รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
✨ ฟันขาวใสในมือคุณ! คุณเคยรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อยิ้ม เพราะฟันเหลืองหรือมีคราบไหม? การฟอกสีฟันที่บ้านด้วยชุดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลจาก Teal Dental จะช่วยให้คุณกลับมามั่นใจได้อีกครั้ง!
🏠 ชุดฟอกสีฟันที่บ้าน นี้ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย โดยคุณสามารถทำการฟอกสีฟันได้ง่ายๆ ที่บ้าน พร้อมน้ำยาฟอกสีฟันคุณภาพสูงจาก Opalescence ที่จะคืนความสว่างให้กับฟันของคุณ
💡 ทำไมต้องเลือกชุดฟอกสีฟันที่บ้าน?
- ค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับการฟอกสีฟันที่คลินิก
- ใช้เวลาเพียงน้อยนิดในการฟอกที่บ้าน สามารถจัดการได้ตามตารางเวลาของคุณเอง
- เห็นผลลัพธ์ในระยะเวลา 2-4 สัปดาห์ ตามการดูแลและสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล
💔 อย่าปล่อยให้ฟันที่หมองคล้ำทำลายความมั่นใจของคุณ! การฟอกสีฟันที่บ้านไม่เพียงช่วยให้ฟันของคุณดูขาวขึ้น แต่ยังทำให้คุณมั่นใจเมื่อต้องยิ้มกับคนรอบข้างอีกด้วย
🛒 จองบริการชุดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล กับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th พร้อมรับผลลัพธ์ที่คุณต้องการ! เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการวันนี้!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าทำชุดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล พร้อมรับน้ำยากลับไปฟอกเองที่บ้าน
- ค่าพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกเฉพาะบุคคล
- ค่าถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล 1 ชุด (บนและล่าง)
- ค่าน้ำยาฟอกสีฟันยี่ห้อ Opalescence 2 หลอด
- ค่ากล่องสำหรับจัดเก็บถาดฟอก 1 กล่อง
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าปลอดเชื้อ ครั้งละ 50 บาท
หมายเหตุ
- หากต้องเคลียร์ช่องปากก่อน จะมีค่าเคลียร์ช่องปาก เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ผ่าฟันคุด เป็นต้น ราคาขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ประเมิน และสภาพฟันของแต่ละบุคคล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลาพิมพ์ปากประมาณ 15 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- หลังจากพิมพ์ปากแล้ว จะได้รับอุปกรณ์ชุดฟอกสีฟันที่บ้านในวันถัดไป
- ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันที่บ้านขึ้นอยู่สีฟันเบื้องต้นของแต่ละบุคคล และการปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์
- หลังจากการฟอกสีฟันแล้ว สีฟันเก่าอาจกลับคืนมาได้ ซึ่งความหมองคล้ำจะค่อยๆ เกิดขึ้นทีละน้อยตามกาลเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น การสูบบุหรี่ รับประทานชา กาแฟ และไวน์แดง หรืออาหารประเภทที่มีสีเข้มต่างๆ การฟอกสีฟันเป็นระยะ จะช่วยทำให้ฟันขาวอยู่เสมอได้ รวมทั้งควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือนเพื่อทำความสะอาดฟัน
- อาจมีอาการเสียวฟันเล็กน้อยในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หลังจากทำการฟอกสีฟัน โดยสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ สำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟันได้ง่ายอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาเหงือกร่น ฟันสึก หรือเกิดจากการรั่วของวัสดุที่อุดฟัน เป็นต้น รวมถึงผู้ที่มีอาการแพ้สารประเภทคาร์บาไมด์เพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในการฟอกสีฟัน ควรเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ก่อนทุกครั้ง
- กรณีที่มีการบูรณะฟันด้วยวัสดุเรซิน เซรามิก หรือได้รับการทำครอบฟัน สะพานฟัน และเคลือบผิวฟันแล้วนั้น การฟอกสีฟันจะไม่สามารถเปลี่ยนสีของวัสดุดังกล่าวได้ ดังนั้นหลังการฟอกสีฟัน ผู้เข้ารับบริการอาจต้องเข้ารับการเปลี่ยนวัสดุดังกล่าวให้เป็นสีเดียวกับฟันสีใหม่
- สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันตกกระ หรือมีสีเทา อันเกิดจากการได้รับยาปฏิชีวนะประเภทเตตร้าไซคลีน หรือด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม การฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์อาจช่วยปรับระดับสีฟันได้เพียงระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาฟันสีเทาให้ขาวตามธรรมชาติได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรปรึกษาและเข้ารับการตรวจกับทันตแพทย์เบื้องต้น เพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาที่มีอยู่สามารถแก้ไขได้ด้วยการฟอกสีฟันได้ เนื่องจากในบางกรณี เช่น ฟันตกกระ เห็นเป็นคราบสีเหลือง-น้ำตาล จะไม่สามารถแก้ไขด้วยการฟอกสีฟันได้
- ควรตรวจสุขภาพฟันก่อนรับบริการ เนื่องจากในกรณีที่มีฟันผุ ผู้รับบริการจะต้องรักษาให้เรียบร้อย พร้อมตรวจว่าไม่มีการรั่วซึมของวัสดุอุด
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรแปรงฟันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ โดยแนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรต หรือสูตรลดและป้องกันอาการเสียวฟันโดยเฉพาะ จะช่วยลดอาการเสียวฟันที่อาจเกิดขึ้นจากการฟอกสีฟันได้
- หากมีอาการเสียวฟันมาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
- งดสูบบุหรี่หลังฟอกสีฟันอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดสีและคราบบนฟัน เช่น ชา กาแฟ ไวน์ ซอส ลูกอม และหากจำเป็นควรใช้หลอดดูดแทนการดื่มจากแก้ว
- งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว และอาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันที่บ้านขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การเตรียมตัวก่อนรับบริการ การดูแลหลังรับบริการ ตลอดจนสุขภาพช่องปาก เป็นต้น ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างถูกต้องและครบถ้วน
- ผลลัพธ์ที่ได้จากการฟอกสีฟันไม่ทำให้ฟันขาวขึ้นถาวร หลังหยุดฟอกสีฟันไปนานๆ ฟันอาจมีสีคล้ำลงได้จากการรับประทานอาหารที่ก่อให้เกิดสีและคราบ รวมถึงการละเลยการดูแลสุขภาพฟัน
ข้อห้ามสำหรับการฟอกสีฟัน
- ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ป่วยโรคเหงือกหรือผู้ที่ใส่เคลือบฟัน
- ผู้ที่มีอาการแพ้สารไฮโดนเจนเปอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน
- ผู้ที่มีปัญหาเสียวฟัน เหงือกร่น หรือมีฟันที่ถูกอุด ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน
- ผู้ที่ฟันมีปัญหาฟันในหลายซี่ การฟอกฟันอาจทำให้เกิดสีที่ไม่สม่ำเสมอ ควรปรึกษาทันตแพทย์ถึงการรักษาด้วยวิธีอื่นทดแทน
- โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ฟอกสีฟันในผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ทั้งนี้ข้อกำหนดอาจแตกต่างกันในแต่ละสถานที่ให้บริการ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาการเสียวฟัน อาจหยุดการฟอกสีฟัน 2-3 วัน เพื่อให้ฟันปรับสภาพ หรือควรฟอกสีฟันวันเว้นวัน เพื่อลดอาการเสียวฟัน อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเสียวฟันอยู่ แนะนำให้ไปพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนน้ำยาฟอกสีฟันให้มีความเข้มข้นน้อยลง
- ระคายเคืองเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก เกิดจากถาดครอบฟันไม่พอดีกับรูปฟัน ทำให้น้ำยาซึมออกมาสัมผัสกับเนื้อเยื่ออ่อน แนะนำให้แจ้งทันตแพทย์เพื่อทำการพิมพ์ถาดครอบฟันใหม่
ข้อมูลทั่วไป
การฟอกสีฟัน เป็นการปรับสีฟันให้ดูสว่างขึ้น โดยใช้น้ำยาหรือเจลฟอกสีฟันที่มีส่วนผสมของสารฟอกสีฟันอย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) เป็นต้น
การฟอกสีฟันที่บ้าน มีอุปกรณ์อะไรบ้าง?
โดยทั่วไปชุดฟอกสีฟันที่บ้าน จะประกอบไปด้วย
- ถาดครอบฟัน จากคลินิกทันตกรรม ทันตแพทย์จะพิมพ์ถาดที่รับกับรูปฟันของแต่ละคนพอดี ทำให้น้ำยาฟอกสีฟันไม่ซึมออกไปสัมผัสกับเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก
- น้ำยา หรือเจลฟอกสีฟัน จะมีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ ความเข้มข้นขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ โดย 1 หลอดจะใช้ได้ประมาณ 7 ครั้ง ทั้งฟันบนและฟันล่าง
- ไซริงค์ สำหรับฉีดน้ำยาฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันที่บ้าน ทำอย่างไร?
- ทำความสะอาดถาดครอบฟัน เช็ดให้แห้งสนิท และใช้ไซริงค์ฉีดน้ำยาฟอกสีฟันลงบนถาดครอบฟันให้ทั่ว หรือเฉพาะด้านหน้าก็ได้ ปริมาณประมาณ 1 หัวไม้ขีด
- ใส่ถาดครอบฟันให้เข้ากันพอดีกับรูปฟัน ทิ้งไว้ประมาณ 1-4 ชั่วโมง ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หรือคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
- หลังจากฟอกสีฟันเสร็จเรียบร้อย สามารถบ้วนน้ำสะอาดได้เลย ไม่ต้องแปรงฟันใหม่ ส่วนถาดครอบฟันให้ใช้แปรงสีฟันขัดล้างให้สะอาดใหม่ และแช่น้ำเก็บไว้ในกล่อง
- ทำการฟอกสีฟันอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ และสามารถทำซ้ำได้เพื่อรักษาระดับความขาวของฟัน
ใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะเห็นผล?
การฟอกสีฟันที่บ้าน มักใช้เวลาราว 2-4 สัปดาห์
ข้อดีของการฟอกสีฟันที่บ้าน
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูกกว่าการฟอกสีฟันที่คลินิก สามารถทำได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ ควรปฏิบัติภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์อย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ
- ให้ผลอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีหรือเกินกว่านั้น
หมายเหตุ
- ผู้เข้ารับการฟอกสีฟันจะได้รับการตรวจสภาพฟัน และประเมินสีฟัน หากมีฟันผุ เหงือกร่น หรือปัญหาอื่นๆ เกี่ยวกับช่องปาก จะต้องทำการรักษาก่อนฟอกสีฟัน
- ควรขูดหินปูน และทำความสะอาดผิวฟันให้เรียบร้อย เพื่อให้น้ำยาฟอกสีฟันมีประสิทธิภาพในการกำจัดเม็ดสีบนฟันได้เต็มที่
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่มีแพ็กเกจ ฟอกสีฟัน ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Teal Dental ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Teal Dental อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th