HIFU เป็นนวัตกรรมช่วยลดความหย่อนคล้อยและช่วยให้ผิวเรียบเนียน ด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มสูง Aestox เป็น Botulinum Toxin ความบริสุทธิ์ 99.5% มีจุดเด่นที่เห็นผลไว
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าฉีด Botulinum Toxin เกาหลี Aestox 50 ยูนิต ทั่วใบหน้า และ HIFU UltracelQ+ 250 ช็อต 1 ครั้ง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 45 นาที - 60 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนรับบริการ
- แพทย์จะมีการตรวจสอบสภาพผิวก่อนฉีด Botulinum Toxin
- แพ็กเกจนี้ทำ HIFU โดยนักกายภาพและดำเนินการฉีด Botulinum Toxin โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนรับบริการ
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำเช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสเตน วิตามินอี น้ำมันตับปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา)
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
- ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโรคเริม ควรรับประทานยาป้องกันเชื้อไวรัส 2 วันก่อนรับบริการ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย หรือซาวน่า ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- งดแต่งหน้า ทารองพื้น ทาแป้งในวันที่มารับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ
- ทันทีหลังจากฉีด ควรบริหารกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้ท็อกซินถูกปลายประสาทดูดซึมเข้าไปให้มากที่สุด (ทำได้โดยการยิ้ม หยีตา ยักคิ้ว ขมวดคิ้ว ย่นจมูก ย่นหน้าผาก เคี้ยวหมากฝรั่ง)
- หนุนหมอนสูงในคืนแรกหลังฉีด Botulinum Toxin และห้ามนอนราบภายใน 3-4 ชั่วโมง
- ภายใน 6-8 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำฉีด Botulinum Toxin
- 1 วันหลังฉีด งดแต่งหน้าและทาครีมบำรุง สามารถล้างหน้าได้อย่างเดียว งดล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ควรทำความสะอาดหน้าด้วยโฟมล้างหน้า และซับให้แห้ง
- 1 วันหลังฉีด ไม่ควรแช่น้ำ หรือว่ายน้ำ
- หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังการฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติจากเข็มฉีดยา ให้ใช้น้ำแข็งประคบ แต่ควรประคบให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์
- ผิวบริเวณที่ทำอาจมีสีชมพูระเรื่อและบวมเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
- ภายใน 2 สัปดาห์แรก ไม่ควรให้บริเวณที่ฉีด Botulinum Toxin สัมผัสความร้อน
- ผู้ที่เคยติดเชื้อโรคเริมควรรับประทานยาป้องกันเชื้อไวรัสเป็นเวลา 6 วัน หลังรับบริการ
- งดโดนแสงแดดจัด หรือความร้อนโดยตรง เช่น การนั่งหน้าเตาร้อนๆ ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก
- ควรทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดที่มี SPF 30+
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนที่กำลังสร้างตัวใต้ผิวหนัง
- ควรรับประทานเส้นใยคอลลาเจนเสริม และดื่มน้ำสะอาดวันละ 1-2 ลิตร
- ควรรับประทานอาหารโปรตีนสูง 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ไข่ขาว เนื้อไก่ไม่ติดมัน เนื้อปลา ถั่วเหลือง เป็นต้น
- หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
การทำ HIFU
ข้อห้ามสำหรับการรักษาด้วย HIFU
- สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- บริเวณที่ทำมีแผล ติดเชื้อ หรือเป็นสิวอักเสบ
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ไทรอยด์สูง แพ้ภูมิตัวเอง ลมชัก ใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
- ฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือโลหะในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)
- ฉีดฟิลเลอร์หรือ Botulinum Toxin ภายใน 3 เดือนที่ผ่านมา
- รักษาด้วยเลเซอร์ หรือ IPL ภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- โดยทั่วไปแล้วมักเห็นผลดีที่สุดในผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป
- ผู้มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ไม่เหมาะกับกรณีที่เป็นมาก
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- ยาที่รับประทานประจำ
- อาการแพ้ยา
- โรคประจำตัว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจรู้สึกอุ่น หรือเสียวแปลบบริเวณใบหน้าขณะทำการรักษา อาการอาจคงอยู่ 2-3 สัปดาห์
- อาการบวม หรือแดงเล็กน้อย สามารถหายได้เองภายใน 1-2 ชั่วโมง
- อาการรุนแรง เช่น อาการชาหรืออัมพาตชั่วคราว สามารถหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์
การทำ Botulinum Toxin Aestox®️
ข้อห้ามสำหรับการฉีด Botulinum Toxin Aestox®️
- ใช้ได้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- ประวัติแพ้ยา สารอื่นๆ หรือ Botulinum Toxin ไม่ว่ายี่ห้อใดๆ
- ยาและวิตามินที่ใช้อยู่
- เคยมีปัญหาเลือดหยุดยาก
- เป็นโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและประสาท เช่น ALS, myasthenia gravis หรือ Lambert-Eaton syndrome
- มีโรคประจำตัวหรือเข้ารับการรักษาอื่นๆ
- ได้รับการฉีด Botulinum Toxin ครั้งสุดท้ายมาไม่เกิน 4 เดือน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- มีอาการคัน เป็นผื่น บวม มีรอยแดงคัน
- ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีปัญหาด้านการมองเห็น เวียนศีรษะภายในชั่วโมงหรือหลายสัปดาห์หลังจากฉีด หากมีอาการเหล่านี้ ห้ามขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมอื่นที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
- เกิดความผิดปกติจากการกระจายของ Botulinum Toxin ไปที่บริเวณอื่นของร่างกาย เช่น หนังตาตก เสียงเปลี่ยน มีปัญหาการควบคุมปัสสาวะ
ข้อควรระวัง
- หากมีอาการหายใจลำบาก หายใจหอบ เวียนศีรษะ หรือจะเป็นลม ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
- หากมีปัญหาการกลืน การพูด การหายใจ ควรพบแพทย์ทันที
ข้อมูลทั่วไป
การทำ HIFU
HIFU (ไฮฟู) หรือ High Intensity Focused Ultrasound เป็นเทคโนโลยีที่ใช้อัลตราซาวด์ความเข้มสูง ช่วยลดความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย และช่วยให้ผิวเรียบเนียน ค่อนข้างปลอดภัย ไม่เกิดแผลเป็น ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา และไม่ต้องพักฟื้น
HIFU ทำงานอย่างไร?
การรักษาด้วย HIFU เป็นการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มสูงลงลึกไปถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่ค่อนข้างลึก อยู่ติดกับชั้นกล้ามเนื้อ เป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าเทคโนโลยีอื่น
คลื่นที่ส่งไปมีลักษณะโฟกัสเป็นจุด เกิดเป็นพลังงานที่ทำให้อุณหภูมิที่จุดนั้นสูงขึ้นถึง 65-70 องศาเซลเซียสอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คอลลาเจนและเซลล์บางส่วนถูกทำลายแล้วหดตัว กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่
การหดตัวที่เกิดขึ้นและการเรียงตัวที่เป็นระเบียบกว่าเดิมของคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ทำให้ผิวกระชับ ริ้วรอยลดลง ผิวเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์ลงได้ อาจจะเห็นความแตกต่างทันทีหลังทำ และค่อยๆ เห็นชัดขึ้นอีกจนกระทั่งคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างโดยสมบูรณ์
หมายเหตุ
- เครื่องคุณภาพต่ำอาจให้พลังงานที่ไม่โฟกัสในบางจุด ไม่คงที่ในแต่ละช็อต หรือพลังงานลดลงระหว่างการใช้งาน
- เครื่องมือสามารถส่งพลังงานไปได้ลึกหลายระดับ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้เหมาะกับการรักษาในแต่ละคน
การทำ Botulinum Toxin
Botulinum Toxin เป็นสารที่รู้จักอย่างแพร่หลาย นิยมใช้ในวงการแพทย์เพื่อความงามในการลดริ้วรอยบนใบหน้า
ปัจจุบัน โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อที่ใช้เรียกทั่วไปแทนผลิตภัณฑ์สาร BotulinumtoxinA (botulinum toxin ชนิด A) ซึ่งผลิตได้จากเชื้อ Clostridium botulinum
Botulinum Toxin ลดริ้วรอยได้อย่างไร?
Botulinum Toxin จะไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทตรงปลายประสาทที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด Botulinum Toxin คลายตัว ริ้วรอยจึงลดลง
ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin หลายยี่ห้อด้วยกัน แต่ละตัวอาจมีความแรงในการออกฤทธิ์และคุณสมบัติอื่นแตกต่างกันบ้าง แม้ว่าจะมีสารสำคัญเดียวกันคือ BotulinumtoxinA
คุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ Botulinum Toxin แต่ละชนิดเหมาะกับการแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้า และเทคนิคที่ใช้ในการฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการแตกต่างกัน ดังนั้นประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์จึงมีความสำคัญมาก
แพ็กเกจนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ Aestox®️
ส่วนประกอบสำคัญ: Clostridium botulinum (Toxin Type A) 50 ยูนิต
เลขทะเบียนตำรับยา: 1C 5/62 (BF) (50 ยูนิต)
ชื่อผู้รับอนุญาต: บริษัท เอสเทค ฟาร์มา จำกัด
รายละเอียดผู้ผลิต: - (เกาหลีใต้)
Aestox®️ มีความบริสุทธิ์สูงมากกว่า 99.5% ผ่านการวิจัยอย่างต่อเนื่องจากสถาบันมาตรฐานระดับสากล และทำการวิจัยร่วมกับโรงพยาบาลศิริราชมากกว่า 5 ปี เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย ตอบโจทย์ ลดกราม ลิฟต์หน้า ลดริ้วรอย อย่างเป็นธรรมชาติ
หมายเหตุ
- ปัจจัยบางอย่างทำให้ผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin แต่ละตัวแตกต่างกัน เช่น ชนิดของสายพันธุ์เชื้อที่ใช้ผลิต กระบวนการผลิต ขนาดโมเลกุลของสาร ปริมาณสารต่อยูนิต และส่วนผสมอื่นในผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
- เนื่องจากสารสำคัญ BotulinumtoxinA ในแต่ละผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างกัน จึงมีการใช้ชื่อเฉพาะ เช่น OnabotulinumtoxinA (Botox), IncobotulinumtoxinA (Xeomin), AbobotulinumtoxinA (Dysport), PrabotulinumtoxinA (Nabota)
- หน่วยที่เป็นยูนิตของแต่ละผลิตภัณฑ์ไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ ทั้งในแง่ของความแรง และคุณสมบัติเฉพาะอื่นๆ จึงทำให้ไม่สามารถใช้แทนกันเพื่อหวังผลลัพธ์ที่เหมือนกัน
การดื้อยาและการป้องกัน
การดื้อยาสำหรับ Botulinum Toxin จะเป็นลักษณะที่ฉีดแล้วเห็นผลน้อยลงหรือไม่ได้ผล อาจเกิดขึ้นได้หากฉีดในปริมาณมากหรือถี่จนเกินไป ซึ่งอาจป้องกันได้ดังนี้
- ควรฉีดในปริมาณน้อยที่สุดที่สามารถลดริ้วรอยที่ต้องการได้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน
- ฉีดแต่ละครั้งควรห่างกันมากกว่า 12 สัปดาห์
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ คลินิกหมอปรางทิพย์ ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ คลินิกหมอปรางทิพย์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th