ไวรัสตับอักเสบบีเป็นเชื้อไวรัสที่อันตราย หากอักเสบเรื้อรังอาจทำให้เกิดตับวาย ตับแข็ง หรือมะเร็งตับได้
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HbsAg) ทราบผลใน 30 นาที 1 ครั้ง
- ค่าบริการทางการแพทย์
- ค่าแพทย์
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการ และรอผลตรวจประมาณ 30 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนรับบริการ
ก่อนตัดสินใจ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- ผู้ที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
- สตรีมีครรภ์หรือมีโอกาสตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี
- ผู้ที่กำลังได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
- ผู้ที่เป็นโรคไตระยะสุดท้ายหรือมีการฟอกไต
ข้อมูลทั่วไป
โรคตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นโรคที่มีการอักเสบของตับ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี ที่อาจทำให้เกิดอาการป่วยเล็กน้อยหลายสัปดาห์ หรือเป็นเรื้อรังทำให้เกิดอาการรุนแรงเกิดผลเสียในระยะยาวได้
อาการหลังจากติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี
หลังจากได้รับเชื้อ เชื้อจะฟักตัว 2-3 เดือน แล้วจึงแสดงอาการคล้ายเป็นหวัด คลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ อ่อนเพลีย ปัสสาวะเข้ม ตาเหลือง ปวดกล้ามเนื้อ ข้อ และปวดใต้ชายโครงขวาจากภาวะตับโตร่วมด้วย ซึ่งร่างกายจะค่อยๆ กำจัดเชื้อออกไป พร้อมกับสร้างภูมิคุ้มกัน อาการจึงค่อยๆ ดีขึ้นภายในเวลา 2-3 สัปดาห์
แต่หากไม่สามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้ จะเกิดการติดเชื้อเรื้อรัง ซึ่งบางรายเกิดการอักเสบของตับร่วมด้วย ทำให้เซลล์ตับตายกลายเป็นพังผืดจนเกิดตับแข็ง หรืออาจกลายเป็นมะเร็งตับได้
ไวรัสตับอักเสบบี ติดต่อได้อย่างไร?
ไวรัสตับอักเสบชนิดบี สามารถติดต่อได้จากหลายทาง ดังต่อไปนี้
- ถ่ายทอดจากมารดาที่ติดเชื้อสู่ทารก ปัจจุบันพบน้อยเนื่องจากมีการฉีดวัคซีนให้ทารกหลังจากคลอด ซึ่งป้องกันได้เกือบ 100%
- ผ่านทางเพศสัมพันธ์ โดยไม่ได้ป้องกัน
- ผ่านเลือด หรือสัมผัสถูกบาดแผล
- ผ่านการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับบุคคลอื่น
- ผ่านการสัก เจาะหู หรือฝังเข็ม ด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม
การตรวจวินิจฉัยไวรัสตับอักเสบบี
สามารถทำได้โดยการตรวจเลือดหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หรือ HBsAg และอาจมีการตรวจแอนติบอดี้ HBsAb หรือภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเพิ่มเติม เพื่อดูว่าร่างกายมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่
การตรวจไวรัสตับอักเสบบี มีข้อดีอย่างไร?
- ทำให้ทราบว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่ หากมีจะได้เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม รวมถึงป้องกันและประเมินความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น
- ทำให้ทราบว่ามีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่หรือไม่ สำหรับพิจารณาความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีต่อไป
การแปลผลการตรวจ
- ตรวจหาเชื้อ (HBsAg) หากผลเป็นบวก แปลว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้
- ตรวจหาภูมิคุ้มกัน (HBsAb หรือ anti-HBs) หากผลเป็นบวก แปลว่าร่างกายมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งอาจได้มาจากการฉีดวัคซีนหรือร่างกายสร้างขึ้นเองจากการตอบสนองต่อการติดเชื้อ ผู้ที่มีภูมิต้านทานอยู่จะไม่เกิดการติดเชื้อ และไม่เป็นพาหะของเชื้อแพร่ไปสู่บุคคลอื่น
- กรณีที่ได้ผลเป็นลบทั้งคู่ แปลว่าไม่มีการติดเชื้อ แต่ร่างกายยังไม่มีภูมิต้านทาน แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Safe Clinic ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Safe Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th