซิลิโคนเกาหลี ทรงเบบี้แองเจิ้ล สำหรับเคสเสริมครั้งแรก
หมายเหตุ
- หากผู้รับบริการมีเชื้อ HIV มีค่าอุปกรณ์เพิ่มเติม 10,000 บาท
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ เสริมจมูก เบบี้แองเจิ้ล
- สำหรับเคสเสริมครั้งแรก
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- เจ้าหน้าที่จะอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการผ่าตัด ก่อนให้เซ็นใบยินยอมการผ่าตัด
- แพทย์จะให้คำปรึกษาและเลือกทรงจมูกที่เหมาะสม
- มีการวัดสัญญาณชีพก่อนผ่าตัด หากความดันโลหิตสูง ควรงดการผ่าตัดไปก่อน
- ระงับความรู้สึกด้วยยาชา
- หลังทำเสร็จ เจ้าหน้าที่จะติดตามต่อจนอาการคงที่
- แพทย์จะนัดตัดไหมหลังผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์
- จมูกจะเริ่มเข้าที่ ได้รูปภายใน 2 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัดเสริมจมูกควรให้ญาติหรือเพื่อนมารับกลับ
- ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ สอบถามข้อมูลแพทย์ผู้ผ่าตัดได้ที่แอดมิน
- ชาวต่างชาติสามารถรับบริการได้ในราคาเดียวกัน โดยต้องใช้พาสปอร์ตเพื่อยืนยันตัวตน
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- แจ้งแพทย์ผู้ผ่าตัดให้ทราบถึงประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว แพ้ยา การรับประทานยาและอาหารเสริมทุกตัว โดยเฉพาะในคนที่มีโรคประจำตัว ภาวะโลหิตจาง ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวที่รักษาโรคนั้นๆ ตรวจเลือด รับประทานยาให้ร่างกายพร้อมก่อนรับการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 1 เดือน
- หากมีอาการไอ มีไข้ หรืออาการป่วยใดๆ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเพื่อเลื่อนการผ่าตัด
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ 8-12 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม ไม่วิตกกังวลหรือเครียด เพราะมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้
- งดยา แอสไพรินหรือวิตามิน อย่างน้อย 7-10 วัน
- ควรสระผมก่อนทำการผ่าตัด
- งดแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง
การดูแลหลังรับบริการ
- ประคบเย็นเพื่อลดบวม ด้วยแผ่นเจลหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบภายใน 24-48 ชั่วโมงแรกหลังรับบริการ
- ห้ามนอนคว่ำ ให้นอนยกศีรษะสูง ประมาณ 30 องศา ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังรับบริการ
- งดอาหารรสจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประมาณอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังรับบริการ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือกีฬาที่อาจทำให้เกิดการสั่นสะเทือนแรงๆ ประมาณ 1 เดือน
- รับประทานยาและปฎิบัติตัวตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
- แม้จะใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกัน ผลที่ได้หลังการผ่าตัดเสริมจมูกจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบที่เลือก ลักษณะเดิมของจมูก และความชำนาญของแพทย์
- ผู้มีเนื้อจมูกน้อยหรือบางมากๆ อาจไม่เหมาะกับการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน บางกรณีอาจเกิดปัญหาซิลิโคนทะลุ
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูก
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ไม่ควรผ่าตัดเสริมจมูกในผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี หรือยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้าไม่เต็มที่
- ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- เป็นหวัด มีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนทำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชาหรือยาสลบที่ใช้
- มีอาการบวม ชาบริเวณจมูก
- มีแผลเป็นบริเวณฐานจมูก
- เส้นประสาทถูกทำลายถาวร
- สังเกตเห็นซิลิโคนที่ใช้เสริม
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากซิลิโคนเคลื่อน เบี้ยว หรือทะลุ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการเสริมจมูก เบบี้แองเจิ้ล
การเสริมจมูก เป็นการศัลยกรรมปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของจมูก ให้ได้สัดส่วนที่ต้องการ และเมื่อจมูกเป็นจุดที่อยู่ส่วนกลางของใบหน้า การปรับเปลี่ยนที่ส่วนนี้จะทำให้ใบหน้าโดยรวมเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ง่าย
วัสดุที่ใช้เสริมจมูก
การเสริมจมูกสามารถใช้เนื้อเยื่อตัวเอง หรือใช้วัสดุอื่นอย่างซิลิโคน ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าสำหรับชาวเอเชีย โดยซิลิโคนที่ใช้ควรเป็นชนิดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ (Medical grade)
รูปแบบซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูก มีแบบไหนบ้าง?
ปกติแล้วมีซิลิโคนให้แพทย์เลือกใช้ 2 รูปแบบ ได้แก่ ซิลิโคนสำเร็จรูป และซิลิโคนแท่ง (แบบเหลาเอง) ซิลิโคนสำเร็จรูปค่อนข้างใช้ง่ายกว่าซิลิโคนแท่ง เนื่องจากถูกขึ้นมาเป็นรูปทรงให้แล้ว แพทย์ไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งมาก
ความแข็งหรือความอ่อนนิ่มของซิลิโคนเสริมจมูก
- ซิลิโคนแข็ง จะคงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่อาจทะลุได้หากเนื้อจมูกไม่หนาพอ จึงมักเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลาง เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ
- ซิลิโคนนิ่ม เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกไม่หนา เสริมแล้วจมูกดูเนียนเป็นธรรมชาติ แต่อาจยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป
ประเทศที่ผลิตซิลิโคน
ซิลิโคนเสริมจมูกที่นิยมในปัจจุบัน มักมาจากอเมริกา เกาหลี ส่วนใหญ่แล้วจะมีลักษณะดังนี้
- ซิลิโคนอเมริกา (USA) เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ มีความแข็งปานกลาง ยืดหยุ่นดี เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกรูปทรงโด่งสวยงาม และไม่แข็งจนเกินไป
- ซิลิโคนเกาหลี (Korea) เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษเช่นกัน ค่อนข้างนิ่มโดยเฉพาะช่วงโคนและปลายจมูก มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกรูปทรงสวยดูเป็นธรรมชาติ
เทคนิคการเสริมจมูก
- เทคนิคแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เป็นการผ่าตัดโดยเปิดแผลผ่านรูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง ข้อดีคือมีแผลเล็ก แต่จะทำได้แค่บางส่วนเพราะแพทย์จะไม่เห็นโครงสร้างภายในทั้งหมดของจมูก
- เทคนิคแบบกึ่งเปิดกึ่งปิด (Semi-Open Rhinoplasty) เป็นการผ่าตัดโดยเปิดแผลที่จมูกทั้งสองฝั่ง เหมาะสำหรับผู้ที่จมูกค่อนข้างใหญ่ หรือต้องการแก้ฐานกระดูก อาจทำร่วมกับการตอกฐานจมูก 2 ด้านให้เล็กลง
- เทคนิคแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เป็นการผ่าตัดโดยเปิดจมูกทั้งหมด ก่อนจะยืดผนังใต้จมูกเพื่อแก้ไขโครงสร้างจมูก เหมาะสำหรับผู้ที่จมูกใหญ่ ทรงชมพู่ ฐานใหญ่ มีฮัมป์สูง หรือมีเนื้อจมูกน้อย แต่ต้องการให้จมูกโด่งมากๆ
การแต่งปลายจมูก
นอกจากเสริมจมูกให้ดูโด่งขึ้นแล้ว อาจมีเทคนิครองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม หรือกระดูกอ่อนหลังหู เพื่อให้ปลายจมูกได้รูปตามต้องการ เช่น เป็นทรงหยดน้ำ ทั้งยังช่วยให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อจมูกโดยตรง ป้องกันซิลิโคนทะลุได้
- เทคนิครองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม เป็นการใช้วัสดุสังเคราะห์ มีลักษณะเป็นแผ่นนิ่มๆ คล้ายฟองน้ำ ผลิตจากเนื้อเยื่อที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยรังสี
- เทคนิครองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู เป็นการตัดกระดูกอ่อนหลังหูออกมาเพียงบางส่วน ยืดหยุ่นและคงทนกว่าเนื้อเยื่อเทียม
คลินิกและโรงพยาบาลอื่นที่มีบริการ เสริมจมูก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Flow Clinic ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วชำระเงินที่คลินิก รับส่วนลดทันที
- กด 'จองเลย' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินก่อนรับบริการ (อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก)
- ถ้าคุณหมอพิจารณาว่าสามารถรับบริการได้ และลูกค้าต้องการรับบริการทันที สามารถชำระเงินพร้อมรับส่วนลดได้เลย ณ คลินิก โดยแจ้งฝ่ายการเงินว่า 'ชำระราคาพิเศษผ่าน HDmall'
- นำหลักฐานการชำระเงิน เช่น Pay Slip, อีเมล หรือ SMS แสดงแก่เจ้าหน้าที่คลินิกก่อนรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางคลินิกจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Flow Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 09.30-18.00 น.
-
จากศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ มุ่งหน้าต่อไปอีก 300 เมตรจะพบป้ายรถเมล์ คลินิกตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ
-
จอดรถที่หน้าคลินิก