ตัดก้อนคีลอยด์ที่หู ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-5 ซม. 1 จุด 1 ครั้ง ที่ W+ Medic

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการรักษาแผลเป็นคีลอยด์

แผลเป็นคีลอยด์ เป็นแผลเป็นที่มีลักษณะโตนูน และอาจขยายใหญ่เกินขอบเขตของแผลเดิมไปมาก ซึ่งบริเวณแผลอาจมีสีเข้มหรือสีอ่อนกว่าปกติร่วมด้วย

แผลเป็นคีลอยด์ เกิดจากอะไร?
แผลเป็นคีลอยด์เกิดได้กับการเกิดแผลทุกประเภท เช่น แผลถลอก แผลถูกบาด แผลไหม้ แผลจากการผ่าตัด แมลงกัด การเกิดสิว เป็นต้น คาดว่าเกิดจากมีการสร้างคอลลาเจนมากเกินกว่าปกติบริเวณแผล แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดแผลเป็นลักษณะนี้ ส่วนหนึ่งพบในผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นแผลคีลอยด์เช่นกัน

รักษาแผลเป็นคีลอยด์ได้อย่างไร?
วิธีรักษาแผลเป็นคีลอยด์ มีดังต่อไปนี้

• เบื้องต้นอาจใช้แผ่นแปะซิลิโคน ซึ่งจะคงให้ผิวมีความชุ่มชื้น และลดการอักเสบ ทำให้แผลเป็นนิ่ม และความนูนลดลง
• รักษาโดยแพทย์ ด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์ การใช้ความเย็นจี้ออก การใช้เลเซอร์ หรือการผ่าตัด

การผ่าตัดแผลเป็นคีลอยด์
การผ่าตัดแผลเป็นมีอยู่หลายวิธี แต่สำหรับแผลเป็นนูนหรือแผลเป็นคีลอยด์จะใช้วิธีการตัดออก และอาจใช้วิธีอื่นรักษาร่วมด้วยหลังจากการผ่าตัด เช่น การฉีดยา หรือปิดทับด้วยแผ่นซิลิโคน

ควรใช้วิธีผ่าตัดแผลเป็นคีลอยด์เมื่อไหร่?
การผ่าตัดจะเหมาะกับแผลคีลอยด์ขนาดเล็ก ฐานของแผลไม่กว้างมาก เป็นในส่วนที่ตัดและเย็บแผลได้โดยไม่เสียโครงสร้างเดิมหรือรั้งผิวบริเวณนั้นจนเกินไป บริเวณที่นิยมใช้วิธีผ่าตัด ได้แก่ แผลคีลอยด์ที่ติ่งหู

การผ่าตัดจะทำให้แผลเป็นคีลอยด์หาย 100% หรือไม่?
หลังจากการผ่าตัดยังมีความเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นแผลเป็นได้อีก แพทย์จึงมักป้องกันการกลับเป็นซ้ำได้ด้วยการใช้วิธีอื่นร่วมด้วยหลังการผ่าตัด

หมายเหตุ
หลังจากการผ่าตัด จำเป็นต้องฉีดยาซ้ำหรือใช้วิธีอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นแผลเป็นคีลอยด์ที่อาจมีขนาดใหญ่กว่าเดิม

เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่