ตรวจไต ฟอกไต รักษาโรคไต

“ไต” อวัยวะสำคัญที่ไม่ควรถูกละเลย

ไต และ หน่วยไต เป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างการ ทำหน้าที่กำจัดของเสียและสารพิษจากระแสเลือดออกไป รวมทั้งควบคุมความสมดุลน้ำและเกลือแร่ ตลอดจนความเป็นกรดด่างในเลือด ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดและวิตามินดี นอกจากนี้ไตยังทำหน้าที่ควบคุมความดันโลหิตในร่างกาย เพราะผู่ป่วยโรคไตมักมีความดันโลหิตสูงยากต่อการควบคุม

ทำไมต้องตรวจไต?

ในประเทศไทยเผยสถิติว่า ประชากรไทยร้อยละ 17.6 ของประชากร หรือประมาณ 8 ล้านคน ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง สาเหตุมาจากมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารติดรสชาติเค็ม ซึ่งอาหารที่เป็นยอดนิยมที่สุดคือ เนื้อและหมูหมักเกาหลีที่ใส่ซอสปรุงรส โดยเค็มกว่าปกติ 5-10 เท่า ซึ่งโรคเรื้อรังเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด จำเป็นต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ฟอกไต และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่อาการระยะสุดท้าย นอกจากนี้ยังมีโรคที่เกี่ยวข้องกับไตอีกหลากหลายชนิดได้แก่

• โรคถุงน้ำที่ไต
  
• โรคไตวายฉับพลัน
  
• โรคไตอักเสบเนโฟรติก
  
• โรคไตอักเสบจากโรคแพ้ภูมิตัวเอง (LSE)
  
• โรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

ตรวจไตกันรึยัง?

โรคไต หรือโรคไตเรื้อรัง คือการที่ไตมีภาวะการทำงานผิดปกติ หรือไตทำงานได้ลดลง เกิดได้จากหลายสาเหตุและแต่ละสาเหตุก็มีอาการแสดงทางกายแตกต่างกันไป เช่น โรคไตอักเสบ จะมีอาการบวม มีปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ โรคไตที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของโรคเรื้อรังต่างๆ ส่วนมากจะไม่มีอาการหากเป็นในระยะแรก 

ในอาการของโรคไตระยะสุดท้ายจะมีความคล้ายคลึงกัน คือ ผู้ป่วยอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร ปริมาณปัสสาวะออกน้อยซึ่งในบางรายอาจไม่มีปัสสาวะออกเลย ตัวบวม เกิดภาวะน้ำท่วมปอด หายใจลำบาก นอนราบไม่ได้เนื่องจากมีภาวะน้ำเกินในร่างกาย มีภาวะโลหิตจางซึ่งส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย เป็นต้น ถ้าใครมีอาการเหล่านี้ทั้งตัวคุณและคนรอบข้าง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจไตให้เร็วที่สุด หากได้รับการตรวจหาสาเหตุของโรคตั้งแต่เนิ่นๆ แพทย์จะได้รีบหาแนวทางการรักษาให้ทันก่อนอาการจะลามไประยะสุดท้าย การตรวจไตมีขั้นตอนไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด

ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งเสริมให้เป็นโรคไต

• ภาวะความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง หากไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ ในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อหัวใจ หลอดเลือด ไต สมอง รวมทั้งไต โดยจะทำให้การทำงานของไตเสื่อมลง
• โรคเบาหวาน เป็นสาเหตุของไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายประมาณ 30 % ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน หากควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีภายในระยะเวลา 10-15 ปี จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ไต โดยเฉพาะที่หลอดเลือดของไต มีโปรตีน หรือไข่ขาว รั่วออกมาในปัสสาวะ จนเกิดภาวะเกิดไตเสื่อม ไตวายเรื้อรัง และไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในที่สุด 
• พันธุกรรม โรคไตบางชนิดมีสาเหตุจากพันธุกรรม เช่น โรคไตเป็นถุงน้ำ ฉะนั้นคนที่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นโรคไตก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน โรคไตที่มีสาเหตุจากพันธุกรรมมี 2 แบบ ได้แก่ แบบทารก (Infantile PKD) ซึ่งมักจะเสียชีวิตตั้งแต่เกิด และแบบผู้ใหญ่ (Adult PKD-ADPKD) ซึ่งมักพบความผิดปกติเมื่ออายุ 20-30 ปีขึ้นไป โดยผู้ป่วยจะมีถุงน้ำที่ไตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ ส่งผลให้ไตทำงานน้อยลง เกิดภาวะไตวายและเสียชีวิตในที่สุด
  
• ภูมิลำเนา ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นโรคนิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะมาก สาเหตุอาจเกี่ยวเนื่องจากอาหาร น้ำ และปัจจัยอื่น เพราะฉะนั้นคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในบริเวณนี้ก็จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไตได้
  
• อายุ ไตของคนปกติจะเจริญเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 2 ปี และจะเริ่มเสื่อมเมื่ออายุ 35 ปี ฉะนั้นสมรรถภาพการทำงานของไตจะเสื่อมไปตามอายุ นอกจากนี้ในชายสูงอายุมีโอกาสสูงที่จะเป็นต่อมลูกหมากโต ส่งผลให้เกิดการอุดตันของทางเดินปัสสาวะ ทำให้การทำงานของไตเสื่อมลงได้ 
  
• ยาและอาหาร การใช้ยากลุ่ม NSAIDs เป็นประจำอาจทำเกิดภาวะไตวายเสียได้ ส่วนอาหารพิสดารบางชนิด เช่น ดีงู อาจทำให้เกิดไตวาย นอกจากนี้โรคไตในเด็กยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่มาจาก พฤติกรรมการกินเค็มจากอาหารจำพวก ฟาสต์ฟู้ด ขนมขบเคี้ยว รวมถึงอาหารญี่ปุ่น เกาหลี ที่กำลังเป็นที่นิยม เช่น เนื้อหมัก หมูมักใส่ซอสปรุงรส เกลือ ผงหมัก เป็นต้น
  

รู้ทันภัย ตรวจไต ป้องกันโรค

แม้ว่า "อาหารเค็ม" จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคไต แต่ในความเป็นจริงผู้ป่วยโรคไตยังต้องควบคุมแร่ธาตุอีกหลายชนิดในอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน หรือแต่ละระดับอาการของโรคไตด้วย ได้แก่

• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมและฟอสฟอรัสสูง
• ควบคุมอาหารที่มีโปรตีนสูง
• ควบคุมคาร์โบไฮเดรต
• ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทั้งหลาย
  
• ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมมาก
• ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง
  
• ควรหลีกเลี่ยงขนมหวาน

การตรวจไต ใช้วิธีการใดบ้าง

ในเบื้องต้นมักใช้วิธีการตรวจเลือดและปัสสาวะ และอาจใช้การทดสอบอื่นๆ เพื่อประเมินระดับความเสียหายของไต ได้แก่

• การสแกนไตเช่น การอัลตราซาวด์ การถ่ายภาพสะท้อนแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging: MRI) หรือการสแกนคอมพิวเตอร์ (CT) เพื่อค้นหาว่าปัสสาวะไหลผิดปกติ เกิดการอุดตันหรือไม่
• การตัดชิ้นเนื้อไต เป็นการนำเนื้อเยื่อไตขนาดเล็กไปตรวจหาความเสียหายผ่านกล้องจุลทรรศน์

เพื่อสุขภาพที่ดี ตรวจไตกับโรงพยาบาลชั้นนำ ผ่านแพ็กเกจจาก HDmall

คุณสามารถเข้ามาเลือกซื้อแพ็กเกจตรวจไตจากโรงพยาบาลชั้นนำที่ HDmall คัดสรรมาแล้วว่า ครอบคลุมการตรวจหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น ตรวจคัดกรองโรคไตพื้นฐาน ปรึกษาแพทย์เรื่องภาวะต่อมหมวกไตล้า นอกจากนี้ถ้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับกับแพ็กเกจทาง HDmall มีบริการแชทผ่าน
แอดมินพร้อมตอบข้อสงสัยตลอดเวลา เช่น ตรวจไตที่ไหนดี ตรวจไตต้องอดอาหารไหม ตรวจไตราคาเท่าไหร่ เพื่อสุขภาพร่างที่ดี และรู้เท่าทันโรคตั้งแต่เนิ่นๆ หากสนใจตรวจไตสามารถเข้าไปดูแพ็กเกจในที่เว็บไซต์ HDmall ได้เลย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจไต