แพ็กเกจนี้มีการให้คำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยโดยเฉพาะ
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย
- ค่าซักประวัติ และตรวจร่างกาย (Physical Examination)
- ค่าวัดสัดส่วนองค์ประกอบของร่างกาย Body Composition Analysis
- ค่าเจาะเลือดตรวจระดับฮอร์โมนเพศหญิง 9 รายการ มีรายการตรวจดังนี้
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ Free T3
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ Free T4
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ TSH
- ตรวจระดับฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต Serum Cortisol
- ตรวจระดับฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต DHEAs
- ตรวจระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวกับเพศ (Progesterone)
- ตรวจระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวกับเพศ (E2)
- ตรวจระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวกับเพศ (FSH)
- ตรวจโปรตีนขนส่งโกรทฮอร์โมน IGF1
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลาเจาะเลือดประมาณ 10-20 นาที
- ระยะเวลารอผลการตรวจประมาณ 7-10 วัน
- แพทย์จะนัดเข้าพบอีกครั้งหลังผลตรวจออก ระยะเวลาสำหรับการเข้าพบแพทย์ประมาณ 1 ชั่วโมง
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ควรสวมเสื้อที่ถอดง่าย สะดวกต่อการเจาะเลือดที่ข้อพับแขน
- หากมีผลตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดให้นำมาด้วย
- หากมียา วิตามิน หรือสมุนไพร ที่ทานเป็นประจำ ควรนำมาด้วยหรือจดบันทึก/ถ่ายรูปฉลากมาแทนได้
- ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
การดูแลหลังรับบริการ
- หลังได้รับผลการทดสอบแล้ว สามารถนำผลที่ได้มาปรับใช้เพื่อเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม
ก่อนตัดสินใจ
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาหรืออาหารเสริมอยู่
ผู้ที่เหมาะสำหรับบริการนี้
- อายุ 25 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติโดยหาสาเหตุไม่ได้ เช่น ประจำเดือนขาดหรือมาไม่ปกติ ปวดท้องประจำเดือน อารมณ์แปรปรวน รู้สึกเครียด ความรู้สึกทางเพศลดลง น้ำหนักเพิ่มหรือลดผิดปกติโดยไม่มีสาเหตุ การเผาผลาญพลังงานไม่ดี ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย อ่อนแรง เหนื่อยง่าย ปวดเมื่อย ข้อบวม หน้าบวม รู้สึกหนาวหรือร้อนผิดปกติ ผมร่วง ผิวแห้ง ผื่นขึ้น เป็นสิว มีปัญหาเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ มีปัญหาการนอนหลับ
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการลดลงของฮอร์โมนมากกว่าปกติ เช่น ต้องสัมผัสมลพิษจากสิ่งแวดล้อมเป็นประจำ รับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วนเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร ขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกิน ทำงานเครียด พักผ่อนน้อย ดื่มสุรา สูบบุหรี่ เป็นต้น
ข้อมูลทั่วไป
ฮอร์โมน⠀คือสารเคมีที่ทำหน้าที่เป็นตัวสื่อสารและควบคุมกระบวนการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย โดยจะถูกสร้างจากกลุ่มเซลล์ในต่อมไร้ท่อ แล้วไปยังอวัยวะเป้าหมายผ่านทางกระแสเลือด
การตรวจระดับฮอร์โมน⠀เป็นการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อดูว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ หรือมีความผิดปกติอย่างไร โดยจะตรวจจากตัวอย่างเลือด น้ำลาย หรือปัสสาวะ ขึ้นอยู่กับชนิดของฮอร์โมนที่ต้องการตรวจ
ระดับฮอร์โมนผิดปกติ มีอาการอย่างไร?
ฮอร์โมนแต่ละชนิดมีหน้าที่แตกต่างกัน หากร่างกายมีระดับของฮอร์โมนตัวใดตัวหนึ่งไม่สมดุล มากหรือน้อยเกินไป อาจเกิดภาวะหรืออาการแสดงที่ผิดปกติบางอย่าง ขึ้นอยู่กับชนิดของฮอร์โมนที่มีความผิดปกตินั้น เช่น
- ประจำเดือนขาดหรือมาไม่ปกติ ปวดท้องประจำเดือน
- อารมณ์แปรปรวน รู้สึกเครียด ความรู้สึกทางเพศลดลง
- น้ำหนักเพิ่มหรือลดผิดปกติโดยไม่มีสาเหตุ การเผาผลาญพลังงานไม่ดี ไม่อยากอาหาร
- อ่อนเพลีย อ่อนแรง เหนื่อยง่าย ปวดเมื่อย ข้อบวม หน้าบวม
- รู้สึกหนาวหรือร้อนผิดปกติ
- ผมร่วง ผิวแห้ง ผื่นขึ้น เป็นสิว
- มีปัญหาเกี่ยวกับอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ
- มีปัญหาการนอนหลับ
การตรวจระดับฮอร์โมนในผู้หญิง
การตรวจระดับฮอร์โมนในผู้หญิง อาจครอบคลุมการตรวจฮอร์โมนต่างๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับการควบคุมระบบภายในร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ รวมไปถึงฮอร์โมนเพศ ดังนี้
-⠀ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin)⠀ช่วยในการนำน้ำตาลเข้าเซลล์เพื่อไปใช้ให้พลังงาน
-⠀ฮอร์โมนไทรอยด์ (TSH, T3, T4)⠀ทำหน้าที่ควบคุมหลายระบบในร่างกาย เช่น ควบคุมน้ำหนักและการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย เกี่ยวข้องกับการสร้างผิว ผม และเล็บ เป็นต้น
-⠀ฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต (Cortisol, Aldosterone, DHEA) ช่วยกำจัดความเครียด ควบคุมสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ
-⠀ฮอร์โมนเสริมสร้างและช่วยในการเจริญของเซลล์ (Growth hormone, IGF-1)⠀เกี่ยวข้องกับเมตาบอลิซึม การเจริญเติบโต และการฟื้นฟูของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย
-⠀ฮอร์โมนเพศ (Estradiols, Progesterone, LH, FSH, Testosterone)⠀ควบคุมการเจริญเติบโตของร่างกายและการทำงานของระบบสืบพันธุ์
ใครควรตรวจวัดระดับฮอร์โมน?
ผู้ที่มีอายุตั้งแต่อายุ 25 ปีเป็นต้นไป เนื่องจากระดับฮอร์โมนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการลดลงของระดับฮอร์โมนมากกว่าปกติ เช่น ต้องสัมผัสมลพิษจากสิ่งแวดล้อมเป็นประจำ รับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วนเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร ขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักเกิน ทำงานเครียด พักผ่อนน้อย ดื่มสุรา สูบบุหรี่ เป็นต้น
วิธีชำระและใช้งาน
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แชทกับแอดมิน เพื่อแจ้งชื่อและข้อมูลของคุณสำหรับจองแพ็กเกจ
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- ส่งหลักฐานการชำระเงินให้แอดมิน
- รอรับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง หลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับบริการ
จองผ่าน HDmall.co.th แล้วไปจ่ายเงินที่คลินิก รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- แชทกับแอดมิน เพื่อแจ้งชื่อและข้อมูลสำหรับจองแพ็กเกจ
- รับคูปองยืนยันการนัดหมายทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับบริการ และชำระค่าแพ็กเกจราคาเต็ม
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของคลินิก
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
หมายเหตุ สำหรับแพ็กเกจที่ต้องให้แพทย์ประเมินก่อน หลังจากแพทย์ประเมินแล้วว่ารับบริการได้ คุณสามารถจ่ายเงินโดยตรง ณ สถานที่ให้บริการ แล้วรับแคชแบ็กภายหลัง หรือจ่ายกับ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลดได้ทันทีพร้อมรับสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง