เป็นการตรวจประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปร่างของหัวใจ การทำงานของหัวใจและลิ้นหัวใจ
แพ็กเกจอื่นที่คุณอาจสนใจ
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจสุขภาพหัวใจด้วยคลื่นเสียงหัวใจ (Echo) รวมค่าแพทย์ ค่าบริการโรงพยาบาล สมุดรายงานผลตรวจสุขภาพ และคูปองอาหาร มีรายการตรวจดังนี้
- ซักประวัติและตรวจร่างกายทั่วไปโดยแพทย์ (Physical Examination)
- เอกซเรย์ปอด (Chest X-ray)
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- ตรวจคลื่นเสียงหัวใจ (Echocardiography)
- ตรวจวัดการแข็งตัวของหลอดเลือด (Ankle Brachial Index: ABI)
- ตรวจปัสสาวะ (Urine Analysis)
- ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC)
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS)
- ตรวจการทำงานของไต (Creatinine)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (SGOT)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (SGPT)
- ตรวจปริมาณไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล (Total cholesterol)
- ตรวจปริมาณไขมันในเลือด ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)
- ตรวจปริมาณไขมันในเลือด (ไขมันดีในเลือด) (HDL-C)
- ตรวจปริมาณไขมันในเลือด (ไขมันไม่ดีในเลือด) (LDL-Direct)
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- เหมาะสำหรับผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป หรือผู้มีโรคประจำตัว และครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ
- นัดหมายตรวจสุขภาพล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน
- สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถแสดงรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
- เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- งดเครื่องดื่มและงดอาหาร อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้
- งดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากก่อนการตรวจ เช่น การออกกำลังกาย
- หากผู้ป่วยรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการเต้นของหัวใจควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
ก่อนตัดสินใจ
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- มีประวัติเคยได้รับการฉายแสงที่บริเวณลำคอ หรือหน้าอก
- เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดอาหารต่างๆ เช่น โรคหลอดอาหารตีบ โรคหลอดอาหารเป็นแผลรุนแรง
- เป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกับกระดูกสันหลังบริเวณคอ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การตรวจ Echocardiogram เป็นกระบวนการที่ปลอดภัย ไร้ความเจ็บปวด หากมีภาวะข้างต้น ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงจากการตรวจบางประเภทได้ ดังนี้
-⠀Stress Echocardiogram⠀อาจทำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้ เวียนหัว และอาจมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วยระหว่างออกกำลังกาย ทั้งยังมีโอกาสเล็กน้อยที่การทดสอบจะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด
-⠀Transesophageal Echocardiogram⠀อาจทำให้ลำคอระคายเคือง และปวดเล็กน้อยในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังการตรวจ ทั้งยังมีโอกาสที่แท่งตรวจจะสร้างความเสียหายภายในลำคอ
ข้อมูลทั่วไป
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง⠀หรือ⠀เอ็กโคคาร์ดีโอแกรม (Echocardiogram)⠀หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า⠀ตรวจเอ็กโค (Echo)⠀เป็นการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงที่หัวใจและแสดงการเต้นของหัวใจ
กระบวนการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง แพทย์จะส่งคลื่นเสียงที่ปลอดภัยเข้าไปในทรวงอก และรับเสียงที่สะท้อนออกมาไปแปลเป็นภาพให้เห็นบนจอ ซึ่งจะแสดงถึงรูปร่าง ขนาด และการทำงาน ของกล้ามเนื้อหัวใจและลิ้นหัวใจว่าปกติหรือไม่
ประเภทของการตรวจ Echocardiogram
-⠀การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านทางผนังหน้าอก (Transthoracic Echocardiogram)⠀เป็นการตรวจที่เป็นมาตรฐาน และจะใช้หัวตรวจเคลื่อนที่ไปทั่วๆ ผนังหน้าอกเพื่อให้เห็นภาพของหัวใจ
-⠀การตรวจคลื่นสะท้อนหัวใจผ่านทางหลอดอาหาร (Transesophageal Echocardiogram)⠀การตรวจนี้จะใส่ท่อขนาดเล็กที่มีหัวตรวจอยู่ภายในเข้าไปทางคอหอยและหลอดอาหาร ทำให้ได้ภาพของหัวใจที่ชัดมากขึ้น โดยเฉพาะผนังด้านหลังของหัวใจ
-⠀การตรวจคลื่นสะท้อนหัวใจระหว่างออกกำลังกาย (Stress Echocardiogram) เป็นการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงก่อนและหลังจากการเดินสายพานหรือการปั่นจักรยาน ช่วยให้สามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นกับเส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจได้
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจ Echocardiogram
- งดอาหารและเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์ หรือน้ำหวาน ก่อนการตรวจอย่างน้อย 4 ชั่วโมง โดยสามารถรับประทานน้ำเปล่าได้
- งดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากก่อนการตรวจ เช่น การออกกำลังกาย
- หากตรวจแบบ Stress Echocardiogram หรือการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงร่วมกับการออกกำลังกาย ให้สวมใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย เพราะต้องเดิน หรือวิ่งบนสายพานด้วย
- งดรับประทานยาประจำตัวในตอนเช้าก่อนเข้ารับการตรวจ ยกเว้นแพทย์สั่งไม่ให้งด
- หากเป็นยาที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำ เช่น ยารักษาโรคจิตเวช หรือยารักษาโรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนงดรับประทานยาทุกครั้ง
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยา หรืออาหารเสริมที่กำลังรับประทานก่อนเข้ารับการตรวจ โดยแนะนำให้นำยามาให้แพทย์ดูด้วย
การดูแลตัวเองหลังการตรวจ Echocardiogram
- สามารถรับประทานอาหาร ยา และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ เว้นแต่แพทย์จะสั่งห้าม
- หากมีการใช้ยาชาในการตรวจ ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ร้อนจัด หรือเย็นจัด จนกว่าฤทธิ์ยาจะหมด
- หากเป็นการตรวจแบบ Transesophageal Echocardiogram จะไม่สามารถขับขี่ยานพาหนะได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการทดสอบเนื่องจากฤทธิ์ของยาระงับประสาทยังไม่หมด
วิธีชำระและใช้งาน
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แชทกับแอดมิน เพื่อแจ้งชื่อและข้อมูลของคุณสำหรับจองแพ็กเกจ
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- ส่งหลักฐานการชำระเงินให้แอดมิน
- รอรับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง หลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง