การรักษาสิวจะช่วยแก้ปัญหารูขุมขนอุดตัน และป้องกันการติดเชื้อมากขึ้น วิธีการและผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของสิว
รายละเอียด
รายละเอียดราคา มาส์กลดสิว
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่า Acne Mask ลดสิว 1 ครั้ง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ มาส์กลดสิว
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 15 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนรับบริการ
- แพ็กเกจนี้ให้บริการโดยผู้ชำนาญการ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- งดกิจกรรมที่ส่งผลให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวน่า ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรอาบแดด ซาวน่า ถูกแสงแดดหรือความร้อนจัด
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่น้อยกว่า 50 เป็นประจํา
- ควรใช้โฟมล้างหน้าหรือคลีนซิ่งที่อ่อนโยนต่อผิว และล้างหน้าออกให้หมดจด หรือจะใช้น้ำเกลือเช็ดก็ได้
- ไม่ควรล้างหน้าโดยการถูแรงๆ และล้างแค่วันละ 2 ครั้งเท่านั้น เพื่อป้องกันผิวเกิดการระคายเคือง
- ไม่ควรทาครีมมีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี หรือครีมกลุ่ม AHA
- ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทั้งในระหว่างวันและก่อนนอน
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้เกิดสิว เช่น ลดความเครียดวิตกกังวล พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ใช้เครื่องสำอางให้เหมาะกับสภาพผิวและหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีปริมาณน้ำมันค่อนข้างสูง เช่น ครีมรองพื้น ครีมก่อนนอน ครีมบำรุงผิว
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามสำหรับการรักษาสิว
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ยาสำหรับรักษาสิวชนิดทา ยารับประทาน และยาฉีด หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์สามารถรักษาสิวด้วยวิธีเลเซอร์และการใช้แสง แต่ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนทุกครั้ง เพราะอาจต้องใช้ยาชาในการรักษา
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- โรคประจำตัว
- การแพ้ยา
- ยาหรืออาหารเสริมที่กำลังรับประทาน
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการมาส์กลดสิว
สิว (Acne) มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ และลำตัวส่วนบน ที่มีต่อมไขมันอยู่หนาแน่น เช่น หน้าอก และหลัง เกิดจากการที่ผิวหนังสร้างไขมันมากเกินไปจนเกิดการอุดตันที่รูขุมขน และสามารถอักเสบได้หากติดเชื้อแบคทีเรีย หรือใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน
ชนิดของสิว
แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ สิวอุดตัน และสิวอักเสบ โดยแบ่งเป็นประเภทย่อยๆ ได้ดังนี้
สิวอุดตัน
- สิวหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด เกิดจากการอุดตันรูขุมขนด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ลักษณะสิวมองเห็นจุดสีดำอยู่ตรงกลาง
- สิวหัวขาว หรือสิวอุดตันหัวปิด เกิดจากการอุดตันรูขุมขนด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเช่นกัน ยังไม่มีรูเปิดทำให้ผิวถูกดันจนนูนขึ้นมา เมื่อปล่อยไว้นานจะขยายใหญ่ขึ้นและมีโอกาสกลายเป็นสิวอักเสบได้
สิวอักเสบ
- สิวชนิดตุ่มนูนแดง เป็นสิวอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงขนาดเล็กไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร ส่วนมากเป็นสิวอักเสบในระยะแรกที่พัฒนามาจากสิวอุดตัน และไม่มีอาการเจ็บมากนัก
- สิวหัวหนอง เป็นสิวอักเสบที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย ลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร มีหัวหนองสีเหลืองด้านบน
- สิวอักเสบแดงเป็นก้อน เป็นสิวอักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงขนาดใหญ่เกิน 0.5 เซนติเมตร เป็นไตแข็งอยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บ และอาจเกิดแผลเป็นหลังหายได้
- สิวหัวช้าง เป็นสิวที่มีการอักเสบรุนแรงมาก มีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่ เมื่อกดลงไปจะรู้สึกแข็งเป็นไตร่วมกับอาการเจ็บปวด ภายในสิวหัวช้าง 1 ตุ่ม อาจพบหัวสิวได้มากถึง 2-3 หัวสิว มีหนองและอาจมีเลือดออก รักษาได้ยาก และอาจเป็นแผลเป็น ควรพบแพทย์เพื่อรักษา
วิธีการรักษาสิว
การรักษาสิวอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ โดยมีทางเลือกในการรักษาดังนี้
- ใช้ยารักษาสิว โดยแบ่งเป็นยาสำหรับทา ยาสำหรับรับประทาน และยาสำหรับฉีด ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของสิว
- การเจาะหรือกดหัวสิว เป็นการเจาะรูบริเวณหัวสิวเพื่อกำจัดหนองบริเวณหัวสิวออกมา เหมาะสำหรับการรักษาสิวอุดตัน
- การใช้แสงหรือเลเซอร์กำจัดสิว แสงสีน้ำเงินและเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเหมาะสมจะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบ และช่วยลดความมันบนใบหน้าได้
หลังจากการรักษาสิวอาจรักษาแผลเป็นที่เกิดจากสิวด้วย โดยมีหลายวิธี เช่น การทำทรีตเมนต์ การขัดผิว การตัดแผลเป็น การใช้เลเซอร์บนผิวหน้า เป็นต้น ซึ่งการรักษาเหล่านี้จะต้องอยู่ภายใต้ดุลยพินิจและการดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนังเท่านั้น
วิธีซื้อแพ็กเกจของ GenZ Clinic ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ GenZ Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th