โปรแกรมฟิลเลอร์อเมริกา Juvederm Ultra 1 ซีซี เพื่อปรับรูปหน้า 1 ครั้ง

• ระยะเวลารับบริการประมาณ 15-30 นาที
• ควรนัดหมายล่วงหน้า เพื่อปรึกษาแพทย์และประเมินใบหน้าก่อนทำ
• ฟิลเลอร์ที่ใช้คือ ULTRA PLUS XC เนื้อเจลมีความแน่น คงตัว เรียบเนียน ไม่ไหล เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า ให้สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ใช้ฉีดในบริเวณที่ต้องการความฟูมากๆ หรือบริเวณที่หายไปค่อนข้างเยอะ เช่น ขมับ ร่องแก้ม
• ปกติจะเห็นผลทันที แต่จะเห็นผลชัดเจนที่สุดประมาณวันที่ 5 หลังรับบริการ
• ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 12 เดือน ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล
• บางรายอาจมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเกิดจากรอยเข็ม แต่จะหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน
• หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดง ร้อน คัน ผิวหนังเปลี่ยนแปลง ซีดหรือคล้ำมากกว่าปกติ ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม
• ปริมาณฟิลเลอร์ที่ควรฉีดขึ้นอยู่กับความลึกของร่องที่ต้องการเติมเต็ม แต่ไม่ควรเติมฟิลเลอร์เกินครั้งละ10 ซีซี เพราะอาจเกิดภาวะการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบนได้
• หากไม่ได้ฉีดฟิลเลอร์ต่อเนื่อง ผิวจะกลับคืนสภาพเดิม ดังนั้นจึงควรเติมอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
• ผู้ที่เพิ่งร้อยไหม ให้เว้นระยะ 1 เดือนจึงจะเติมฟิลเลอร์ที่ตำแหน่งแก้มตอบได้ (ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เติมได้ตามปกติ)
• ผู้ที่เพิ่งเติมไขมันบนใบหน้ามา ควรเว้นระยะ 3 เดือนก่อนฉีดฟิลเลอร์

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรอดนอน
• งดรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด โดยหากรับประทานยาตามแพทย์สั่ง ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อนหยุดยา
• งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging รวมถึงงดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ อย่างน้อย 3 วัน
• หากมีโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ หรือมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
• งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ รวมถึงกิจกรรมใดๆ ที่ส่งผลให้มีการสูบฉีดไหลเวียนของเลือดมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวน่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนฉีดฟิลเลอร์

การดูแลหลังรับบริการ

• ไม่ควรแตะ แกะ เกา กดนวด ในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์มา แม้จะมีอาการคัน
• หลีกเลี่ยงการเข้าเซาน่า หรือให้ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์สัมผัสความร้อนโดยตรง
• หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ ปริมาณตามเอกสารกำกับยา
• หากต้องการทำหัตถการอย่างอื่น เช่น ทำ HIFU เลเซอร์ ฉีดฝ้า ฉีด Botulinum Toxin ควรเว้นระยะหลังฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 2 สัปดาห์
• หากผิวยังมีรอยช้ำ ให้ประคบเย็น และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ยิ่งช้ำมากขึ้น

สถานที่อื่นๆ ที่ให้บริการ ฉีดฟิลเลอร์ ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่