HDmall สรุปให้
ปิด
ปิด
- เมโสหน้าใส คือ การฉีดสารสกัดจากวิตามินรวมถึงสารบำรุงสำคัญต่อผิวลงไปยังผิวหนังชั้นกลางบนผิวหน้า เพื่อช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและการฟื้นฟู ซ่อมแซมความเสียหายของผิวจากสิ่งสกปรก มลภาวะ สารระคายเคืองต่างๆ
- หลังฉีดเมโสหน้าใส ควรพักผ่อนให้เพียงพอ งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการออกไปในที่แสงแดดจัดหรือมีความร้อนสูงเป็นเวลา 48 ชั่วโมง งดทาครีมบำรุง 1 คืน เลี่ยงการใช้มือและนิ้วกดใบหน้า และดื่มน้ำให้มากๆ
- ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผิวหน้าจะเริ่มมีสุขภาพดีขึ้น ให้สัมผัสที่นุ่มและชุ่มชื้น มีสีผิวอมชมพูกระจ่างใสกว่าผิวก่อนที่จะรับบริการ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน
- บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDinsight ได้รับการสปอนเซอร์จาก Gangnam Clinic
- ดูแพ็กเกจทั้งหมดจาก Gangnam Clinic บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
สารบัญ
- เมโสหน้าใสคืออะไร?
- ฉีดเมโสหน้าใสเจ็บหรือไม่?
- เมโสหน้าใสแตกต่างจากเลเซอร์หน้าใสอย่างไร?
- ฉีดเมโสหน้าใสที่จุดใดได้บ้าง?
- ฉีดเมโสหน้าใสได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?
- หลังฉีดเมโสหน้าใส นานแค่ไหนจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์? แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน?
- ใครเหมาะกับการฉีดเมโสหน้าใสบ้าง
- ใครไม่เหมาะกับหรือมีจำกัดที่ไม่สามารถฉีดเมโสหน้าใส?
- การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสหน้าใส
- ขั้นตอนการฉีดเมโสหน้าใส
- การดูแลตนเองหลังฉีดเมโสหน้าใส
- รับบริการฉีดเมโสหน้าใส ที่ กังนัมคลินิก
- บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
การมีผิวหน้าที่เนียนใสย่อมช่วยเสริมความมั่นใจให้กับเราทุกคนในการออกไปทำงานหรือพบปะผู้คนในสังคม แต่ด้วยภาระหน้าที่หลายๆ อย่าง ก็อาจทำให้ใครหลายๆ คนไม่มีเวลาดูแลผิวหน้าของตนเอง รวมถึงมลภาวะและสิ่งสกปรกในอากาศรอบตัวก็เป็นอีกอุปสรรคที่ทำให้การมีผิวหน้าที่เนียนใสดูยากขึ้นไปอีก
ทางกังนัมคลินิกจึงได้เปิดให้บริการฉีดเมโสหน้าใส ซึ่งเป็นการฉีดสารบำรุงที่มีประโยชน์คืนสู่ผิว เพื่อกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวให้เห็นประสิทธิผลชัดขึ้น พร้อมเสริมความแข็งแรงรอบด้านให้ผิวดูสุขภาพดี ดูเรียบเนียน
หากคุณยังไม่เคยรับบริการฉีดเมโสหน้าใสและอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับบริการนี้ว่าจะช่วยฟื้นฟูผิวให้กับคุณได้อย่างไร HDmall.co.th รวบรวมคำตอบเอาไว้ให้ผ่านบทความนี้ทั้งหมดแล้ว
เมโสหน้าใสคืออะไร?
เมโสหน้าใส คือ การฉีดสารสกัดจากวิตามินสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายรวมถึงสารบำรุงสำคัญต่อผิวลงไปยังผิวหนังชั้นกลางของผิวหน้า เพื่อเสริมปริมาณวิตามินที่มีส่วนช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวและการฟื้นฟู ซ่อมแซมความเสียหายของผิวจากสิ่งสกปรก มลภาวะ สารระคายเคืองต่างๆ ให้มีประสิทธิผลมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ผิวสุขภาพดีและแข็งแรง มีผิวสัมผัสและเนื้อผิวที่ดีขึ้น
การฉีดเมโสหน้าใสมีคุณสมบัติที่สามารถเปลี่ยนแปลงผิวได้ดังนี้
- เสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว ส่งผลให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาวจากความชุ่มชื้นที่เพียงพอ
- ลดรอยจุดด่างดำจากปัญหาสิวอักเสบ รวมทั้งปัญหาฝ้า กระ
- เสริมความหมองคล้ำของผิวที่เสริมอ่อนแอให้กลับมาเปล่งปลัง กระจ่างใส
- ลดความมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวได้
- ลดโอกาสเกิดสิวอักเสบเม็ดใหม่และปัญหาผิวหนังอักเสบจนสุขภาพผิวอ่อนแอลง
- เสริมความแข็งแรงให้ผิว ทำให้ผิวไม่แพ้ต่อสารเคมีหรือสารบำรุงผิวได้ง่าย
- กระชับรูขุมขนที่กว้างให้เล็กลง ผิวดูเรียบเนียนอย่างทั่วถึงกัน
- เพิ่มความยืดหยุ่นและเนียนนุ่มให้กับผิว ไม่หยาบกระด้างหรือรู้สึกว่าผิวแน่น
ฉีดเมโสหน้าใสเจ็บหรือไม่?
เนื่องจากเป็นการทำหัตถการผ่านการฉีดเข็มลงใต้ผิวหนัง ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกเจ็บผิวระหว่างที่แพทย์เริ่มฉีดเมโสหน้าใสได้ แต่มักอยู่ในระดับที่ทนได้ ไม่เจ็บรุนแรง
โดยทางกังนัมคลินิกจะมีการประคบเย็นเพื่อให้ผิวหน้ารู้สึกชาชั่วขณะก่อนเริ่มให้บริการ ผู้เข้ารับบริการเกือบทุกรายจึงจะไม่รู้สึกเจ็บระหว่างทำหัตถการมากนัก
เมโสหน้าใสแตกต่างจากเลเซอร์หน้าใสอย่างไร?
ความแตกต่างระหว่างเมโสหน้าใสกับการเลเซอร์หน้าใสจะอยู่ที่กระบวนการเปลี่ยนแปลงผิวหน้าให้เนียนใส
โดยฉีดเมโสหน้าใสจะใช้วิธีฉีดสารฟื้นฟูและสารวิตามินต่างๆ ลงไปใต้ผิว เพื่อให้สารเหล่านั้นซ่อมแซมความเสียหายใต้ผิวและขับความเปล่งปลั่งเนียนใสออกมา
ต่างจากการเลเซอร์หน้าใสที่จะเป็นกระบวนการยิงพลังงานเลเซอร์เพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ส่งผลให้เซลล์ผิวเก่าที่อ่อนแอรวมถึงหมองคล้ำหลุดออกไป และแทนที่ด้วยเซลล์ผิวใหม่ที่เนียนและสุขภาพดีขึ้น
ฉีดเมโสหน้าใสที่จุดใดได้บ้าง?
การฉีดเมโสหน้าใสสามารถฉีดได้ทุกจุดของใบหน้า เพราะมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าเป็นหลัก ส่วนการฉีดในส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่มีปัญหาด้านผิวนั้น จำเป็นจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน
ฉีดเมโสหน้าใสได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?
การฉีดเมโสหน้าใสสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กวัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยเริ่มต้นที่อายุ 15 ปีขึ้นไป เพราะนอกจากสารวิตามินและสารบำรุงสำหรับฉีดเมโสหน้าใสจะช่วยให้ผิวหน้าเนียนใสได้แล้ว ยังช่วยลดโอกาสเกิดสิวอักเสบ สิวจากอาการแพ้ หรือสิวอุดตันซึ่งพบได้บ่อยในเด็กวัยรุ่นได้อีกด้วย
หลังฉีดเมโสหน้าใส นานแค่ไหนจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์? แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน?
หลังจากฉีดเมโสหน้าใสไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผู้เข้ารับบริการจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าที่เริ่มสุขภาพดีขึ้น ผ่านผิวสัมผัสที่นุ่มและชุ่มชื้น มีสีผิวอมชมพูกระจ่างใสกว่าผิวก่อนที่จะรับบริการ โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน
หากผู้เข้ารับบริการต้องการคงผิวที่ดูสุขภาพดีเอาไว้เรื่อยๆ ก็ควรเดินทางมารับบริการฉีดเมโสหน้าใสทุกๆ 2-4 สัปดาห์
ใครเหมาะกับการฉีดเมโสหน้าใสบ้าง
ผู้ที่มีปัญหาผิวและเหมาะกับการใช้สารเมโสหน้าใสเข้าเสริมสุขภาพผิว ได้แก่
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
- สีผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ และหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส
- ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ของการมีหน้ากระจ่างใสอย่างทันใจมากกว่าการทาครีมบำรุงผิว
- ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลผิว พักผ่อนน้อย นอนดึก และต้องการทางลัดในการดูแลผิวให้สุขภาพดีเพิ่มเติม
- ผู้ที่ผิวมีจุดด่างดำจากสิว ฝ้า กระ และต้องการลบเลือนริ้วรอยให้จางลง
- ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย และอยากฟื้นฟูความแข็งแรงของผิว
ใครไม่เหมาะกับหรือมีจำกัดที่ไม่สามารถฉีดเมโสหน้าใส?
ผู้ที่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพซึ่งอาจต้องเลื่อนนัดรับบริการฉีดเมโสหน้าใสออกไปก่อน หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ ได้แก่
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่กำลังมีปัญหาผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ หรือเป็นสิวอักเสบรุนแรง ควรรักษาให้หายก่อนรับบริการ
- ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด การแข็งตัวของเลือด รวมถึงมีภาวะความดันโลหิตที่ไม่ปกติ
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
- ผู้ที่เคยมีอาการแพ้สารวิตามินหรือสารบำรุงที่ใช้ในการเสริมความงาม
นอกจากนี้ผู้ที่ไม่มีเวลามาฉีดเมโสหน้าใสอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 2-4 สัปดาห์ ก็อาจไม่เหมาะกับบริการนี้เช่นกัน เนื่องจากการไม่สามารถมาฉีดผิวได้อย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ของการรักษาที่ชัดเจนมากพอ
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสหน้าใส
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสหน้าใสไม่จำเป็นต้องมีการดูแลตนเองใดๆ เป็นพิเศษ เพียงแจ้งประวัติด้านสุขภาพ ประวัติการแพ้ยา สารเคมี หรือสารบำรุง สารวิตามินต่างๆ ให้แพทย์ทราบอย่างครบถ้วน รวมถึงแจ้งปัญหาผิวที่อยากให้การฉีดเมโสหน้าใสช่วยฟื้นฟูทั้งหมดก็เพียงพอแล้ว
ขั้นตอนการฉีดเมโสหน้าใส
ในขั้นตอนแรก ผู้เข้ารับบริการจะพูดคุยและปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้สารเมโสแก้ปัญหาผิวก่อน จากนั้นแพทย์จะเลือกสูตรวิตามินหรือสารเมโสที่เหมาะต่อการแก้ปัญหาผิวให้ผู้เข้ารับบริการ
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะล้างเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวหน้าของผู้เข้ารับบริการ แล้วแพทย์จะเริ่มฉีดสารเมโสหน้าใสลงไปตามบริเวณต่างๆ ของใบหน้าอย่างอ่อนโยนที่สุด
การดูแลตนเองหลังฉีดเมโสหน้าใส
หลังจากฉีดเมโสหน้าใสแล้ว ผู้เข้ารับบริการยังต้องดูแลตนเองเพิ่มเติม เพื่อคงผลลัพธ์และกระตุ้นให้สารวิตามินกับสารบำรุงจากการฉีดเมโสหน้าใสสามารถออกฤทธิ์ซ่อมแซมผิวได้ดีขึ้น ได้แก่
- พักผ่อนให้เพียงพอ หากนอนดึกเป็นประจำให้ปรับเวลานอนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายไม่อ่อนเพลียและสามารถดูดซึมสารวิตามินจากการฉีดเมโสหน้าใสได้ดีขึ้น
- งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ โดยไม่ใช่เพียงงดหลังฉีดเมโสหน้าใส แต่ควรงดไปตลอดชีวิต เพราะทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และพิษจากบุหรี่ล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างความอ่อนแอให้กับผิวของเราทุกส่วน
- หลีกเลี่ยงการออกไปในที่แสงแดดจัดหรือมีความร้อนสูงเป็นเวลา 48 ชั่วโมง หากจำเป็นต้องออกไปสัมผัสแสงแดดให้ทาครีมกันแดด SPF 50+
- งดทาครีมบำรุงใดๆ บริเวณใบหน้าเป็นเวลา 1 คืน หลังจากฉีดเมโสหน้าใส
- หลีกเลี่ยงการใช้มือและนิ้วกดนวดใบหน้าบริเวณที่เพิ่งผ่านการฉีดเมโสหน้าใสมา
- ดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและจะยิ่งทำให้การดูดซับสารวิตามินไปใช้ทวีประสิทธิภาพมากขึ้น
รับบริการฉีดเมโสหน้าใส ที่ กังนัมคลินิก
ที่กังนัมคลินิกมีบริการฉีดเมโสหน้าใสผ่านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อให้การแก้ปัญหาสุขภาพผิวของคุณเป็นไปอย่างตรงจุดและเห็นผล โดยยี่ห้อของสารเมโสหน้าใสที่ทางกังนัมคลินิกคัดเลือกมาใช้จัดเป็นแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงและมีจุดเด่นในการฟื้นฟูผิวที่แตกต่างกัน ได้แก่
- แบรนด์มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) แบรนด์เมโสหน้าใสที่มีชื่อเสียงและเป็นที่คุ้นหูสำหรับหลายๆ คน โดยมีจุดเด่นด้านการฟื้นฟูผิวแพ้ง่าย อาการสิวอักเสบหรือสิวผด เหมาะสำหรับผู้เข้ารับบริการและเด็กๆ วัยรุ่นที่มักจะมีสิวอักเสบหรือสิวอุดตันที่ใบหน้าค่อนข้างเยอะ รวมถึงผู้ที่สุขภาพผิวอ่อนแอจนอ่อนไหวต่อสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ ค่อนข้างง่าย
- แบรนด์ไซโตแคร์ (Cytocare) แบรนด์เมโสที่ได้รับความนิยมในส่วนของการเสริมผิวอิ่มน้ำ ทำให้ดูฉ่ำวาวและเนียนนุ่ม รวมถึงช่วยลดรอยจุดด่างดำได้ดี ทำให้ผิวหน้ามีคอลลาเจนเติมเต็มที่เพียงพอจนแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น ไม่หยาบกระด้าง นอกจากนี้ยังมีผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่าแบรนด์มาเด้ คอลลาเจนด้วย
หากคุณยังไม่แน่ใจว่า สุขภาพผิวของตนเองควรจะใช้สารเมโสหน้าใสแบรนด์ใด หรือควรจะมีการดูแลสุขภาพผิวเพิ่มเติมอย่างไรควบคู่ไปกับการฉีดเมโสหน้าใสบ้าง ก็สามารถเข้าปรึกษาแพทย์ของทางกังนัมคลินิกก่อนรับบริการได้
ทางกังนัมคลินิกมีความยินดีและพร้อมจะดูแลผู้เข้ารับบริการทุกท่านที่มีปัญหาผิวหน้าทุกรูปแบบ เพื่อให้ทุกท่านที่กลับออกไปจากคลินิกได้กลับมามีความมั่นใจต่อภาพลักษณ์ของตนเอง และมีสุขภาพผิวที่แข็งแรงสมบูรณ์ไปด้วยสารวิตามินที่ทรงคุณค่าและมีประโยชน์
โดยทางกังนัมคลินิกมีสาขาให้บริการมากถึง 10 สาขาทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อกระจายคุณภาพและความเชี่ยวชาญในการดูแลผิวออกไปให้กว้างที่สุด เพื่อให้ทุกท่านที่อยากมีผิวสุขภาพดีได้รับบริการที่เห็นผลและได้มาตรฐานจากทางกังนัมคลินิกกันอย่างถ้วนหน้า
รับบริการฉีดเมโสหน้าใสที่กังนัมคลินิก เพื่อปรับสภาพผิวที่กำลังอ่อนแอ ไม่มีความชุ่มชื้น ให้กลับมาเปล่งประกายเป็นคุณคนใหม่ที่มีผิวสวยยิ่งกว่าเดิม ดูโปรโมชันของกังนัมคลินิกบน HDmall.co.th หรือทักไลน์ @HDcoth เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากแอดมินได้เลย
บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
- ฉีดวิตามิน รวบครบทุกข้อมูลการฉีดวิตามิน
- มาเด้คอลลาเจน (Made Collagen) รวบครบทุกข้อมูลการฉีดมาเด้คอลลาเจน
ที่มาของข้อมูล
- Gangnam Clinic, ฉีดเมโสหน้าใส (https://www.gangnamconsult.com/meso-face-bright/), 24 พฤศจิกายน 2564.