ปรับรูปคางให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม แพทย์จะเลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดตามลักษณะปัญหาและโครงสร้างเดิมของคาง
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าเสริมคาง ด้วยซิลิโคนเกาหลี
หมายเหตุ
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนรับบริการ
- เจ้าหน้าที่จะอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการผ่าตัด ก่อนเซ็นใบยินยอมการผ่าตัด
- ทำการผ่าตัดภายใต้การใช้ยาชาชนิดพิเศษ โดยมีทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด
- วัดสัญญาณชีพก่อนผ่าตัด กรณีที่มีความดันโลหิตสูง ให้แจ้งแพทย์และควรงดการผ่าตัดไปก่อน
- หลังทำเสร็จ เจ้าหน้าที่จะติดตามต่อจนอาการคงที่
- แพทย์อาจนัดตัดไหมหลังผ่าตัดประมาณ 1-2 สัปดาห์
- ควรมีญาติรับกลับ
- สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดวิตามิน อาหารเสริม ยาบำรุงทุกชนิด ยาแอสไพริน เพราะจะทำให้เลือดออกง่าย ผ่าตัดยากและบวมนาน (วิตามินซี ใบแป๊ะก้วย น้ำมันปลา น้ำมันอีฟนิ่งพิมโรส อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ วิตามินอีและน้ำมันอื่นๆ อย่างน้อย 3 เดือน)
- หากมีประวัติแพ้ยา ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ให้รีบแจ้งแพทย์ทันที
- ต้องไม่มีไข้ ไม่สบาย หรือมีการติดเชื้ออักเสบทางผิวหนัง
- หากมีโรคอื่นหรือมียา อาหารเสริม ยาบำรุงใดๆ ที่ได้รับอยู่ประจำรวมถึงประวัติการแพ้ยา ต้องแจ้งให้แพทย์
- หากเคยผ่านการผ่าตัดหรือฉีดสารใดๆ เข้าร่างกายมาก่อน ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการผ่าตัด
- ก่อนผ่าตัด ควรทำความสะอาดร่างกายส่วนที่จะผ่าตัด (ล้างหน้า/บ้วนปาก)
- ในวันผ่าตัด ไม่ควรนำของมีค่าติดตัวเข้าห้องผ่าตัด และไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้า ควรจะสวมเสื้อผ้าที่มีกระดุมหน้าเพื่อความสะดวกต่อการสวมใส่หลังผ่าตัด
- บ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าห้องผ่าตัด
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรประคบเย็นบริเวณที่ทำการเสริมคาง 2 วันแรก หลังการผ่าตัด
- ควรนอนยกศีรษะสูงประมาณ 2-5 วัน หลังการผ่าตัด
- ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสจัด ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ และปรุงสุกเท่านั้น
- ดื่มน้ำโดยใช้หลอดดูด และงดดื่มแอลกอฮอล์ช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังการผ่าตัด
- ควรงดสูบบุหรี่ ประมาณ 3 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด
- หลังรับประทานอาหาร ควรบ้วนปากด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาบ้วนปาก เพื่อลดการติดเชื้อของแผลจากเศษอาหาร
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนัก 3-4 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
- ควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเสริมคาง
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ไม่ควรผ่าตัดเสริมคางในผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี หรือยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้าไม่เต็มที่
- มีภาวะรูปคางเล็กชนิดรุนแรง (Severe Microgenia) หรือ ภาวะอื่นๆ เช่น Labial Incompetence, Lip Protrusion, Shortened Mandibular Height, Severe Malocclusion and Periodontal Disease
- ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาชา หรือยาสลบ
- บริเวณปากบางส่วน หรือทั้งหมดมีอาการชาถาวร แต่ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
- วัสดุที่ใช้เสริมคางอาจทำให้กระดูก หรือรากฟันบริเวณนั้นบางลง
- เกิดแผลเป็นบริเวณที่ผ่าตัด
- เกิดการติดเชื้อ มีอาการปวด บวม แดง บริเวณที่เสริมคาง
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากวัสดุที่ใช้เสริมเคลื่อน
ข้อมูลทั่วไป
การเสริมคาง เป็นการศัลยกรรมปรับเปลี่ยนรูปคางให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมเข้ากับส่วนอื่นๆ บนใบหน้า อาจทำได้โดยการเสริมซิลิโคนบริเวณคาง หรือฉีดคางด้วยสารเติมเต็ม หรือใช้ไขมันตัวเอง
ซิลิโคนที่ใช้เสริมคางแตกต่างกันอย่างไร?
ซิลิโคนที่ใช้เสริมคางต้องเป็นชนิดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ (Medical Grade) โดยสามารถแบ่งเพื่อให้เข้าใจง่ายได้ดังนี้
- ซิลิโคนเกาหลี (Korea) เป็นซิลิโคนมาตรฐาน เนื้อค่อนข้างนิ่ม เสริมแล้วดูเป็นธรรมชาติ
- ซิลิโคนอเมริกา (USA) เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ เนื้อไม่นิ่มมาก เสริมแล้วเห็นทรงชัดเจน
หมายเหตุ
- เทคนิคการผ่าตัดเปิดแผลภายในปาก จะไม่เห็นแผลเป็นที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด แต่ต้องระวังการติดเชื้อของแผลภายในปาก ในขณะที่การผ่าตัดภายนอกทำได้ง่ายกว่า แต่อาจเกิดแผลเป็นถ้าดูแลรักษาแผลไม่ดี
- แพทย์จะเลือกใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบใด ขึ้นกับลักษณะปัญหาและโครงสร้างเดิมของคาง
คลินิกและโรงพยาบาลอื่นที่มีบริการเสริมคาง ทำคาง ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ ศูนย์การแพทย์ธนบุรี ผ่าน HDmall
ขั้นตอนการจ่ายเงินและรับแคชแบ็ก
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับบริการที่ศูนย์การแพทย์ตามวันที่นัดหมาย
- ชำระเงินที่ศูนย์การแพทย์เต็มจำนวนตามที่แพทย์ประเมิน
- ทักไลน์ @hdcoth และกดปุ่ม “ทำนัด/ขอแคชแบ็ก” กรอกลิงก์ที่เจ้าหน้าที่ส่งให้พร้อมแนบใบเสร็จภายใน 30 วันหลังรับบริการ
หมายเหตุ
- ผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต จะไม่สามารถรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ รวมถึงไม่สามารถเบิก Cashback จาก HDmall.co.th ได้
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่ศูนย์การแพทย์ได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ ศูนย์การแพทย์ธนบุรี อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th