ปรึกษาแพทย์ฟรี! จองคิวกับแอดมินเพื่อรับแคชแบ็ก 7% ไม่มีขั้นต่ำ ถ้าตัดสินใจรับบริการ
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าเสริมหน้าอก ด้วยซิลิโคน Mentor ไม่จำกัดซีซี ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน 1 ครั้ง สำหรับเคสเสริมครั้งแรก
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าห้องพักฟื้น 5,000 บาท
- ค่าวิสัญญีแพทย์ 15,000 บาท
- ค่าอุปกรณ์ยกกระชับ 3,000 บาท
- ค่ายาและเวชภัณฑ์⠀3,000 บาท
- ค่าตรวจเลือดในห้องปฏิบัติการก่อนศัลยกรรม
- สำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี⠀3,970 บาท
- สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปี 5,570 บาท
หมายเหตุ
- สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนทำได้ ฟรี ไม่ว่าจะจัดสินใจทำหรือไม่ทำ
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ติดต่อจองคิวก่อนเข้ารับบริการ
- ควรนัดวันที่สะดวกเพื่อปรึกษาแพทย์ก่อนทำ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- จากนั้นเจ้าหน้าที่จะอธิบายการปฏิบัติตัว รวมถึงนัดหมายตรวจสุขภาพที่คลินิก เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายก่อนผ่าตัด
- หากผลไม่มีปัญหาก็สามารถนัดหมายวันผ่าตัดได้
- สามารถปรึกษาศัลยแพทย์ก่อนตัดสินใจได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง
- วิสัญญีแพทย์จะเริ่มกระบวนการดมยาสลบก่อนเริ่มผ่าตัด
- ศัลยแพทย์จะเริ่มผ่าตัดตามแผนที่วางไว้กับผู้รับบริการ โดยจะเลาะช่องบริเวณหน้าอก เปิดแผลเล็กใต้ราวนม โดยไม่ทำให้เป็นคีลอยด์ ใส่ซิลิโคน และเย็บปิดแผล
- เจ้าหน้าที่จะคอยติดตามอาการตั้งแต่หลังผ่าตัดจนผู้รับบริการฟื้น เมื่อมีอาการคงที่แล้วจึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้
- อาการข้างเคียงหลังการผ่าตัดที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ เวียนหัว อาเจียน ตึง แน่น บริเวณหน้าอกในระยะ 3 วันแรก ซึ่งอาการของแต่ละบุคคลก็อาจพบได้แตกต่างกันออกไปตามพื้นฐานสภาพร่างกายและวัยของคนไข้ การเตรียมพร้อมรับมือก็อาจต้องมีคนมาอยู่เป็นเพื่อนในช่วงพักฟื้น และดูแลแผลให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงควรทำตามคู่มือแนะนำที่ทางคลินิกให้ไปอย่างเคร่งครัด
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- แจ้งแพทย์ผู้ผ่าตัด ทราบถึงประวัติการเจ็บป่วย โรคประจำตัว แพ้ยา การรับประทานยาและอาหารเสริมทุกตัว โดยเฉพาะในคนที่มีโรคประจำตัว ภาวะโลหิตจาง ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวที่รักษาโรคนั้นๆ ตรวจเลือด รับประทานยาให้ร่างกายพร้อมก่อนรับการผ่าตัด
- งดหรือหยุด ยาละลายลิ่มเลือด ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยาอื่นที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยารักษาโรคไซนัส ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของยาดังกล่าว ตลอดจนวิตตามินอี น้ำมันปลา สมุนไพร และอาหารเสริมทุกชนิด 1 เดือนก่อนผ่าตัด เพราะวิตามินและอาหารเสริมบางตัวจะมีผลกับการผ่าตัด เสริมหน้าอก จะทำให้การปิดบาดแผลของระบบเลือดทำงานได้ช้าลง ส่งผลให้เลือดไม่ยอมแข็งตัว ซึ่งอาจเกิดอาการบวมช้ำนานกว่าคนอื่นๆ รวมถึงอาหารที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดก่อนผ่าตัด 1 สัปดาห์ เช่น ผงชูรส กระเทียม หัวหอม ถั่วเหลือง อัลมอนด์ แอปเปิ้ล ผลไม้ตระกูลเบอร์รี แตงกวา ขิง มะเขือเทศ งดทานอาหารที่ไม่สุกหรือสุกๆ ดิบๆ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 1 เดือนและงดบุหรี่ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เลือดออกง่ายหยุดช้ากว่าปกติ และอาการบวมที่ยาวนานกว่าปกติ
- ตรวจสุขภาพเจาะเลือดก่อนผ่าตัด บำรุงร่างกาย หาข้อมูลปรึกษาแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดให้ละเอียด เข้าใจชัดเจน
- หากมีอาการไอ มีไข้ หรืออาการป่วยใดๆ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเพื่อเลื่อนการผ่าตัด
- งดน้ำและอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ 8-12 ชั่วโมง ก่อนผ่าตัด เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมโดยคุณจะต้องไม่วิตกกังวล ไม่ควรเครียด เพราะมีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น อาจส่งผลให้คุณไม่สามารถทำการศัลยกรรมหน้าอกได้
การดูแลหลังรับบริการ
- หลังผ่าตัดสองวันแรกควรมีเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวอยู่ด้วยตลอดเวลาเพื่อช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวันเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งการเฝ้าดูอาการหลังการผ่าตัด
- การฟื้นตัวภายหลังการดมยาสลบในแต่ละคนต่างกัน บางคนฟื้นตัวได้ดี แต่บางคนอาจรู้สึกเหนื่อยเพลียมึนงงได้ตั้งแต่ 1-2 วันหลังดมยาสลบ
- รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย อาจแบ่งอาหารเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อง่ายต่อการเคี้ยว ควรเลี่ยงอาหารที่มีเกลือ หรือมีรสเค็มในสัปดาห์แรก เพราะเกลือทำให้น้ำถูกดึงกลับเข้าร่างกายเป็นสาเหตุให้บวมมากขึ้นได้
- ควรทานอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อป้องกันท้องผูกหลังการผ่าตัด โดยต้องได้รับสารอาหารและพลังงานในปริมาณที่เพียงพอด้วย เพื่อช่วยซ่อมแซมร่างกาย
- ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ให้มากใน 1-2 วันแรกหลังผ่าตัด พยายามงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน น้ำอัดลม และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เพราะจะทำให้ไม่สบายท้อง ฟื้นตัวช้า หากเลี่ยงไม่ได้ควรดื่มแต่น้อย
- สวมเสื้อที่ใส่สบาย ควรเป็นเสื้อผ้าแบบใส่จากทางด้านหน้า เช่น เสื้อเชิ้ตเสื้อคลุม ควรหลีกเลี่ยงเสื้อที่ใส่แบบสวมทางศีรษะ เนื่องจากจะยังปวดระบมหน้าอกอยู่ในช่วงแรกหลังผ่าตัด ทำให้ยกแขนได้ไม่ดี
ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- มีการติดเชื้อ หรือเป็นมะเร็งเต้านม
- กำลังรักษาด้วยรังสีบำบัด
- มีประวัติเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- มีประวัติแพ้ซิลิโคน
- ซิลิโคนเสริมหน้าอก ได้รับอนุญาตให้ใช้ในคนอายุ 22 ปีขึ้นไปเท่านั้น
- หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติเป็นโรคทางจิตเวช ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- รู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกที่ทำการผ่าตัด
- ความรู้สึกบริเวณเต้านมหรือหัวนมอาจเปลี่ยนไปชั่วคราว
- เกิดการติดเชื้อ
- เกิดแผลเป็นบริเวณที่ผ่าตัด
- เกิดพังผืดภายในเต้านมทำให้เต้านมแข็ง
- มีเลือดออก เกิดลิ่มเลือด หรือของเหลวคั่งเป็นก้อน
- ซิลิโคนมีรอยแยกหรือรั่ว
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง
- หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกอาจทำให้มีปัญหาการให้นมบุตร หรือมีการปนเปื้อนสารพิษผ่านไปยังทารก
ข้อมูลทั่วไป
การเสริมหน้าอก⠀เป็นการผ่าตัดเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอก โดยวัสดุสำหรับเสริมหน้าอกที่นิยมในปัจจุบันทำมาจากซิลิโคนเจล
ข้อดีของซิลิโคนเจลเสริมหน้าอก คือ ให้ความรู้สึกคล้ายหน้าอกจริง ดูเป็นธรรมชาติ และเกิดผลแทรกซ้อนน้อย โดยซิลิโคนเจลที่นำมาใช้ต้องผ่านการได้รับอนุญาตจาก อย. เท่านั้น
ซิลิโคนเสริมหน้าอกแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?
ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถพิจารณาเลือกชนิดของซิลิโคนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พอใจที่สุด ซึ่งข้อแตกต่างของแต่ละแบบมีดังนี้
-⠀ขนาด⠀ก่อนอื่นแพทย์จะตรวจวัดร่างกายโดยละเอียดด้วยหลักทางการแพทย์ เพื่อพิจารณาว่าควรเสริมด้วยซิลิโคนขนาดใด ให้เหมาะกับขนาดสรีระของร่างกาย ใส่ได้พอดี ไม่รู้สึกอึดอัด และดูเป็นธรรมชาติ
-⠀รูปทรง⠀มี 2 แบบ ได้แก่ ทรงกลม และทรงหยดน้ำ ทรงกลมจะทำให้เห็นเนินอกชัดเจนกว่า แต่ทรงหยดน้ำจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับโครงสร้างร่างกายของแต่ละคนด้วย
-⠀ผิว⠀มี 2 แบบ ได้แก่ ผิวทราย และผิวเรียบ ผิวทรายทำให้เกิดพังผืดหลังการผ่าตัดน้อยกว่าผิวเรียบ จึงไม่ค่อยทำให้หน้าอกแข็งหลังทำ แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่า
แพ็กเกจนี้ใช้ซิลิโคน Mentor®
ซิลิโคน Mentor® ให้ความรู้สึกนุ่ม เป็นธรรมชาติ คล้ายกับหน้าอกจริง มีให้เลือกหลายขนาดและหลายแบบเพื่อให้พอดีกับร่างกาย
หมายเหตุ
- แพทย์อาจเลือกผ่าตัดบริเวณรักแร้ ปานนม หรือใต้ราวนม ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
- ตำแหน่งที่วางซิลิโคนอาจเป็นเหนือกล้ามเนื้อ ใต้กล้ามเนื้อ หรือผสมกัน (วางซิลิโคนด้านบนใต้กล้ามเนื้อและวางซิลิโคนด้านล่างเหนือกล้ามเนื้อ) ขึ้นกับความเห็นและความเชี่ยวชาญของแพทย์
- การผ่าตัดที่ใส่ท่อระบายหรือท่อเดรน จะช่วยระบายน้ำเหลืองจากการผ่าตัด ทำให้การบวมช้ำน้อยลง พักฟื้นเร็วขึ้น
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Dermaster ผ่าน HDmall
ขั้นตอนการจ่ายเงินและรับแคชแบ็ก
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับบริการที่คลินิกตามวันที่นัดหมาย
- ชำระเงินที่คลินิกเต็มจำนวนตามที่แพทย์ประเมิน
- ทักไลน์ @hdcoth และกดปุ่ม “ทำนัด/ขอแคชแบ็ก” กรอกลิงก์ที่เจ้าหน้าที่ส่งให้พร้อมแนบใบเสร็จภายใน 30 วันหลังรับบริการ
หมายเหตุ
- ผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต จะไม่สามารถรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ รวมถึงไม่สามารถเบิก Cashback จาก HDmall.co.th ได้
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Dermaster อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th