
Allergan เป็น Botulinum Toxin ตัวดั้งเดิมที่ผลิตมายาวนาน มีงานวิจัยรองรับมาก จุดเด่นคือกระจายตัวแคบ ช่วยให้ออกฤทธิ์เฉพาะจุดได้ดี ไม่กระจายไปยังส่วนอื่นที่ไม่ต้องการมากนัก
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าฉีดโบท็อกซ์ Allergan 100 ยูนิต 1ครั้ง
- ค่าทำทรีตเมนต์ Dermabright (Meso needle less) 1 ครั้ง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการแบบไม่ใช้ยาชาประมาณ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณและปริมาณที่ฉีด หากใช้ยาชาจะใช้เวลาประมาณ 60 นาที
- ควรนัดคิวปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าก่อนทำ
- แพทย์จะตรวจสอบสภาพผิวก่อนฉีด
- จากนั้นจะทายาชาหรือใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่จะฉีด เพื่อให้หลอดเลือดรอบข้างหดตัว และจะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดในปริมาณพอเหมาะลงที่กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว
- บางรายอาจมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังฉีด ให้ใช้น้ำแข็งประคบเบาๆ ได้
- หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปวด บวม แดง ร้อน คัน หนังตาตก มุมปากตก หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ทันที
- เห็นผลภายใน 2-4 สัปดาห์ สามารถทำได้ทุก 3 เดือน
- ไม่ควรฉีดมากกว่าครั้งละ 300 ยูนิต หรือฉีดซ้ำภายในเวลาน้อยกว่า 3 เดือน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการดื้อยา
- ผู้ที่เพิ่งทำหัตถการอย่างอื่น เช่น ร้อยไหม HIFU ฟิลเลอร์ เลเซอร์ ฉีดฝ้า ฉีดผิว สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้เลย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนทำ
- งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- งดกิจกรรมที่ส่งผลให้มีการสูบฉีดไหลเวียนของเลือดมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวนา ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนทำ
การดูแลหลังรับบริการ
- หนุนหมอนสูงในคืนแรกหลังฉีด
- ทันทีหลังจากฉีด ควรบริหารกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้ท็อกซินถูกปลายประสาทดูดซึมเข้าไปให้มากที่สุด (ทำได้โดยการยิ้ม หยีตา ยักคิ้ว ขมวดคิ้ว ย่นจมูก ย่นหน้าผาก เคี้ยวหมากฝรั่ง)
- ภายใน 3-4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ห้ามนอนราบ
- ภายใน 6-8 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำฉีดโบท็อกซ์มา
- หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังการฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติจากเข็มฉีดยา ให้ใช้น้ำแข็งประคบ แต่ควรประคบให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์
- หากมีอาการปวดสามารถทานยาแก้ปวดได้
- ภายใน 2 สัปดาห์แรก ไม่ควรให้บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์สัมผัสความร้อน
- 1 วันหลังฉีด งดแต่งหน้า งดทาครีมบำรุง (ล้างหน้าได้อย่างเดียว งดล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น) ทำความสะอาดหน้าด้วยโฟม และซับหน้าให้แห้ง ไม่ควรแช่น้ำ หรือว่ายน้ำ
- ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา
- 1 สัปดาห์หลังฉีด งดออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก งดการสัมผัสโดนความร้อน เช่น ซาวนา ตากเเดดเป็นเวลานาน งดการนวดหน้า การกดสิว การทำเลเซอร์ งดดื่มเหล้าสูบบุหรี่
- กรณีฉีดริ้วรอยรอบดวงตางดใส่แว่นตาว่ายน้ำ 1 สัปดาห์
ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับโบท็อกซ์ Botox®️
- ใช้ได้ในผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- ประวัติแพ้ยา สารอื่นๆ หรือโบท็อกซ์ไม่ว่ายี่ห้อใดๆ
- ยาและวิตามินที่ใช้อยู่
- เคยมีปัญหาเลือดหยุดยาก
- เป็นโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและประสาท เช่น ALS, myasthenia gravis หรือ Lambert-Eaton syndrome
- มีโรคประจำตัวหรือเข้ารับการรักษาอื่นๆ
- ได้รับการฉีดโบท็อกซ์ครั้งสุดท้ายมาไม่เกิน 4 เดือน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- มีอาการคัน เป็นผื่น บวม มีรอยแดงคัน
- ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีปัญหาด้านการมองเห็น เวียนศีรษะภายในชั่วโมงหรือหลายสัปดาห์หลังจากฉีด หากมีอาการเหล่านี้ ห้ามขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมอื่นที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
- เกิดความผิดปกติจากการกระจายของโบท็อกซ์ไปที่บริเวณอื่นของร่างกาย เช่น หนังตาตก เสียงเปลี่ยน มีปัญหาการควบคุมปัสสาวะ
ข้อควรระวัง
- หากมีอาการหายใจลำบาก หายใจหอบ เวียนศีรษะ หรือจะเป็นลม ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
- หากมีปัญหาการกลืน การพูด การหายใจ ควรพบแพทย์ทันที
ข้อมูลทั่วไป
โบท็อกซ์⠀เป็นสารที่รู้จักอย่างแพร่หลาย นิยมใช้ในวงการแพทย์เพื่อความงามในการลดริ้วรอยบนใบหน้า
ปัจจุบันโบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อที่ใช้เรียกทั่วไปแทนผลิตภัณฑ์สาร BotulinumtoxinA (botulinum toxin ชนิด A) ซึ่งผลิตได้จากเชื้อ Clostridium botulinum
โบท็อกซ์ลดริ้วรอยได้อย่างไร?
สาร BotulinumtoxinA จะไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทตรงปลายประสาทที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์คลายตัว ริ้วรอยจึงลดลง
ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์หลายยี่ห้อด้วยกัน แต่ละตัวอาจมีความแรงในการออกฤทธิ์และคุณสมบัติอื่นแตกต่างกันบ้าง แม้ว่าจะมีสารสำคัญเดียวกันคือ BotulinumtoxinA
คุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน ทำให้โบท็อกซ์แต่ละชนิดเหมาะกับการแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้า และเทคนิคที่ใช้ในการฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการแตกต่างกัน ดังนั้นประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์จึงมีความสำคัญมาก
แพ็กเกจนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ BOTOX®️
BOTOX®️ จัดเป็น ‘ยาควบคุมพิเศษ’ ใช้เฉพาะสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอยู่ประจำ
ส่วนประกอบสำคัญ:⠀Clostridium botulinum (Toxin Type A) 100 ยูนิต ต่อ vial (0.025 มิลลิกรัม)
ส่วนผสมอื่นในผลิตภัณฑ์:⠀โซเดียมคลอไรด์ (Sodium Chloride), HSA (Human Serum Albumin)
สายพันธุ์ของเชื้อ:⠀Clostridium botulinum Hall strain
เลขทะเบียนตำรับยา: 1C 21/55 (NB)⠀(100 ยูนิต)
หมายเหตุ
- ปัจจัยบางอย่างทำให้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์แต่ละตัวแตกต่างกัน เช่น ชนิดของสายพันธุ์เชื้อที่ใช้ผลิต กระบวนการผลิต ขนาดโมเลกุลของสาร ปริมาณสารต่อยูนิต และส่วนผสมอื่นในผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
- เนื่องจากสารสำคัญ BotulinumtoxinA ในแต่ละผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างกัน จึงมีการใช้ชื่อเฉพาะ เช่น OnabotulinumtoxinA (Botox), IncobotulinumtoxinA (Xeomin), AbobotulinumtoxinA (Dysport), PrabotulinumtoxinA (Nabota)
- หน่วยที่เป็นยูนิตของแต่ละผลิตภัณฑ์ไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ ทั้งในแง่ของความแรง และคุณสมบัติเฉพาะอื่นๆ จึงทำให้ไม่สามารถใช้แทนกันเพื่อหวังผลลัพธ์ที่เหมือนกัน
เปรียบเทียบคุณสมบัติของโบท็อกซ์
การกระจายตัว
Botox®️ (กระจายตัวน้อยสุด) < Neuronox®️ < Botulax®️ < Nabota®️ < Xeomin®️ < Dysport®️ (กระจายตัวมากสุด)
โบท็อกซ์ที่มีการกระจายตัวน้อยจะช่วยให้ออกฤทธิ์เฉพาะจุดได้ดี ไม่กระจายไปยังส่วนอื่นที่ไม่ต้องการมากนัก ในขณะที่โบท็อกซ์ที่มีการกระจายตัวมากจะกระจายตัวออกจากจุดที่ฉีดได้ดีกว่า ช่วยให้ผลที่ได้ไม่ตึงจนเกินไป ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
อย่างไรก็ตามจะมีการกระจายมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ ความเข้มข้นของสารละลายที่ฉีด และปริมาณที่ฉีดด้วย
การดื้อยา
Xeomin เป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่ไม่ทำให้เกิดการดื้อยา เนื่องจากไม่มีโปรตีนส่วนที่ไม่ใช่สารสำคัญในการออกฤทธิ์ (complexing protein) ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นอาจทำให้เกิดการดื้อยาได้หากได้รับมากเกินไป
การดื้อยาและการป้องกัน
การดื้อยาสำหรับโบท็อกซ์ จะเป็นลักษณะที่ฉีดแล้วเห็นผลน้อยลงหรือไม่ได้ผล อาจเกิดขึ้นได้หากฉีดในปริมาณมากหรือถี่จนเกินไป ซึ่งอาจป้องกันได้ดังนี้
- ควรฉีดในปริมาณน้อยที่สุดที่สามารถลดริ้วรอยที่ต้องการได้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน
- ฉีดแต่ละครั้งควรห่างกันมากกว่า 12 สัปดาห์
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Moji Clinic ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Moji Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันพุธ-อาทิตย์ 11.00-20.00 น. (หยุดวันจันทร์-อังคาร)
-
MRT สถานีบางยี่ขัน (ทางออก 4) ต่อวินมอเตอร์ไซค์ คลินิกอยู่ในซอยบรมราชชนนี 13 ข้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
-
จอดรถที่หน้าคลินิก
-
จ่ายบัตรเครดิตได้ ยอดชำระตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ไม่มีค่าธรรมเนียม