รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🦠 ตรวจสอบภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAb) เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า! คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าร่างกายของคุณมีภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่? การตรวจสอบภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญและง่ายดายที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในสุขภาพของตับและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณ!
🏥 บริการตรวจเลือด HBsAb ที่ใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที จะช่วยให้คุณทราบว่าคุณมีภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการป้องกันก่อนเกิดปัญหาสุขภาพในอนาคต
💡 ทำไมต้องตรวจภูมิต้านทาน?
- ช่วยระบุความเสี่ยงในการติดเชื้อและวางแผนการป้องกันที่เหมาะสม
- มีความสำคัญสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เปลี่ยนคู่บ่อย หรือมีการติดเชื้อเอชไอวี
- สนับสนุนการดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่โดยการสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
📈 ผลการตรวจที่แม่นยำ โดยนักเทคนิคทางการแพทย์ พร้อมคำแนะนำในการดูแลสุขภาพ หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี การตรวจรักษาจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาต่อไป!
🌟 อย่าปล่อยให้ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณเป็นอุปสรรค! จองบริการตรวจภูมิต้านทาน HBsAb กับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th พร้อมรับผลการตรวจภายใน 2 ชั่วโมง 💬
เริ่มต้นดูแลสุขภาพตับของคุณวันนี้!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจหาภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAb)
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 10-30 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาเเน่นของผู้เข้ารับบริการ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- ไม่จำกัดอายุในการเข้ารับบริการ
- ระยะเวลารอผลประมาณ 2 ชั่วโมง หากไม่สะดวกรอผล สามารถรับผลได้ทาง LINE หรืออีเมลโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่หากต้องการรับผลทางไปรษณีย์ จะมีค่าบริการ 50 บาท
- มีการอ่านผลโดยนักเทคนิคทางการแพทย์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- หากมีความประสงค์จะพบแพทย์ สามารถนำผลไปปรึกษาแพทย์ได้เอง เนื่องจากทางคลินิกไม่มีแพทย์ประจำ
- ชาวต่างชาติสามารถเข้ารับบริการได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีการตั้งครรภ์ แพ้ยา มีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานประจำ เพราะอาจต้องงดยาบางชนิดล่วงหน้าก่อนตรวจเลือด
- งดอาหารก่อนการเจาะเลือด 8 ชั่วโมง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการตรวจเลือด
การดูแลหลังรับบริการ
- หากตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบี แพทย์มักแนะนำให้ตรวจเช็กการทำงานของตับ (Liver Function Test) เพื่อดูความเสียหาย ณ ปัจจุบันว่ายังคงเหลือประสิทธิภาพมากน้อยอยู่เท่าใด และจะจัดยาทำลายเชื้อไวรัสพร้อมคำแนะนำในการดูแลตนเอง
- หากตรวจไม่พบเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ได้แก่ ควรฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสตับอักเสบบีให้ครบ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง งดกินยา และวิตามินเสริมที่ไม่จำเป็น งดการใช้ภาชนะส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น มีเพศสัมพันธ์โดยการสวมถุงยางอนามัยเสมอ งดการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย และหมั่นตรวจสุขภาพทุกปี
ก่อนตัดสินใจ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- ผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
- สตรีมีครรภ์ หรือมีโอกาสตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี
- ผู้ที่กำลังได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย หรือมีการฟอกไต
ข้อมูลทั่วไป
โรคตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นโรคที่มีการอักเสบของตับ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี ที่อาจทำให้เกิดอาการป่วยเล็กน้อยหลายสัปดาห์ หรือเป็นเรื้อรังทำให้เกิดอาการรุนแรงเกิดผลเสียในระยะยาวได้
อาการหลังจากติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี
หลังจากได้รับเชื้อ เชื้อจะฟักตัว 2-3 เดือน แล้วจึงแสดงอาการคล้ายเป็นหวัด คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ อ่อนเพลีย ปัสสาวะเข้ม ตาเหลือง ปวดกล้ามเนื้อ ข้อ และปวดใต้ชายโครงขวาจากภาวะตับโตร่วมด้วย ซึ่งร่างกายจะค่อยๆ กำจัดเชื้อออกไป พร้อมกับสร้างภูมิคุ้มกัน อาการจึงค่อยๆ ดีขึ้นภายในเวลา 2-3 สัปดาห์
แต่หากไม่สามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้ จะเกิดการติดเชื้อเรื้อรัง ซึ่งบางรายเกิดการอักเสบของตับร่วมด้วย ทำให้เซลล์ตับตายกลายเป็นพังผืดจนเกิดตับแข็ง หรืออาจกลายเป็นมะเร็งตับได้
ไวรัสตับอักเสบบี ติดต่อได้อย่างไร?
ไวรัสตับอักเสบชนิดบี สามารถติดต่อได้จากหลายทาง ดังต่อไปนี้
- ถ่ายทอดจากมารดาที่ติดเชื้อสู่ทารก ปัจจุบันพบน้อยเนื่องจากมีการฉีดวัคซีนให้ทารกหลังจากคลอด ซึ่งป้องกันได้เกือบ 100%
- ผ่านทางเพศสัมพันธ์ โดยไม่ได้ป้องกัน
- ผ่านเลือด หรือสัมผัสถูกบาดแผล
- ผ่านการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับบุคคลอื่น
- ผ่านการสัก เจาะหู หรือฝังเข็ม ด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม
การตรวจวินิจฉัยไวรัสตับอักเสบบี
สามารถทำได้โดยการตรวจเลือดหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือ HBsAg และอาจมีการตรวจแอนติบอดี้ HBsAb หรือภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเพิ่มเติม เพื่อดูว่าร่างกายมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่
การตรวจไวรัสตับอักเสบบี มีข้อดีอย่างไร?
- ทำให้ทราบว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่ หากมีจะได้เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม รวมถึงป้องกัน และประเมินความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น
- ทำให้ทราบว่ามีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่หรือไม่ สำหรับพิจารณาความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีต่อไป
การแปลผลการตรวจ
- ตรวจหาเชื้อ (HBsAg) หากผลเป็นบวก แปลว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้
- ตรวจหาภูมิคุ้มกัน (HBsAb หรือ Anti-HBs) หากผลเป็นบวก แปลว่าร่างกายมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งอาจได้มาจากการฉีดวัคซีนหรือร่างกายสร้างขึ้นเองจากการตอบสนองต่อการติดเชื้อ ผู้ที่มีภูมิต้านทานอยู่จะไม่เกิดการติดเชื้อ และไม่เป็นพาหะของเชื้อแพร่ไปสู่บุคคลอื่น
- กรณีที่ได้ผลเป็นลบทั้งคู่ แปลว่าไม่มีการติดเชื้อ แต่ร่างกายยังไม่มีภูมิต้านทาน แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี

แพ็กเกจอื่นเกี่ยวกับตรวจตับ ตรวจการทำงานของตับ ตรวจไวรัสตับอักเสบบี ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ คลินิกแล็บเซ็นเตอร์ ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่ห้องปฏิบัติการได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ คลินิกแล็บเซ็นเตอร์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
