รายละเอียดราคา
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำด้วยซิลิโคน Motiva รุ่น Ergonomix ขนาดไม่เกิน 400 ซีซี สำหรับผู้ที่เสริมหน้าอกครั้งแรก
- ค่าตรวจเลือดและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ค่าดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
หมายเหตุ
ถ้าต้องใช้ยานอนหลับ ต้องการห้องพักฟื้น มียาและเวชภัณฑ์เพิ่มเติม ต้องการชุดซัพพอร์ต หรือแก้งานเดิม มีค่าบริการเพิ่มเติมดังนี้
- ค่ายานอนหลับ 300-2,000 บาท
- ค่าห้องพักฟื้นพร้อมพยาบาลดูแล 3,000 บาท
- ค่ายาและเวชภัณฑ์เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
- ค่าชุดซัพพอร์ต เริ่มต้น 1,500 บาท
- ค่าแก้งานเดิม 25,000 บาท
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจนี้
- ติดต่อจองคิวก่อนเข้ารับบริการ
- แพ็กเกจนี้จำกัดเฉพาะผู้ที่เสริมครั้งแรกเท่านั้น
- ควรนัดวันที่สะดวกเพื่อปรึกษาแพทย์ก่อนทำ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- เจ้าหน้าที่จะอธิบายการปฏิบัติตัว รวมถึงนัดหมายตรวจสุขภาพที่คลินิก เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายก่อนผ่าตัด
- หากผลไม่มีปัญหาก็สามารถนัดหมายวันผ่าตัดได้
- สามารถปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนตัดสินใจได้ ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง
- วิสัญญีแพทย์จะเริ่มกระบวนการดมยาสลบก่อนเริ่มผ่าตัด
- ศัลยแพทย์จะเริ่มผ่าตัดตามแผนที่วางไว้กับผู้รับบริการ โดยจะเลาะช่องบริเวณหน้าอก เปิดแผลเล็กใต้ราวนม โดยไม่ทำให้เป็นคีลอยด์ ใส่ซิลิโคน และเย็บปิดแผล
- เจ้าหน้าที่จะคอยติดตามอาการตั้งแต่หลังผ่าตัดจนผู้รับบริการฟื้น เมื่อมีอาการคงที่แล้วจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
- ไม่ต้องค้างคืน ควรมีญาติมารับกลับ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- งดกิจกรรมที่ส่งผลให้มีการสูบฉีดไหลเวียนของเลือดมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวนา ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- ต้องตรวจเลือดก่อนศัลยกรรม โดยทางคลินิกจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการ
- งดน้ำงดอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนดมยาสลบ
การดูแลหลังรับบริการ
- ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เนื่องจากผลข้างเคียงของการดมยาสลบ แต่หากไม่มีอาการสามารถทานอาหารอ่อนได้
- ไม่ควรนอนราบหลังการผ่าตัด ควรนอนให้ลำตัวส่วนบนสูง ประมาณ 30-45 องศา ควรนอนโดยใช้หมอนสูง 2-3 ใบหนุนดันหลัง
- ไม่ควรขยับตัวมากในช่วง 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด
- ไม่ควรให้แผลถูกน้ำใน 5-7 วันแรก
- กรณีที่พลาสเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ติดแผลลอกหลุดหรือแผลลอกหลุดหรือบาดแผลถูกน้ำ ให้กลับมาทำแผลปิดพลาสเตอร์กันน้ำใหม่ที่คลินิก ไม่ควรทำแผลเอง
- ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอในช่วง 5-7 วันหลังผ่าตัด
- แพทย์จะนัดตัดไหมและตรวจเต้านมหลังผ่าตัด 5-7 วัน
- หากมีอาการอักเสบ บวม แดง มีเลือดหรือหนอง มีอาการปวดแผลมากขึ้น หรือมีไข้ขึ้นก่อนวันนัด ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที
- ในช่วง 5-7 วันหลังตัดไหม หากอาการปวดทุเลาลง ให้เริ่มนวดหน้าอกเบาๆ ตามที่แพทย์แนะนำ เพิ่อป้องกันการเกิดพังผืดยึดเกาะเต้านม จนทำให้หน้าอกแข็ง แต่ไม่ควรนวดก่อนตัดไหม
- ควรนวดคลึงเต้านมบ่อยๆ อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อป้องกันปัญหา โพรงที่ใส่ถุงนมมีการหดรัด รอบถุง ทำให้เต้านมแข็ง หด เป็นก้อน
- ไม่ควรยกของหนักหรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าอก อย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- อาการบวมจะมีอยู่ประมาณ 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด โดยจะบวมอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์แรก และจะลดลงเรื่อยๆ จนปกติประมาณ 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ควรสวมเสื้อชั้นในชนิดไม่มีโครง เช่น สปอร์ตบรา หรือซัพพอร์ตบราประมาณ 6 สัปดาห์ หลังจากนั้นสามารถสวมเสื้อชั้นในได้ตามปกติ
- สามารถขับรถพวงมาลัยพาวเวอร์ได้หากอาการปวดทุเลาลงประมาณ 5-7 วันหลังการผ่าตัด
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งและมาตรวจตามนัดอย่างเคร่งครัด
- งดยาแอสไพริน บรูเฟน วิตามินอี น้ำมันตับปลา หรือสมุนไพรต่างๆ ต่ออีก 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด เนื่องจากส่งผลให้เลือดออกง่าย ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหากต้องทานยาอื่นๆ เพิ่มในช่วง 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ควรเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หากยังมีอาการบวมและปวดแผล
- อาจมีอาการเสียวแปลบที่หัวนมหรือเต้านมด้านข้าง แต่จะหายไปภายในเวลาประมาณ 3 เดือน
- หากมีภาวะแทรกซ้อนหลังเสริมหน้าอก เช่น เลือดออกภายใน ติดเชื้ออักเสบ เต้านมแข็งตึง อาการปวดที่รุนแรงทันทีทันใด ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- มีการติดเชื้อ หรือเป็นมะเร็งเต้านม
- กำลังรักษาด้วยรังสีบำบัด
- มีประวัติเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- มีประวัติแพ้ซิลิโคน
- ซิลิโคนเสริมหน้าอก ได้รับอนุญาตให้ใช้ในคนอายุ 22 ปีขึ้นไปเท่านั้น
- หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติเป็นโรคทางจิตเวช ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ข้อควรระวัง
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- รู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกที่ทำการผ่าตัด
- ความรู้สึกบริเวณเต้านมหรือหัวนมอาจเปลี่ยนไปชั่วคราว
- เกิดการติดเชื้อ
- เกิดแผลเป็นบริเวณที่ผ่าตัด
- เกิดพังผืดภายในเต้านมทำให้เต้านมแข็ง
- มีเลือดออก เกิดลิ่มเลือด หรือของเหลวคั่งเป็นก้อน
- ซิลิโคนมีรอยแยกหรือรั่ว
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง
- หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจทำให้มีปัญหาการให้นมบุตร หรือมีการปนเปื้อนสารพิษผ่านไปยังทารก
ข้อมูลทั่วไป
การเสริมหน้าอก⠀เป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอก โดยวัสดุสำหรับเสริมหน้าอกที่นิยมในปัจจุบันทำมาจากซิลิโคนเจล
ข้อดีของซิลิโคนเจลเสริมหน้าอก คือ ให้ความรู้สึกคล้ายหน้าอกจริง ดูเป็นธรรมชาติ และเกิดผลแทรกซ้อนน้อย โดยซิลิโคนเจลที่นำมาใช้ต้องผ่านการได้รับอนุญาตจาก อย. เท่านั้น
ซิลิโคนเสริมหน้าอกแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?
ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถพิจารณาเลือกชนิดของซิลิโคนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พอใจที่สุด ซึ่งข้อแตกต่างของแต่ละแบบมีดังนี้
-⠀ขนาด⠀ก่อนอื่นแพทย์จะตรวจวัดร่างกายโดยละเอียดด้วยหลักทางการแพทย์ เพื่อพิจารณาว่าควรเสริมด้วยซิลิโคนขนาดใด ให้เหมาะกับขนาดสรีระของร่างกาย ใส่ได้พอดี ไม่รู้สึกอึดอัด และดูเป็นธรรมชาติ
-⠀รูปทรง⠀มี 2 แบบ ได้แก่ ทรงกลม และทรงหยดน้ำ ทรงกลมจะทำให้เห็นเนินอกชัดเจนกว่า แต่ทรงหยดน้ำจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับโครงสร้างร่างกายของแต่ละคนด้วย
-⠀ผิว⠀มี 2 แบบ ได้แก่ ผิวทราย และผิวเรียบ ผิวทรายทำให้เกิดพังผืดหลังการผ่าตัดน้อยกว่าผิวเรียบ จึงไม่ค่อยทำให้หน้าอกแข็งหลังทำ แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่า
แพ็กเกจนี้ใช้ซิลิโคน Motiva Ergonomix®
ซิลิโคน Motiva Ergonomix® ให้ความรู้สึกและดูเป็นธรรมชาติเหมือนหน้าอกจริง นอกจากนี้ยังถูกพัฒนาให้สามารถวางเข้าไปในหน้าอกได้ง่ายกว่า และมีระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่า (ProgressiveGel Ultima™)
ในซิลิโคนมีการฝังเครื่องมือที่ใช้คลื่นวิทยุ (Q Inside Safety Technology™) ที่ทำให้เข้าถึงข้อมูลของหน้าอกเทียมที่ใช้ได้ จึงช่วยให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
หมายเหตุ
- แพทย์อาจเลือกผ่าตัดบริเวณรักแร้ ปานนม หรือใต้ราวนม ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
- ตำแหน่งที่วางซิลิโคนอาจเป็น เหนือกล้ามเนื้อ ใต้กล้ามเนื้อ หรือผสมกัน (วางซิลิโคนด้านบนใต้กล้ามเนื้อและวางซิลิโคนด้านล่างเหนือกล้ามเนื้อ) ขึ้นกับความเห็นและความเชี่ยวชาญของแพทย์
- การผ่าตัดที่ใส่ท่อระบายหรือท่อเดรน จะช่วยระบายน้ำเหลืองจากการผ่าตัด ทำให้การบวมช้ำน้อยลง พักฟื้นเร็วขึ้น
รู้จักสถานที่ให้บริการ
Naravee Clinic (ณรวีคลินิก) สาขาอุดมสุข
ข้อมูลคลินิก- เวลาทำการ วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 08.00-18.00 น.
- แผนที่ https://goo.gl/maps/QgBMgocK4Uw
- BTS อุดมสุข
- BTS สถานีอุดมสุข (ทางออก 3) ต่อวินมอเตอร์ไซค์ไปซอยอุดมสุข 30 คลินิกอยู่ตรงข้ามซอยโรงเรียนสิริรัตนาธร
- จอดรถที่หน้าคลินิก
- ที่อยู่ 16 ซ.อุดมสุข 30 ถ.สุขุมวิท 103 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
- จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ยอดชำระ 1,000 บาทขึ้นไป
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แชทกับแอดมิน เพื่อแจ้งชื่อและข้อมูลของคุณสำหรับจองแพ็กเกจ
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- ส่งหลักฐานการชำระเงินให้แอดมิน
- รอรับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง หลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว คูปองมีอายุ 90 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับบริการ
จองผ่าน HDmall.co.th แล้วไปจ่ายเงินที่คลินิก รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- แชทกับแอดมิน เพื่อแจ้งชื่อและข้อมูลสำหรับจองแพ็กเกจ
- รับคูปองยืนยันการนัดหมายทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับบริการ และชำระค่าแพ็กเกจราคาเต็ม
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของคลินิก
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
หมายเหตุ สำหรับแพ็กเกจที่ต้องให้แพทย์ประเมินก่อน หลังจากแพทย์ประเมินแล้วว่ารับบริการได้ คุณสามารถจ่ายเงินโดยตรง ณ สถานที่ให้บริการ แล้วรับแคชแบ็กภายหลัง หรือจ่ายกับ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลดได้ทันทีพร้อมรับสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนทรงหยดน้ำ แบรนด์ Motiva รุ่น Ergonomix ที่ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก)
แพ็กเกจอื่นใน เสริมหน้าอก แก้หน้าอก
เสริมหน้าอก ซิลิโคน Mentor ไม่จำกัดซีซี ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน สำหรับผู้ที่เคยเสริมมาก่อน ที่ โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
ตัดหน้าอก (ตัดเต้านม) สำหรับผู้ชาย ที่ โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2
ผ่าตัดนำวัสดุเสริมหน้าอกออกและใส่วัสดุใหม่ ขนาด 500-550 ซีซี นอนพักที่ รพ. 1 คืน ที่ โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2
เสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคนทรงหยดน้ำ ขนาดใหญ่กว่า 800 ซีซี นอนพักที่ รพ. 2 คืน ที่ โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2
เสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคนทรงหยดน้ำ ขนาด 575-700 ซีซี นอนพักที่ รพ. 2 คืน ที่ โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2
แพ็กเกจอื่นจาก Naravee Clinic (ณรวีคลินิก)
ตัดปีกจมูก 1 ครั้ง ที่ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก)
เสริมจมูกซิลิโคนอเมริกา และรองปลายด้วยกระดูกหลังหู สำหรับเสริมครั้งแรก 1 ครั้ง ที่ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก)
เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนทรงกลม แบรนด์ Mentor จากอเมริกา ที่ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก)
เลเซอร์กำจัดขนแนวบิกินี่ GentleYAG 1 ครั้ง ที่ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก)
ฉีด Botulinum Toxin อเมริกา Allergan 100 ยูนิต (เก็บไว้ได้ 1 เดือน) ที่ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก)
ถาม
ตอบ