รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌟 การตั้งครรภ์ที่สะดวก! คุณเคยรู้สึกไม่สะดวกสบายกับการใช้วิธีคุมกำเนิดที่ซับซ้อนหรือไม่? การฝังยาคุมกำเนิดชนิด 3 ปี สำหรับผู้หญิง เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ! มาพร้อมกับความสะดวกและประสิทธิภาพที่สูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้ยาทุกวัน!
🏥 ทำไมต้องเลือกการฝังยาคุมกำเนิด? ด้วยการฝังแท่งคุมกำเนิด คุณสามารถมั่นใจได้ว่า:
- มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ (อัตราความล้มเหลวต่ำมาก)
- สะดวกสบาย ใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ปี โดยไม่ต้องนึกถึงการคุมกำเนิดทุกวัน
- ลดอาการปวดประจำเดือนและช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
💡 ข้อควรรู้: การฝังแท่งคุมกำเนิดใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่ประมาณ 30 นาที และควรทำในช่วง 5 วันแรกหลังมีประจำเดือน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
อย่าปล่อยให้ความกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์มารบกวนชีวิตคุณ! จองบริการ กับเราผ่าน HDmall.co.th ได้ง่ายๆ พร้อมรับความมั่นใจในประสิทธิภาพและความสะดวกสบายที่เหนือกว่า! 📅
เริ่มต้นการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพและง่ายดายวันนี้!
สิ่งที่คุณจะได้รับ
ภาพรวมแพ็กเกจ
แพ็กเกจนี้รวมการฝังยาคุมกำเนิดชนิด 3 ปี สำหรับผู้หญิง เพื่อคุมกำเนิดระยะยาว
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 30 นาที
- แพ็กเกจนี้สำหรับคนไทยเท่านั้น
- ราคานี้รวม:
- ค่าฝังยาคุมกำเนิดชนิด 3 ปี สำหรับผู้หญิง
- ค่าแพทย์
- ค่าเวชภัณฑ์
- ค่าบริการพยาบาล
- ค่าบริการโรงพยาบาล
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการ ลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้น ไม่สามารถออกใบเสร็จได้
แนวทางการเตรียมตัว
- ควรเข้ารับบริการภายใน 5 วันแรกหลังมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
- หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
รายละเอียดแพ็กเกจ
- ฝังยาคุมกำเนิดชนิด 3 ปี สำหรับผู้หญิง
การดูแลหลังรับบริการ
- หลังฝังแท่งคุมกำเนิดครบ 24 ชั่วโมง สามารถนำผ้าพันแผลออกเองได้ โดยใช้พลาสเตอร์ปิดแผลไว้ 3-5 วัน
- ระวังไม่ให้แผลถูกน้ำเป็นเวลา 7 วัน
- ควรงดมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 7 วันแรก หรือใช้ถุงยางอนามัยคุมกำเนิด
- ห้ามยกของหรือออกกำลังกายหนัก และระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระแทกบริเวณที่ฝังยาคุมกำเนิด
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการคล้ายตั้งครรภ์ แผลมีเลือด มีน้ำเหลือง มีหนอง บวมแดง ฯลฯ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- หลังฝังแท่งคุมกำเนิด ควรระมัดระวังในการใช้ยา เพราะยาบางชนิดมีผลต่อแท่งคุมกำเนิด เช่น ยารักษาโรคเอดส์ (HIV) ยารักษาโรคลมชัก (Epilepsy) รวมทั้งยาปฏิชีวนะบางชนิด ดังนั้นก่อนใช้ยาชนิดใด ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- สำหรับข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทีมสนับสนุนของเราผ่านทาง LINE
ยังมีคำถามเพิ่มเติม?
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติม สามารถตรวจสอบคำถามที่พบบ่อยด้านล่างของหน้านี้ หรือแชทกับฝ่ายบริการลูกค้าของเราผ่านทาง LINE เรายินดีให้ความช่วยเหลือ!
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- การฝังแท่งคุมกำเนิด จะต้องงดใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อแท่งคุมกำเนิด ได้แก่ ยาปฏิชีวนะ เช่น ยาไรฟาบิวติน (Rifabutin) หรือยาไรแฟมพิซิน (Rifampicin) ยารักษาโรคเอดส์ (HIV) ยารักษาโรคลมชัก (Epilepsy) แต่หากจำเป็นต้องใช้ยาเหล่านี้ช่วงระยะสั้น ควรใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นเพิ่มเติม ในระหว่างหรือหลังจาก 28 วันที่ใช้ยาข้างต้น แต่หากต้องใช้ยาเหล่านี้ในระยะยาว ควรเลือกวิธีการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นๆ แทนการฝังแท่งคุมกำเนิด
- ขณะฝังแท่งคุมกำเนิด ควรรับประทานแคลเซียมให้เพียงพอ เพราะการใช้ยาเป็นเวลานานอาจทำให้ความหนาแน่นของแร่ธาตุในกระดูกลดลงเล็กน้อย แต่จะกลับเป็นปกติได้เมื่อหยุดใช้ยา
ข้อห้ามสำหรับฝังแท่งคุมกำเนิด
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสงสัยว่ากำลังจะตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีประวัติหรือกำลังป่วยเป็นมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ หรือมะเร็งเต้านม
- ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการทำงานของตับ เช่น เป็นโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ มีเนื้องอกในตับ
- ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือนหรือหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดออกจากช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบการแข็งตัวของเลือด มีภาวะเลือดออกง่ายและหยุดยาก
- ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดแดง (Arterial Disease) มีประวัติเป็นโรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง
- ผู้ที่มีเนื้องอกชนิดไวต่อฮออร์โมนโปรเจสเตอโรน หรือฮอร์โมนที่มีฤทธิ์คล้ายโปรเจสเตอโรน
- ผู้ที่มีการอักเสบของหลอดเลือดดำร่วมกับมีลิ่มเลือด (Thrombophlebitis) หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับลิ่มเลือดหลุดอุดหลอดเลือด (Thromboembolic Disorders)
ผลข้างเคียงของการฝังแท่งคุมกำเนิด
ผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก และมักหายไปภายใน 2-3 เดือนแรก
- อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ มามาก มาน้อย หรือไม่มาเลยได้
- อาจเกิดการอักเสบที่แผลฝังยาคุมกำเนิด หรือมีรอยแผลเป็นได้
- อาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีอาการบวมน้ำ ปวดศีรษะ เจ็บเต้านม ปวดท้อง คลื่นไส้ ผมอาจบางลง
- อาจทำให้เป็นสิว ขนดก ความต้องการทางเพศลดลง
- อาจมีอารมณ์แปรปรวน หรือ มีภาวะซึมเศร้า
- หากเกิดการตั้งครรภ์ขึ้น อาจมีโอกาสการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้มากกว่าปกติ
- หากฝังแท่งยาตื้นเกินไป อาจทำให้รู้สึกเจ็บ รบกวนการรับความรู้สึกที่ผิวหนังบริเวณที่ฝังแท่งยาและเกิดผิวหนังอักเสบโดยไม่มีการติดเชื้อ
- หากฝังแท่งยาใต้ผิวหนังลึกไป จะเสี่ยงต่อการเคลื่อนที่ของแท่งยา ทำให้ตัวยาปล่อยสู่กระแสเลือดมากขึ้น และยังเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากแท่งยาได้อีกด้วย
- หากฝังแท่งยาไม่ถูกต้อง อาจเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดและเส้นประสาท
- หากใช้เป็นเวลานานอาจทำให้ความหนาแน่นแร่ธาตุในกระดูก (Bone Mineral Density) ลดลงเล็กน้อย แต่ไม่เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกหัก
- หากฝังไม่ถูกวิธี อาจเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดและเส้นประสาทได้
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการฝังยาคุม
การฝังแท่งคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่มีประสิทธิภาพสูง โดยจะใช้การฝังหลอดยาไว้ใต้ผิวหนัง ซึ่งภายในบรรจุฮอร์โมนในกลุ่มโปรเจสติน (Progestin) ซึ่งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เป็นเวลา 3 หรือ 5 ปี ตามชนิดของยา
ยาฝังคุมกำเนิดที่นิยมใช้ในปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ
- Implanon® ชนิดฝัง 1 แท่ง จะเป็นฮอร์โมน Etonogestrel 68 มิลลิกรัม คุมกำเนิดได้ 3 ปี
- Jadelle® ชนิดฝัง 2 แท่ง จะเป็นฮอร์โมน Levonorgestrel 75 มิลลิกรัม คุมกำเนิดได้ 5 ปี
แท่งคุมกำเนิดทำงานอย่างไร?
การฝังแท่งคุมกำเนิด จะใช้หลอดยาหรือแท่งพลาสติก ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร ซึ่งบรรจุฮอร์โมนในกลุ่มโปรเจสตินไว้ นำมาฝังที่ใต้ผิวหนังบริเวณใต้ท้องแขนด้านใน โดยมีขนาดแผลเพียง 0.3 เซนติเมตรเท่านั้น และใช้เวลาในการฝังยาเพียงประมาณ 2 นาทีโดยการทำงานของแท่งคุมกำเนิดมีดังนี้
- ฮอร์โมนโปรเจสตินจะค่อยๆ ซึมออกมาจากแท่งยา มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของไข่ ทำให้ไข่ไม่ตก
- ฮอร์โมนโปรเจสติน จะทำให้เมือกที่ปากมดลูกเหนียวข้น มีปริมาณน้อย ทำให้อสุจิว่ายผ่านเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ยาก
- ทำให้เยื่อบุผนังมดลูกบาง ไม่เหมาะสมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งทำให้ไข่ที่ถูกผสมแล้วไม่สามารถเกาะที่ผนังมดลูกได้ดี จึงช่วยลดโอกาสเกิดการผสมกับไข่ได้อีกทางหนึ่ง
ข้อดีของการฝังแท่งคุมกำเนิด
- ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง มีอัตราความล้มเหลวไม่เกิน 0.1%
- ประหยัด และสะดวก ฝังครั้งเดียวสามารถคุมกำเนิดได้นาน 3 หรือ 5 ปี ตามชนิดของยา
- หลังจากหยุดใช้ สามารถมีบุตรได้เร็วกว่าการฉีดยาคุม เนื่องจากฮอร์โมนกระจายออกในปริมาณน้อยและไม่สะสมในร่างกาย
- มีส่วนช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และลดภาวะประจำเดือนมามาก
- ลดโอกาสการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก โรคมะเร็งรังไข่ และภาวะอักเสบในอุ้งเชิงกราน เพราะยาฝังคุมกำเนิด จะทำให้เมือกที่คอมดลูกข้นขึ้น จึงช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าไปสู่มดลูกได้
- หลังจากที่แท้งบุตร คลอดบุตร หรือระหว่างที่ให้นมบุตร สามารถฝังยาคุมกำเนิดได้ทันทีและไม่เป็นอันตราย
- ผู้ที่ไม่สามารถใช้ยาประเภทเอสโตรเจน หรือผู้ที่น้ำหนักมาก สามารถใช้ได้ แต่ประสิทธิภาพอาจลดลง
ข้อจำกัดในการฝังแท่งคุมกำเนิด
- ไม่สามารถเริ่มใช้หรือหยุดใช้ด้วยตนเอง และไม่สามารถฝังหรือถอดโดยแพทย์ทั่วไปได้ ต้องเป็นบุคลากรทางการแพทย์ผู้มีความชํานาญเท่านั้น
- ในปีแรกอาจมีผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ (Sexually Transmitted Infection) ซึ่งต่างจากการใช้ถุงยางอนามัยที่ช่วยป้องกันได้
- อาจพบปัญหาและภาวะแทรกซ้อนได้ แต่ไม่บ่อย เช่น พบก้อนเลือดคั่งบริเวณที่กรีดผิวหนัง เกิดการติดเชื้อ เจ็บ คัน ระคายผิวและมีรอยช้ำบริเวณที่ฝังยา มีแผลเป็น ผิวหนังฝ่อ เกิดพังผืดรอบแท่งยา เป็นต้น
- อาจมีผลไม่พึงประสงค์ เช่น ประจําเดือนมาผิดปกติ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า รบกวนความรู้สึกทางเพศ เจ็บคัดเต้านม ช่องคลอดอักเสบและแห้ง เกิดฝ้า สิว บวมน้ำ น้ำหนักขึ้น
โรงพยาบาลและคลินิกอื่น ที่ให้บริการ ฉีดยาคุม ทำหมันชาย ทำหมันหญิง ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- นัดหมายผ่าน HD ทาง Line: @hdcoth หรือกด "ทำนัด" ผ่านแอปพลิเคชัน HDmall
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
หมายเหตุ
- คุณจะได้รับใบแจ้งหนี้ (Invoice) จากคลินิกหรือรพ. ในวันที่เข้ารับบริการ แต่คลินิกหรือรพ. จะไม่สามารถออกใบเสร็จได้ เนื่องจากเป็นการชำระเงินผ่าน HDmall
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
