การตรวจสุขภาพช่องปาก เป็นการตรวจคัดกรองโรคเกี่ยวกับฟัน เหงือก และช่องปาก โดยทันตแพทย์
การเอกซเรย์ฟัน คือการใช้รังสีถ่ายภาพในช่องปาก ดูการเรียงตัวของฟัน กระดูกรอบฟัน กระดูกขากรรไกร และกะโหลกศีรษะ เพื่อให้ทันตแพทย์วินิจฉัยรักษาโรคทางทันตกรรมต่างๆ
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ตรวจสุขภาพฟัน
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจสุขภาพฟัน พร้อม X-Ray ช่องปากและฟัน
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจสุขภาพฟัน
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณหินปูน และการเรียงตัวของฟันของแต่ละบุคคล
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- กรณีเข้ารับบริการวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ แนะนำให้ทำนัดหมายล่วงหน้า 2 วัน เพื่อความสะดวกในการรับบริการ
- แพ็กเกจนี้ให้บริการเฉพาะผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น
- ไม่สามารถระบุทันตแพทย์ได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคเกี่ยวกับหัวใจ อาจต้องกินยาปฎิชีวนะก่อนรับการตรวจ แต่ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแล หรือทันตแพทย์ก่อน
- ควรดูแลความสะอาดช่องปากก่อนพบทันตแพทย์
- หากมีโลหะในร่างกาย รวมถึงอุปกรณ์ในช่องปากที่สามารถถอดได้ เช่น ฟันปลอม รีเทนเนอร์ จำเป็นต้องถอดออกก่อนรับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากอย่างถูกวิธี ตามคำแนะนำของแพทย์
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- การตรวจสุขภาพช่องปาก เป็นการตรวจเพื่อประเมินสุขภาพเหงือก ฟัน และช่องปากเท่านั้น
- หากพบความผิดปกติ เช่น ฟันผุ คราบหินปูนเยอะ หรือเหงือกอักเสบ ทันตแพทย์จะให้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไป
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปาก เป็นระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป
- ผู้ที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับช่องปาก เช่น เสียวฟัน เศษอาหารติดตามซอกฟัน มีกลิ่นปาก เลือดออกตามไรฟันขณะแปรงฟัน ฟันโยก เหงือกร่น เหงือกบวมแดง หรือเหงือกเป็นแผล
- ผู้ที่ต้องการตรวจหาฟันผุ
- ผู้ที่ต้องเอกซเรย์ฟันเพื่อวางแผนการจัดฟัน
- ผู้ที่ต้องการตรวจโรคทางทันตกรรม ที่ไม่อาจสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ข้อห้ามสำหรับเอกซเรย์ฟัน
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพฟัน
การตรวจสุขภาพช่องปาก เป็นการตรวจคัดกรองโรคเกี่ยวกับฟัน เหงือก และช่องปาก โดยทันตแพทย์ เช่น ตรวจหาความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ คราบหินปูน เยื่อบุในปาก หรือดูลักษณะของเหงือก รวมถึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพปากและฟันอย่างถูกต้อง
นอกจากการซักประวัติ และตรวจดูด้วยตาเปล่าแล้ว ทันตแพทย์อาจให้เข้ารับการเอกซเรย์ช่องปากเพื่อช่วยให้การวินิจฉัยโรค หรือการวางแผนการรักษาแม่นยำมากยิ่งขึ้น เช่น ตรวจดูรอยผุของฟันด้านประชิด วางแผนการรักษาด้วยการถอนฟัน ผ่าฟันคุด หรือเพื่อการจัดฟัน เป็นต้น
การตรวจสุขภาพช่องปากมักทำร่วมกับการทำความสะอาดช่องปาก เช่น การขูดหินปูน เกลารากฟัน ขัดฟัน หรือเคลือบฟลูออไรด์ เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างครบวงจร
ทำไมต้องตรวจสุขภาพช่องปาก?
การตรวจสุขภาพช่องปาก และทำความสะอาดช่องปากโดยทันตแพทย์จะช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับฟัน เหงือก และช่องปากได้มาก อีกทั้งการตรวจพบความผิดปกติ เช่น เหงือกอักเสบ รากฟันอักเสบ หรือฟันผุ และทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะมีโอกาสรักษาหายสูง โดยไม่จำเป็นต้องถอนฟัน
เมื่อไหร่ควรตรวจสุขภาพช่องปาก?
ควรตรวจสุขภาพช่องปากทุกๆ 6 เดือน หรือขึ้นอยู่กับการประเมินของทันตแพทย์
การเอกซเรย์ฟัน (Dental X-rays) เป็นการใช้รังสีถ่ายภาพภายในช่องปาก ทั้งการเรียงตัวของฟัน กระดูกรอบฟัน กระดูกขากรรไกร และกะโหลกศีรษะ เพื่อช่วยให้ทันตแพทย์เห็นปัญหาในช่องปากที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยการมองปกติได้ ภาพเอกซเรย์ฟันจึงมักใช้ประกอบการรักษาทางทันตกรรมต่างๆ เช่น ผ่าฟันคุด รักษาฟันผุ รักษารากฟัน รักษาโรคปริทันต์อักเสบ และการจัดฟัน
เอกซเรย์ฟันปลอดภัยไหม?
การเอกซเรย์ฟันใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าการเอกซเรย์ส่วนอื่นๆ จึงค่อนข้างปลอดภัย และมีใช้กันมานานแล้วในวงการการแพทย์ อย่างไรก็ตามหากใช้สะสมกันเป็นเวลานานอาจเกิดผลกระทบได้ ควรปรึกษาทันตแพทย์ถึงแผนการรักษาที่อาจต้องเอกซเรย์บ่อย
ประเภทของการเอกซเรย์ฟัน
การเอกซเรย์ฟันมีด้วยกัน 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- เอกซ์เรย์ในช่องปาก (Intraoral X-rays) เป็นการถ่ายภาพรังสีด้านในปาก มักเป็นการถ่ายระยะใกล้ เห็นรายละเอียดของฟันแต่ละซี่ชัดเจน ช่วยให้ทันตแพทย์มองหาจุดที่มีฟันผุ ตรวจสุขภาพฟัน รากฟัน และกระดูกรอบฟันได้ดี
- เอกซเรย์นอกช่องปาก (Extraoral X-rays) เป็นการเอกซเรย์ที่เน้นบริเวณกราม และกะโหลกศีรษะ การเอกซเรย์ชนิดนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อตรวจฟันผุ แต่ใช้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของกรามที่เกี่ยวข้องกับซี่ฟัน รวมถึงระบุปัญหาระหว่างฟัน กราม ข้อต่อขากรรไกร และกระดูกบริเวณใบหน้า
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่มีแพ็กเกจ ตรวจฟัน ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 08.00-17.00 น.
-
ใช้ BTS ลงสถานีสะพานควาย (ทางออก 2) เดินต่ออีก 100 เมตร โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน อยู่ติดกับบิ๊กซี สะพานควาย ศูนย์ทันตกรรมและรากเทียมดิจิตอลอยู่อาคาร 1 ชั้น 4
-
จอดรถที่อาคารจอดของโรงพยาบาล