28,000 บาท*

การเสริมจมูก เป็นการใส่ซิลิโคนเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงจมูก โดยซิลิโคนมีทั้งแบบสำเร็จรูป และซิลิโคนแท่ง (แบบเหลาเอง)
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา เสริมจมูก ซิลิโคนเกาหลี
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าศัลยกรรมเสริมจมูก ซิลิโคนเกาหลีแบบพิเศษ สำหรับเคสทำครั้งแรก
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าบริการโรงพยาบาล 250 บาท
- ค่าแพทย์ 1,000 บาท หรือมากกว่านี้ ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละท่าน
- ค่าตรวจคัดกรอง COVID-19 ก่อนผ่าตัด (แพทย์จะเป็นผู้แจ้งอีกครั้ง ว่าต้องตรวจด้วยวิธีใด)
- กรณีตรวจ ATK ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 800 บาท
- กรณีตรวจ RT-PCR ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 2,250 บาท
หมายเหตุ
- ถ้ามารับบริการที่โรงพยาบาลเป็นครั้งแรก จะมีค่าลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ 20 บาท
- ถ้าต้องการปรึกษาแพทย์ท่านอื่นเพิ่ม จะต้องจ่ายค่าแพทย์เพิ่มประมาณ 1,000 บาท
- ถ้าเคยฉีดสารต่างๆ มาก่อน เช่น ซิลิโคน สารเติมเต็ม เป็นต้น และต้องการปรึกษาแพทย์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มดังนี้
- ค่าแพทย์ 1,000 บาท (กรณีที่ไม่รับบริการในวันที่ปรึกษา)
- ค่าบริการโรงพยาบาล 250 บาท
- กรณีวันผ่าตัดมีญาติมาเฝ้าไข้ ต้องตรวจ ATK ที่โรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- อาจมีค่าใช้จ่ายบางรายการเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ เสริมจมูก ซิลิโคนเกาหลี
- ระยะเวลาเสริมจมูกประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- ควรนัดหมายล่วงหน้า เพื่อปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- โดยปกติจะระงับความรู้สึกด้วยยานอนหลับ ร่วมกับการฉีดยาชา
- ศัลยแพทย์จะตรวจวิเคราะห์รูปทรงจมูก รวมทั้งสอบถามความต้องการของผู้รับบริการ เพื่อวางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสมที่สุด
- หากมีโรคประจำตัว แพ้ยา มียาและอาหารเสริมที่รับประทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- หลังผ่าตัด หากไม่พบอาการผิดปกติใดๆ สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยควรมีญาติมารับกลับ
- ราคานี้สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี สมุนไพร น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- วันผ่าตัดควรล้างหน้า สระผม และงดแต่งหน้า ก่อนมาโรงพยาบาล
- วันผ่าตัด ควรสวมเสื้อผ้าที่มีกระดุมหน้า หลังผ่าตัดจะได้สวมใส่ได้ง่าย
- งดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ 8-12 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- หากผู้รับบริการมีการต่อเล็บมือ เช่น เล็บเจล อะคริลิค หรือพีวีซี ต้องถอดเล็บก่อนเข้ารับบริการ (ทางโรงพยาบาลไม่มีบริการถอดเล็บให้) เนื่องจากระหว่างการทำหัตถการจำเป็นจะต้องสวมเครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้วเพื่อความปลอดภัย
การดูแลหลังรับบริการ
- 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบเย็นที่จมูก เพื่อลดอาการปวด บวม หลังจากนั้นให้ประคบอุ่น
- 3 วันแรกหลังผ่าตัด พยายามอย่าให้แผลโดนน้ำ หากต้องการล้างหน้า ควรใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำ เช็ดทำความสะอาดแทน
- 7 วันแรกหลังผ่าตัด ควรนอนยกศีรษะสูง ประมาณ 30 องศา เพื่อช่วยลดอาการบวม ห้ามนอนคว่ำ
- งดรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการออกกำลังกาย 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- หลังผ่าตัดควรปฏิบัติตนและกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูก
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ไม่ควรผ่าตัดเสริมจมูกในผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี หรือยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้าไม่เต็มที่
- ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- เป็นหวัด มีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนทำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชาหรือยาสลบที่ใช้
- มีอาการบวม ชาบริเวณจมูก
- มีแผลเป็นบริเวณฐานจมูก
- เส้นประสาทถูกทำลายถาวร
- สังเกตเห็นซิลิโคนที่ใช้เสริม
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากซิลิโคนเคลื่อน เบี้ยว หรือทะลุ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการเสริมจมูก ซิลิโคนเกาหลี
การเสริมจมูก⠀เป็นศัลยกรรมความงามบนใบหน้าเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของจมูก ให้ได้สัดส่วนที่ต้องการ และเหมาะสมเข้ากับรูปหน้ามากขึ้น
จมูกเป็นจุดที่อยู่ส่วนกลางของใบหน้า การปรับเปลี่ยนที่ส่วนนี้จะทำให้ใบหน้าโดยรวมเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ง่าย จึงทำให้การเสริมจมูกค่อนข้างได้รับความนิยม
วัสดุที่ใช้เสริมจมูก
การเสริมจมูกสามารถใช้เนื้อเยื่อตัวเอง หรือใช้วัสดุอื่นอย่างซิลิโคน ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าสำหรับชาวเอเชีย โดยซิลิโคนที่ใช้ควรเป็นชนิดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ (medical grade)
ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกแตกต่างกันอย่างไร?
รูปแบบ⠀ปกติแล้วมีซิลิโคนให้แพทย์เลือกใช้ 2 รูปแบบ ได้แก่ ซิลิโคนสำเร็จรูป และซิลิโคนแท่ง (แบบเหลาเอง) ซิลิโคนสำเร็จรูปค่อนข้างใช้ง่ายกว่าซิลิโคนแท่ง เนื่องจากถูกขึ้นมาเป็นรูปทรงให้แล้ว แพทย์ไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งมาก
ความแข็งหรือความอ่อนนิ่ม⠀สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ แข็งมาก แข็งปานกลาง และนิ่ม
-⠀ซิลิโคนแข็ง⠀จะคงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่อาจทะลุได้หากเนื้อจมูกไม่หนาพอ จึงมักเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลาง เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ
-⠀ซิลิโคนนิ่ม⠀เหมาะกับคนที่เนื้อจมูกไม่หนา เสริมแล้วจมูกดูเนียนเป็นธรรมชาติ แต่อาจยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป
ประเทศที่ผลิต⠀ซิลิโคนที่นิยมในปัจจุบัน อาจมีที่มาจากอเมริกา เกาหลี และอื่นๆ
-⠀ซิลิโคนอเมริกา (USA)⠀เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ มีความแข็งปานกลาง ยืดหยุ่นดี เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกรูปทรงโด่งสวยงาม และไม่แข็งจนเกินไป
-⠀ซิลิโคนเกาหลี (Korea)⠀เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษเช่นกัน ค่อนข้างนิ่มโดยเฉพาะช่วงโคนและปลายจมูก มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกรูปทรงสวยเป็นธรรมชาติ
หมายเหตุ
- แม้จะใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกัน ผลที่ได้หลังการผ่าตัดเสริมจมูกจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบที่เลือก ลักษณะเดิมของจมูก และความชำนาญของแพทย์
- การผ่าตัดจมูกแบบปิดเป็นการผ่าภายในจมูก ใช้เวลาน้อย เน้นการเสริมให้จมูกโด่งขึ้นอย่างเดียว ในขณะที่การผ่าแบบเปิด แพทย์จะสามารถวิเคราะห์และแก้ปัญหาอื่นๆ ของจมูกได้ด้วย เช่น การแก้ไขปัญหาสันจมูกโด่งเกินไป
- การรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเองหรือเนื้อเยื่อเทียม จะทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อจมูกโดยตรง ทำให้ปลายจมูกดูเหมือนเนื้อธรรมชาติ และป้องกันซิลิโคนทะลุได้
- ทรงจมูกที่นิยมในปัจจุบันมีหลายแบบ ก่อนทำสามารถนำรูปตัวอย่างไปปรึกษากับแพทย์เพื่อวางแผนการผ่าตัด
- หากมีเนื้อจมูกน้อยหรือบางมากๆ ไม่แนะนำให้เสริมจมูกด้วยซิลิโคน
คลินิกและโรงพยาบาลอื่นที่มีบริการ เสริมจมูก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลยันฮี ผ่าน HDmall
จองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th แล้วชำระเงินที่โรงพยาบาล
- กดจองแพ็กเกจที่ต้องการและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- รับคูปองยืนยันการจองทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- เช็กคิวหรือทำนัดผ่านแอดมิน HDmall เท่านั้น โดยนัดล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- เข้ารับบริการตามวันและเวลานัดที่ระบุในคูปอง เมื่อถึงโรงพยาบาล เพียงแสดงบัตรประชาชน ณ ศูนย์บริการลูกค้า ชั้น 1 โดยไม่ต้องแสดงคูปอง HDmall เข้ารับบริการ ชำระเงินตามยอดที่ฝ่ายการเงินแจ้ง
หมายเหตุ แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลยันฮี อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 10.00-12.00 น.
-
ใช้ MRT ลงสถานีบางอ้อ (ทางออก 4) เดินต่อ 200 เมตร โรงพยาบาลอยู่ระหว่าง ซ. จรัญสนิทวงศ์ 90 กับ 92 ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งอยู่ชั้น 4
-
จอดรถที่อาคารจอดของโรงพยาบาล
-
จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ มีขั้นต่ำ มีค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ