รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🦠 สุขภาพที่ดีเริ่มจากลำไส้ที่แข็งแรง! คุณรู้หรือไม่ว่า ระบบทางเดินอาหารของคุณมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม? หากคุณมีอาการเช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือแม้กระทั่งไมเกรน สิ่งเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ที่จำเป็นต้องได้รับการตรวจวิเคราะห์!
🏥 บริการตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้ 4 รายการ (โปรแกรม Microbiome - Gut Health & Immunity) ที่ BRIA Health Center จะช่วยให้คุณเข้าใจสภาพจุลินทรีย์ในลำไส้ของคุณอย่างละเอียด โดยการตรวจที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้ การตรวจนี้ช่วยให้คุณสามารถปรับการดำเนินชีวิตและการรับประทานอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว
💡 ทำไมต้องตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้?
- เพื่อวิเคราะห์ชนิดและปริมาณจุลินทรีย์ที่มีผลต่อสุขภาพของคุณ
- เพื่อช่วยวางแผนการรักษาในกรณีที่พบความไม่สมดุล
- เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น โรคอ้วนและโรคเบาหวาน
อย่าชะล่าใจ! อาการเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงขึ้นหากปล่อยไว้นานเกินไป 💔 จองบริการ กับเราที่ HDmall.co.th เพื่อเริ่มต้นการดูแลสุขภาพของคุณวันนี้ พร้อมรับผลการตรวจภายใน 1 วันทำการ!
ให้การดูแลสุขภาพของคุณเริ่มต้นที่ลำไส้ที่แข็งแรง!
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้ 4 รายการ (โปรแกรม Microbiome - Gut Health & Immunity) มีรายการตรวจดังนี้
- Overall Microbiome Profile (Enterotype, Diversity, and Abundant)
- Beneficial / Probiotic & Harmful Bacteria
- Immunity & Inflammatory
- GI Disorder
- ค่าบริการ
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้เข้ารับบริการ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- แจ้งผลตรวจทางอีเมล หากลูกค้าต้องการให้อธิบายผล สามารถนัดเข้ามาที่คลินิกได้ จะมีเจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ช่วยอธิบายให้
- ทาง BRIA ไม่มีแพทย์อ่านผลให้ มีเพียงนักเทคนิคการแพทย์ช่วยอ่านผลให้ แนะนำให้นำผลไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล
- การดูแลสุขภาพองค์รวมจากรูปแบบจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยให้สามารถปรับการดำเนินชีวิตและรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่างตรงจุด
- ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในเรื่องต่างๆ เช่น
- บอกชนิดและปริมาณของจุลินทรีย์ในลำไส้แต่ละตัว
- ระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบ
- โรคทางระบบทางเดินอาหาร
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ผลการตรวจชนิดจุลินทรีย์ในลำไส้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
- การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่ใช่การตรวจเพื่อวินิจฉัยโรค หากต้องการเจาะจงการตรวจโรคต่างๆ ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
- หากพบความผิดปกติ เช่น ภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล แพทย์จะให้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไป
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีอาการระบบทางเดินอาหารผิดปกติ หรือลำไส้แปรปรวน เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องผูก
- ผู้ที่มีปัญหาไมเกรน หรือนอนไม่หลับ
- ผู้ที่เป็นสิวอักเสบ
- ผู้ที่เป็นผื่นภูมิแพ้ เป็นๆ หายๆ หรือเป็นหอบหืด
- ผู้ที่มีระบบการเผาผลาญไม่ดี
- ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอัลไซเมอร์
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจจุลินทรีย์ในลำไส้
การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome)⠀คือการตรวจความสมดุลระหว่างจุลินทรีย์ชนิดดีและไม่ดีในร่างกาย โดยการเก็บตัวอย่างอุจจาระไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้จะช่วยให้แพทย์ประเมิน ค้นหาความเสี่ยง หรือวินิจฉัยสาเหตุที่อาจเกิดจากจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุลได้ เช่น โรคลำไส้แปรปรวน ภาวะลำไส้รั่ว สิวอักเสบ ภาวะอ้วนง่าย ภาวะก่อนเบาหวาน ไมเกรน โรควิตกกังวล หรือโรคซึมเศร้า
การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ดีอย่างไร?
นอกจากตรวจหาสาเหตุที่อาจเกี่ยวข้องกับอาการผิดปกติต่างๆ ในร่างกายแล้ว แพทย์จะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคในอนาคต รวมถึงดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วย เช่น
- แนะนำสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ เช่น โพรไบโอติก เพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือพรีไบโอติก เพื่อเสริมประสิทธิภาพของโพรไบโอติก โดยมีทั้งในรูปแบบของอาหาร และอาหารเสริม
- ปรับพฤติกรรมการนอน และการออกกำลังกายให้เหมาะสม
ตัวอย่างจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ และประโยชน์ต่อร่างกาย
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่พบได้ในอาหารต่างๆ เช่น นมเปรี้ยว กิมจิ หรือโยเกิร์ต เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้มีสุขภาพดี มีหลายชนิด เช่น
- บิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacterium) ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ลำไส้แปรปรวน ลดอาการที่เกิดจากน้ำตาลแลกโทสไม่ย่อย กำจัดจุลชีพก่อโรค เพิ่มภูมิคุ้มกัน และป้องกันท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโรต้า
- แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ช่วยป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอด การเกิดภูมิแพ้ อาการท้องเสียจากการใช้ยาหรือเชื้อก่อโรค ช่วยรักษาสมดุลในลำไส้ ลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า หรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ
- แซคคาโรไมซิส (Saccharomyces) เป็นยีสต์ชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ป้องกันอาการท้องเสียจากรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะ การติดเชื้อคลอสตริเดียมดิฟฟิไซล (Clostridium difficile)
อย่างไรก็ตาม การรับประทานโพรไบโอติกปริมาณมากในคราวเดียวอาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ท้องอืด ท้องผูก หรือท้องร่วงได้เช่นกัน จึงควรรับประทานโพรไบโอติกอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เหมาะสมจะดีกว่า
โรงพยาบาลอื่นที่มีบริการ ส่องกล้องทางเดินอาหาร ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ BRIA Health Center ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ BRIA Health Center อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th