รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
💔 คุณรู้หรือไม่ว่าไวรัสตับอักเสบซี (HCV) อาจอยู่ในร่างกายโดยที่คุณไม่รู้ตัว? โรคนี้มักไม่มีอาการชัดเจน แต่หากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่โรคตับแข็งและมะเร็งตับได้! หากคุณเคยสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงเช่น การฉีดสารเสพติด หรือการได้รับเลือดก่อนปี 2535 การตรวจหาภูมิต่อไวรัสตับอักเสบซี (HCV-Ab) จึงเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม!
🏥 บริการตรวจหาภูมิต่อไวรัสตับอักเสบซี HCV-Ab ที่ Life Balance Methodology มอบการตรวจที่แม่นยำเพื่อให้คุณทราบสถานะสุขภาพตับของคุณ โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะดูแลคุณตลอดการตรวจ
💡 ทำไมคุณถึงควรตรวจไวรัสตับอักเสบซี?
- ประเมินความเสี่ยงและความรุนแรงของการติดเชื้อ
- ช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา
🩸 บริการรวม:
- ตรวจหาภูมิต่อไวรัสตับอักเสบซี HCV-Ab
อย่าปล่อยให้สุขภาพของคุณเสี่ยงอีกต่อไป! จองบริการ กับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th พร้อมรับผลตรวจภายใน 1 วันทำการ 📅
เริ่มต้นดูแลสุขภาพตับของคุณวันนี้!
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ตรวจตับอักเสบซี
ราคานี้ครอบคลุมอะไรบ้าง
- ตรวจหาภูมิต่อไวรัสตับอักเสบซี HCV-Ab
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจตับอักเสบซี
- แพ็กเกจเหมาะสำหรับช่วงอายุ 20 ปี ขึ้นไป
- รอผลตรวจ 1 วันหลังเจาะเลือด
- ผลตรวจจัดส่งให้ทาง E-Mail
- ไม่สามารถออกใบรับรองแพทย์ได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- เตรียมบัตรประชาชน หรือพาสปอร์ต
- พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนรับบริการ
- งดอาหารก่อนการเจาะเลือด 8 ชั่วโมง
- งดดื่มสุรา งดยาบางชนิด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตรวจ)
- หากกำลังตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัว แพ้ยา หรือกำลังใช้ยาใดๆ อยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- เก็บตัวอย่างด้วยวิธีเจาะเลือด โดยส่วนใหญ่มักจะเจาะเลือดจำนวน 2 ครั้ง
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่เคยได้รับเลือดและสารเลือดก่อนปี พ.ศ.2535 เนื่องจากยังไม่มีการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
- ผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะก่อนปี พ.ศ.2535
- ผู้ที่มีการฉีดสารเสพติดเข้าเส้นเลือด ถึงแม้ว่าทดลองใช้เพียงครั้งเดียว
- ผู้ป่วยโรคเอดส์
- ผู้ที่ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
- ผู้ที่มีผลเลือดการทำงานของตับพบการอักเสบ
- ผู้ที่ติดยาเสพติดใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสตับอักเสบซีจากการทำฟัน
- ผู้ที่สำส่อนทางเพศหรือรักร่วมเพศ
- ผู้ที่มีการสักตามตัว การใช้เข็มที่ติดเชื้อโรคสักผิวหนัง เจาะหู ฝังเข็ม
- ผู้ที่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง
- บุคลากรทางการแพทย์ที่ถูกเข็มตำจากผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง
- การใช้ของส่วนตัวที่เปื้อนเลือดร่วมกัน เช่น มีดโกน หรือกรรไกรตัดเล็บ
- ทารกที่เกิดจากแม่ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (ติดได้แต่พบน้อย)
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจตับอักเสบซี
ไวรัสตับอักเสบซี คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดซี สามารถติดต่อกันทางเลือดหรือเพศสัมพันธ์คล้ายกับไวรัสตับอักเสบบี แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ทางการให้นมบุตร การจามหรือไอรดกัน การรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำด้วยกัน หรือการใช้ถ้วยชามร่วมกัน
เชื้อไวรัสตับอักเสบซี เมื่อเข้าไปในร่างกายจะแบ่งตัวและอาศัยอยู่ในตับ ระยะแรกทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งมักจะมีอาการไม่มาก ทำให้ผู้รับเชื้อไม่ทราบว่ามีตับอักเสบ โดยประมาณเกือบ 8% ของผู้ที่ได้รับเชื้อจะมีการติดเชื้อเรื้อรังและตามมาด้วยตับอักเสบแบบเรื้อรังแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ค่อยมีอาการชัดเจน ผ่านไปประมาณ 10-30 ปีจึงเข้าสู่ระยะตับแข็ง และอีกสิบปีต่อมาจึงถึงระยะท้ายของโรคตับแข็ง เมื่อมีโรคตับแข็งเกิดขึ้นจะมีโอกาสเกิดมะเร็งตับได้ประมาณ 1-3% ทั้งนี้จากสถิติที่ติดตามอาการของผู้ป่วยโรคตับแข็งจากไวรัสตับอักเสบซี จำนวน 100 คน จะมี 3 คนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับตามมา
ภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
- ตับอักเสบเฉียบพลัน หลังจากไวรัสตับอักเสบซีเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้เกิดการอักเสบของตับ แต่ส่วนมากผู้ป่วยจะไม่มีอาการ มีเพียงประมาณ 25-30% ของผู้ป่วยจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ที่เรียกว่าดีซ่าน ดังนั้นผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าตัวเองเกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแบบเฉียบพลัน
- ตับอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมากกว่า 60% จะเกิดภาวะตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งในระยะแรกผู้ป่วยมักจะไม่มีอาการ จนเมื่อตับถูกทำลายไปมากพอควรหรือมีการอักเสบของตับมาก ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
- ตับแข็ง ผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังจากไวรัสตับอักเสบซีนั้น ตับจะมีอาการอักเสบและถูกทำลายไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจะกลายเป็นตับแข็ง ซึ่งถ้าเป็นมากแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลียมาก ดีซ่าน ท้องมาน และเกิดตับวายได้ในที่สุด
- มะเร็งตับ ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังจะมีโอกาสเกิดมะเร็งตับได้มากกว่าคนปกติ แต่มีรายงานว่าถ้าผู้ป่วยได้รับการรักษาไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังอย่างถูกต้อง ก็สามารถลดโอกาสเกิดมะเร็งตับลงได้
อาการหลังจากติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคตับอักเสบซีจะไม่แสดงอาการ ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบซีเฉียบพลันบางรายจะมีอาการภายใน 1 ถึง 3 เดือนหลังจากที่ได้รับเชื้อไวรัส โดยอาจมีอาการเหล่านี้
- ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
- ร่างกายอ่อนเพลีย
- มีไข้
- อุจจาระสีเทาหรือมีลักษณะคล้ายดินเหนียว
- ปวดข้อกระดูก
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้องประจำเดือน
- มีภาวะดีซ่าน โดยมีตาและผิวหนังเหลือง
และในกรณีที่เป็นโรคตับอักเสบซีเรื้อรัง จะไม่มีลักษณะอาการใด แต่จะทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนและเริ่มมีอาการอื่น ๆ โดยอาจเกิดขึ้นได้หลายสิบปีหลังจากที่ติดเชื้อ
ไวรัสตับอักเสบซี ติดต่อได้อย่างไร?
- สัมผัสเลือด สารคัดหลั่งของร่างกาย ได้แก่ เลือด น้ำเหลือง น้ำเหลืองจากเลือด เหงื่อ ไขมันจากต่อมเหงื่อ หนอง น้ำไขสันหลัง น้ำตา น้ำในช่องต่างๆ ของดวงตา ขี้หู น้ำมูก ขี้มูก น้ำลาย เสมหะ น้ำนม อาเจียน น้ำดี น้ำจากช่องคลอด น้ำอสุจิ นอกจากนี้ ยังมีน้ำต่างๆ ในโพรงของอวัยวะต่างๆ เช่น น้ำในช่องท้อง และน้ำในช่องปอดและปัสสาวะ
- ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เช่น ผู้เสพสารเสพติด
- ได้รับเลือดที่มีผู้บริจาคก่อน พ.ศ. 2535 เพราะการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบซีในช่วงนั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสตับอักเสบซีในเลือด ทุกถุงก่อนจะนำมาให้กับผู้ป่วย
- ทารกได้รับเชื้อจากมารดาขณะคลอด
- เพศสัมพันธ์
- การใช้สิ่งของในชีวิตประจำวันที่อาจมีการสัมผัสเลือดร่วมกัน เช่น อุปกรณ์โกนหนวด แปรงสีฟัน กรรไกรตัดเล็บ
การตรวจวินิจฉัยไวรัสตับอักเสบซี
เก็บตัวอย่างโดยการเจาะเลือด โดยส่วนใหญ่มักจะเจาะเลือดจำนวน 2 ครั้ง ได้แก่ การทดสอบแอนติบอดีและการทดสอบ PCR โดยผลการทดสอบจะออกภายใน 2 สัปดาห์
- การทดสอบภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบซี (anti-HCV) จะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณเคยสัมผัสกับไวรัสตับอักเสบซีหรือไม่ โดยการทดสอบหาภูมิคุ้มกันไวรัสต่อไวรัส แอนติบอดีผลิตโดยระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค วิธีการนี้จะบอกได้เพียงว่าคุณเคยได้รับเชื้อหรือไม่
- การทดสอบ PCR โดยการตรวจเลือดจะตรวจสอบว่าไวรัสยังคงมีอยู่หรือไม่ โดยตรวจสอบการแพร่พันธุ์ภายในร่างกาย
การตรวจไวรัสตับอักเสบซี มีข้อดีอย่างไร?
- ทำให้ทราบว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีหรือไม่ หากมีจะได้เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม รวมถึงป้องกันและประเมินความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น
- ทำให้ทราบว่ามีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบซีอยู่หรือไม่ สำหรับพิจารณาความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบซีต่อไป
การแปลผลการตรวจ
- ภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบซี (anti-HCV) เป็นภูมิที่บอกว่ามีหรือเคยมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ถ้าให้ผลบวก แสดงว่าเคยมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีมาก่อนโดยที่ขณะนี้อาจมีหรือไม่มีไวรัสอยู่ในเลือดก็ได้
- การนับปริมาณไวรัสโดยวิธี Polymerase Chain Reaction (PCR) ถ้าให้ผลบวกแสดงว่ากำลังมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
แพ็กเกจอื่นเกี่ยวกับตรวจตับ ตรวจการทำงานของตับ ตรวจไวรัสตับอักเสบบี ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Life Balance Methodology ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่ได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Life Balance Methodology อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ


รู้โปรฯ ใหม่ก่อนใคร! แค่ทิ้งเมลไว้ เดี๋ยวเราเตือนคุณเอง
จะต้องมีการนัดหมายติดตามผลหรือไม่?
วิธีการชำระเงินมีอะไรบ้าง?
คูปองมีอายุการใช้งานนานเท่าไร?
มีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอะไรบ้างจากการตรวจ?
แพ็กเกจอื่นใน ตรวจตับ (Liver Function Test)
เจาะตับนำเนื้อเยื่อและเซลล์ตับมาวิเคราะห์ โดยอาศัยการเอกซเรย์ค้นหาตำแหน่ง (CT Guides Biopsy)
ส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและท่อตับอ่อน (ERCP) ด้วยท่อโลหะ เพื่อระบายน้ำดี
ส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและท่อตับอ่อน (ERCP) เพื่อการวินิจฉัย
แพ็กเกจอื่นใน Life Balance Methodology
ตรวจสุขภาพพื้นฐาน 25 รายการ แพ็กเกจ Good Life สำหรับผู้หญิงหรือผู้ชายอายุ 20 ไปขึ้นไป
ตรวจหาสารก่อภูมิแพ้อาหารและสิ่งแวดล้อมแบบเฉียบพลัน (IgE) 71 รายการ (เจาะเลือด)
