เป็นการตรวจขณะเดินหรือวิ่งบนสายพาน ช่วยประเมินความแข็งแรงของหัวใจ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความเสี่ยงหัวใจตีบ ดูว่าออกกำลังกายได้หนักแค่ไหน
แพ็กเกจอื่นที่คุณอาจสนใจ
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
❤️ ดูแลหัวใจของคุณวันนี้ เพื่ออนาคตที่สดใส! หากคุณรู้สึกเหนื่อยง่าย เจ็บแน่นหน้าอก หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ นี่คือเวลาที่คุณต้องใส่ใจสุขภาพหัวใจของคุณ! โปรแกรมตรวจสุขภาพหัวใจด้วยการเดินสายพานขณะออกกำลังกาย (EST) ที่ โรงพยาบาลพญาไท 3 จะช่วยคุณตรวจสอบสุขภาพหัวใจอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าหัวใจของคุณได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
🏥 โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติหรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
- นักกีฬา เพื่อประเมินสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย
💡 ทำไมต้องตรวจสุขภาพหัวใจ?
- ช่วยค้นหาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ
- สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
🌟 โปรแกรมรวมถึง:
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย
- ตรวจวัดการแข็งตัวของหลอดเลือด
- และการตรวจสุขภาพอื่นๆ อีกมากมาย
อย่าปล่อยให้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจของคุณเป็นภาระ! จองบริการ กับเราได้ที่ HDmall.co.th ง่ายๆ และรับผลการตรวจภายใน 1 วันทำการ 📅
ทำให้หัวใจของคุณแข็งแรง เริ่มต้นดูแลวันนี้!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจสุขภาพหัวใจด้วยการเดินสายพานขณะออกกำลังกาย (EST) รวมค่าแพทย์ ค่าบริการโรงพยาบาล สมุดรายงานผลตรวจสุขภาพ และคูปองอาหาร มีรายการตรวจดังนี้
- ซักประวัติและตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ (Physical Examination)
- เอกซเรย์ปอด (Chest X-ray)
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- ตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test: EST)
- ตรวจวัดการแข็งตัวของหลอดเลือด (Ankle Brachial Index: ABI)
- ตรวจปัสสาวะ (Urine Analysis)
- ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC)
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS)
- ตรวจการทำงานของไต (Creatinine)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (SGOT)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (SGPT)
- ตรวจปริมาณไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล (Total cholesterol)
- ตรวจปริมาณไขมันในเลือด ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)
- ตรวจปริมาณไขมันในเลือด (ไขมันดีในเลือด) (HDL-C)
- ตรวจปริมาณไขมันในเลือด (ไขมันไม่ดีในเลือด) (LDL-Direct)
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- สำหรับผู้ที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป หรือผู้มีโรคประจำตัว และครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ
- นัดหมายตรวจสุขภาพล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
- สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถแสดงรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
- เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- งดเครื่องดื่มและงดอาหาร อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้
- งดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากก่อนการตรวจ เช่น การออกกำลังกาย
- หากผู้ป่วยรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการเต้นของหัวใจควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการตรวจ EST
- ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (หากต้องการรับบริการ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)
- ผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ชนิดไม่คงที่ (Unstable Angina)
- ผู้มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ไม่สามารถควบคุมได้
- ผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจเอเออร์ติก (Aortic Valve) ตีบอย่างรุนแรง
- ผู้ที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวที่การรักษายังไม่ได้ผล
- ผู้ที่มีภาวะเส้นเลือดปอดอุดตันเฉียบพลัน
- ผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจ และ/หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
- ผู้ที่มีภาวะเส้นเลือดแดงเอออร์ตา (Aorta) ฉีกขาดเฉียบพลัน
- ผู้ที่มีภาวะการเจ็บป่วยเฉียบพลันที่มีผลต่อการตรวจ EST เช่น การติดเชื้อต่างๆ โรคไตวาย โรคไทรอยด์เป็นพิษ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การตรวจ EST อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาล จึงไม่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่สำหรับผู้ที่มีสุขภาพหัวใจผิดปกติอาจมีผลข้างเคียง หรืออาการผิดปกติเกิดขึ้นได้ ดังนี้
- มีอาการเหนื่อยมากจนไม่สามารถเดินต่อได้
- คลื่นไส้ วิงเวียน อ่อนเพลีย คล้ายจะเป็นลม
- มีอาการแสบร้อน ปวด หรือแน่นหน้าอก
- พบลักษณะของกราฟไฟฟ้าหัวใจที่บ่งชี้ถึงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง
- ความดันโลหิตสูงขั้นรุนแรงขณะที่เดินสายพาน
ข้อมูลทั่วไป
การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test: EST⠀หรือ⠀Exercise Tolerance Test: ETT)⠀ใช้สำหรับตรวจหาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือตรวจหาการเต้นของหัวใจผิดจังหวะที่เกิดขึ้นขณะออกกำลังกาย โดยดูว่าในขณะที่ร่างกายออกกำลังอย่างหนัก กล้ามเนื้อหัวใจได้รับเลือดและออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงเพียงพอหรือไม่
การตรวจ EST มีเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบ 2 แบบ คือ สายพานไฟฟ้า (Treadmill) และจักรยาน (Bicycle Ergometer)
ผู้ที่ควรเข้ารับการตรวจ EST
- ผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป และผู้หญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติที่อาจเป็นภาวะหัวใจขาดเลือด เช่น เจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยง่ายกว่าปกติ หรือเหนื่อยมากเมื่อออกกำลังกาย
- ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือด เช่น ผู้สูบบุหรี่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดของอวัยวะอื่นอยู่แล้ว หรือครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ หรืออัมพาต
- นักกีฬา เพราะการวิ่งสายพานจะช่วยให้รู้ระดับการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับระดับการเต้นของหัวใจ
ขั้นตอนการตรวจ EST
- แพทย์ประเมินหาข้อห้ามในการทดสอบ
- ทำการติดเครื่องวัดความดันโลหิตและชีพจรแบบอัตโนมัติ และติดสายวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจบริเวณหน้าอก
- แพทย์บันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจก่อนการทดสอบ ในท่านอนและท่ายืน
- แพทย์ติดตามการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจในขณะออกกำลังกาย รวมไปถึงวัดความดันโลหิตและชีพจรเป็นระยะๆ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ EST
- งดอาหารและเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์ หรือน้ำหวาน ก่อนการตรวจอย่างน้อย 4 ชั่วโมง โดยสามารถรับประทานน้ำเปล่าได้
- งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนอย่างน้อย 12 ชั่วโมง เนื่องจากคาเฟอีนอาจรบกวนการแปลผลการทดสอบ
- สวมใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย เพราะต้องเดิน หรือวิ่งบนสายพานด้วย
- สำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ควรนำยาพ่นมาด้วยในวันตรวจ
- งดรับประทานยาประจำตัวในตอนเช้าก่อนเข้ารับการตรวจ ยกเว้นแพทย์สั่งไม่ให้งด
- หากเป็นยาที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำ เช่น ยารักษาโรคจิตเวช หรือยารักษาโรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนงดรับประทานยาทุกครั้ง
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยา หรืออาหารเสริมที่กำลังรับประทานก่อนเข้ารับการตรวจ โดยแนะนำให้นำยามาให้แพทย์ดูเลย
การดูแลตัวเองหลังการตรวจ EST
- สามารถรับประทานอาหาร ยา และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ เว้นแต่แพทย์จะสั่งห้าม
หมายเหตุ
- ไม่แนะนำผู้ที่มีข้อจำกัดในการวิ่ง เช่น ปวดเข่า เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดกระดูกและข้อที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว หรือมีอาการขาอ่อนแรง
วิธีชำระและใช้งาน
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แชทกับแอดมิน เพื่อแจ้งชื่อและข้อมูลของคุณสำหรับจองแพ็กเกจ
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- ส่งหลักฐานการชำระเงินให้แอดมิน
- รอรับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง หลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง