แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจและให้คำปรึกษาจากทันตแพทย์
- ค่าติดเครื่องมือ
- ค่าเหล็กหลุด 1 ครั้ง ไม่จำกัดตัว
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าพิมพ์ปาก 1,000 บาท
- ค่าเอกซเรย์ 2 ฟิล์ม 1,000 บาท
- ค่าเหล็กหลุดครั้งแรกติดฟรี ครั้งต่อไปตัวละ 400 บาท
- ค่าเคลียร์ช่องปาก
หมายเหตุ
ค่าเคลียร์ช่องปากก่อนการรักษา มีค่าบริการเพิ่มเติมดังนี้
- ค่าขูดหินปูน 600-1,200 บาท
- ค่าอุดฟัน เริ่มต้นซี่ละ 600-1,500 บาท
- ค่าถอนฟัน เริ่มต้นซี่ละ 600 บาท
- ค่าถอดเครื่องมือในผู้ที่ย้ายเคส สำหรับฟันบนและล่าง 1,000 บาท
วิธีการจ่ายเงิน
- ครั้งที่ 1: นัดปรึกษาแพทย์ (ฟรี) ประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเรื่องฟันผุ และหินปูน
- ครั้งที่ 2: เอกซเรย์ (ค่าบริการจ่ายแยก ไม่รวมในคอร์ส) เพื่อประเมินแผนการจัดฟัน จะทราบราคาคอร์สจัดฟันในขั้นตอนนี้ (รวมทั้งราคาฟันคุด ถ้ามี)
- ครั้งที่ 3: พิมพ์ปาก (ค่าบริการจ่ายแยก ไม่รวมในคอร์ส) เพื่อเก็บรายละเอียดฟันก่อนการรักษา
- ครั้งที่ 4: เคลียร์ช่องปาก (ค่าบริการจ่ายแยก ไม่รวมในคอร์ส)
- ครั้งที่ 5 เป็นต้นไป ติดอุปกรณ์ เริ่มจัดฟัน
- การชำระเงินแบบที่ 1: เดือนที่ 1-5 จ่ายเดือนละ 2,000 บาท เดือนที่ 6 เป็นต้นไป จ่ายเดือนละ 1,000 บาท จนครบคอร์ส
- การชำระเงินแบบที่ 2: ชำระผ่าน HDmall ผ่อนชำระ 0% สูงสุด 10 เดือน (ดูรายละเอียดในหัวข้อวิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปองด้านล่าง)
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการครั้งละประมาณ 30-60 นาทีของการเข้าพบทันตแพทย์
- เข้าพบทันตแพทย์ตามการนัดหมาย เพื่อติดตามความคืบหน้าของการรักษา
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- กรณีที่ผ่านการตรวจประเมินจากทันตแพทย์แล้ว ควรเคลียร์ช่องปากโดยตรวจฟันผุ อุดฟันให้ครบทุกซี่ รักษารากฟันหากมีฟันผุ ขูดหินปูน และผ่าฟันคุดให้เรียบร้อย
- หากมีโรคประจำตัว หรือ มีการแพ้ยา ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนรับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง กรอบ หรือเหนียวมากๆ เพราะอาจเกิดปัญหาตามมา เช่น ยางรัดฟันหลุด เหล็กดัดฟันโค้งงอ หรือมีเศษอาหารไปติดกับเครื่องมือจัดฟันได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มที่เป็นกรดสูง เพราะอาจทำให้อุปกรณ์จัดฟันเสียหายได้
- ดูแลความสะอาดตัวแบร็กเกต และลวดจัดฟันให้ทั่วถึง
- ควรใช้ไหมขัดฟันและใช้น้ำยาบ้วนปาก เพื่อขจัดคราบตามซอกฟันหรือซอกเครื่องมือที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง
- ควรพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจติดตามผลการจัดโครงสร้างฟัน หากเกิดความผิดปกติจะได้แก้ไขได้ทันที
ก่อนตัดสินใจ
- ต้องให้ทันตแพทย์ประเมินก่อนว่าเหมาะสำหรับการจัดฟันแบบใด เนื่องจากการจัดฟันแต่ละแบบเหมาะกับปัญหาที่ต่างกัน
- บางกรณีอาจต้องถอนฟันแท้ กรอฟัน หรือผ่าตัดกระดูกขากรรไกรร่วมด้วย
- ระหว่างจัดฟัน จะมีข้อจำกัดด้านการรับประทานอาหาร เช่น ห้ามกัดของแข็ง เคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันเสียหาย
- ช่วงแรกของการจัดฟันอาจรู้สึกตึง ปวด เจ็บ เป็นปกติ จากนั้นอาการจะค่อยๆ หายไปเอง
ข้อมูลทั่วไป
การจัดฟัน คือ การใช้เครื่องมือค่อยๆ เปลี่ยนโครงสร้างฟันอย่างช้าๆ ใช้ในการแก้ไขความผิดปกติของฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติ ไม่สมดุล ให้เรียงตัวอย่างเหมาะสมและสามารถสบฟันได้พอดี
ควรเริ่มจัดฟันเมื่ออายุเท่าไร?
โดยทั่วไปสามารถเข้าพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องการจัดฟันได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมหลุดออกหมดแล้ว หรืออายุราว 11-12 ปี ทันตแพทย์จะตรวจสอบดูสภาพช่องปากและปัญหาฟันของแต่ละคนว่าสามารถจัดฟันได้หรือยัง ซึ่งบางกรณีอาจต้องรักษาด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ผ่าตัดขากรรไกร ตัดเหงือก ถอนฟันแท้
มีคำแนะนำว่าควรจัดฟันตั้งแต่อายุยังไม่มาก เนื่องจากระหว่างฟันเคลื่อนที่ กระดูกที่รองรับฟันและที่อยู่รอบๆ รากฟันจะมีการทำลายตัวและสร้างขึ้นใหม่ ในเด็กหรือคนอายุน้อยๆ กระบวนการเสริมสร้างกระดูกจะรวดเร็วและดีกว่าในผู้ใหญ่
ประเภทของการจัดฟัน
การจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
- การจัดฟันแบบติดแน่น สามารถแบ่งประเภทย่อยลงไปได้อีกตามเครื่องมือที่ใช้ เช่น จัดฟันแบบโลหะหรือเหล็กจัดฟัน จัดฟันแบบเซรามิก จัดฟันแบบไม่ใช้ยางหรือที่เรียกกันว่า จัดฟันดามอน ตามชื่อยี่ห้อเครื่องมือ
- การจัดฟันแบบถอดได้ จะเป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส ซึ่งมีให้เปลี่ยนใส่จำนวนหลายชุด เพื่อค่อยๆ ปรับการเรียงตัวของฟัน อุปกรณ์จัดฟันใสมีหลายยี่ห้อ เช่น Invisalign, Clear Aligner, Senyum
แพ็กเกจนี้ใช้การจัดฟันแบบโลหะ หรือจัดฟันลวด
เป็นการจัดฟันแบบมาตรฐานที่พบเห็นได้ทั่วไป วัสดุที่ใช้คือแบร็กเกตโลหะ ลวดสำหรับงานทันตกรรม และมีการใช้ยางซึ่งมีหลากสีสันให้เลือก รัดแบร็กเกตกับลวดให้ยึดติดกับซี่ฟัน
ประมาณ 4-6 สัปดาห์ ยางจะเสื่อม ดังนั้นผู้รับการจัดฟันจึงต้องพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนยาง และทันตแพทย์จะทำการดึงลวดให้ตึงขึ้นเพื่อให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม
จัดฟันลวด ใช้เวลานานเท่าไหร่?
ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้วใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี
ข้อดีของการจัดฟันลวด
- ใช้แก้ปัญหาฟันได้เกือบทุกรูปแบบ เช่น ฟันซ้อน เก ห่าง สบคร่อม สบลึก
- สามารถเปลี่ยนสียางยึดเครื่องมือจัดฟันได้ทุกเดือน
ข้อเสียของการจัดฟันลวด
- เห็นชัดว่าจัดฟันอยู่
- อาจมีปัญหาตะขออุปกรณ์เกี่ยวกับเนื้อเยื่อในช่องปากได้
- การดูแลรักษาความสะอาดของเครื่องมือจัดฟันแบบนี้ ยากกว่าการรักษาความสะอาดเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่มีแพ็กเกจ จัดฟันแบบโลหะ ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วกลับมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th รับส่วนลดทันที
- กด 'จองเลย' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินก่อนรับบริการ (อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก)
- นำยอดค่าใช้จ่ายที่คุณหมอสรุปให้ มาแจ้งกับแอดมิน HDmall โดยเข้าไลน์ @hdcoth แล้วพิมพ์ 'hdexpress' เพื่อดำเนินการชำระเงินพร้อมรับส่วนลด สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 15 นาทีหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
จองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th ให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วไปจ่ายเงินที่คลินิก รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- กด 'จองเลย' และกรอกข้อมูลให้ครบ
- รับคูปองทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับการตรวจประเมินจากแพทย์ก่อนทำ เมื่อแพทย์พิจารณาว่ารับบริการได้ สามารถนัดหมายวันรับบริการและจ่ายเงินราคาเต็มที่คลินิกได้เลย
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของคลินิก
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
*ผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต จะไม่สามารถรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ รวมถึงไม่สามารถเบิก Cashback จาก HDmall.co.th ได้
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางคลินิกจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ คลินิกทันตกรรมแสนดี อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th