HDmall สรุปให้
ปิด
ปิด
- เทคโนโลยีเลเซอร์รักษารอยฝ้าหรือเม็ดกระที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันจะมีทั้งหมด 3 นวัตกรรม เด่นได้แก่ Dual Yellow Laser, Q-Switch และ Picosecond
- Dual Yellow Laser มีจุดเด่นด้านการผลิตแสงเลเซอร์ทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเหลืองและสีเขียว สามารถรักษาปัญหารอยดำและรอยแดง รวมถึงการรักษาฝ้า กระอย่างเห็นผล
- Q-Switch Nd: YAG Laser มีความยาวคลื่นที่หลากหลาย สามารถกำจัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติได้อย่างครอบคลุม แม่นยำ และละเอียดถึงผิวหนังชั้นลึก เช่น ฝ้าหนา เม็ดกระ ปานดำ ปานน้ำตาล โดยไม่ส่งผลข้างเคียง
- เลเซอร์ Picosecond รักษาได้หลากหลายปัญหา ตั้งแต่รอยแดง รอยดำ ไปจนถึงริ้วรอยบนเนื้อผิว และยังใช้ควบคู่ในขั้นตอนรักษาหลุมสิวได้ รวมถึงเสริมความกระจ่างใสให้กับใบหน้าได้อีกด้วย
- บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ #HDinsight ได้รับการสปอนเซอร์จาก La Grace Clinic
- ดูรายละเอียด โปรโมชั่นทั้งหมดจาก La Grace Clinic บน HDmall.co.th
- สอบถามแอดมินเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจได้ที่ไลน์ @HDcoth
เลือกหัวข้อที่สนใจได้ที่นี่
- ฝ้า กระ เกิดจากอะไร?
- รวมนวัตกรรมเลเซอร์รักษาฝ้า กระ
- เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Dual Yellow Laser
- เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Q-Switch
- เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Picosecond
- เลเซอร์ฝ้ากี่ครั้งเห็นผล?
- เลเซอร์ฝ้าแล้วจะเป็นอีกไหม?
- การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ฝ้า
- ขั้นตอนการเลเซอร์ฝ้า
- การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์ฝ้า
- รับบริการรักษาฝ้า กระ ที่ La Grace Clinic
- บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
ความหลากหลายของนวัตกรรมเลเซอร์รักษาฝ้า กระ อาจทำให้หลายคนเลือกไม่ถูกและไม่แน่ใจเกี่ยวกับตัวเลือกในการเลเซอร์ฝ้าที่ดีที่สุด จะรีบไปรักษาเลยก็กังวลว่าจะไม่คุ้มค่าต่อราคารักษาฝ้า กระ และปัญหาก็อาจไม่หมดไปอย่างที่คาดหวัง
HDmall.co.th ร่วมกับ La Grace Clinic จะมาเปรียบเทียบเลเซอร์รักษาฝ้า กระ แต่ละเครื่อง คุณสมบัติช่วยรักษาฝ้าและกระให้จางลง เลเซอร์ฝ้ามีข้อควรรู้อะไรบ้าง เพื่อเป็นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ที่ต้องการเลเซอร์รักษาฝ้าได้ใช้เป็นข้อมูลในการเลือกใช้บริการ
ฝ้า กระ เกิดจากอะไร?
ฝ้า (Melasma) เป็นปัญหาผิวหน้าที่มีลักษณะคล้ำและหนาตัวกว่าผิวส่วนอื่น โดยเกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีที่ผลิตออกมาเพื่อปกป้องผิวในปริมาณที่มากเกินไป โดยเกิดจากปัจจัยได้หลายอย่าง เช่น ฮอร์โมน ความเสื่อมของผิว แต่ปัจจัยอันดับหนึ่งที่ทำให้เกิดฝ้าได้มากที่สุด ก็คือ การสัมผัสแสงแดดจัดๆ
โดยเมื่อผิวของเราสัมผัสแสงแดดที่แรงมากๆ เซลล์เม็ดสีใต้ผิวก็จะมีการผลิตเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาเพื่อปกป้องคุ้มกันผิวไม่ให้ถูกแสงแดดทำร้าย แต่เมื่อเราไม่ระมัดระวังในการดูแลผิว ปล่อยให้ผิวโดนแสงแดดเป็นเวลานานและต่อเนื่อง เซลล์เม็ดสีก็จะผลิตเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาในปริมาณมากเกินไป จึงเกิดเป็นเนื้อผิวที่เป็นฝ้าหนาและเป็นสีคล้ำออกน้ำตาลหรือสีเทานั่นเอง
ส่วนปัญหากระ (Freckles) มีกลไกการเกิดคล้ายกับฝ้า โดยเกิดความผิดปกติของการผลิตเซลล์เม็ดสีที่เกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น แสงแดด พันธุกรรม ฮอร์โมน ความเสื่อมของผิวเมื่ออายุมากขึ้น จึงทำให้เซลล์เม็ดสีไปรวมกลุ่มกันจนกลายเป็นจุดสีน้ำตาลเข้มๆ บนผิว พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า คอ แขน แผ่นหลัง หรือหนังศีรษะ
รวมนวัตกรรมเลเซอร์รักษาฝ้า กระ
เทคโนโลยีเลเซอร์รักษารอยฝ้าหรือเม็ดกระที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันจะมีทั้งหมด 3 นวัตกรรม ได้แก่
1. เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Dual Yellow Laser
นวัตกรรมเครื่องผลิตพลังงานเลเซอร์ Fast Edge MicroPulses หรือ คลื่นเลเซอร์ FEM ซึ่งสามารถปล่อยพลังงานเลเซอร์ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาอันสั้นถึง 22,000 ครั้งต่อวินาทีในขนาดพลังงานที่เล็กมากๆ โดยมีแหล่งพลังงานมาจากสารโบรไมด์ (Bromide) และแร่ธาตุทองแดง (Copper)
เครื่อง Dual Yellow Laser มีจุดเด่นด้านการผลิตแสงเลเซอร์ทั้งหมด 2 สี ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการรักษาผิวแตกต่างกัน ได้แก่
- แสงสีเหลือง เป็นพลังงานเลเซอร์ความยาวคลื่น 578 นาโนเมตร สามารถดูดซึมได้ดีในผิวส่วนที่มีสารสีแดงจากเม็ดเลือด (Oxyheamoglobin) จึงเน้นรักษาปัญหารอยแดงจากเส้นเลือดฝอย รอยแผลจากสิวอักเสบ หรือปานแดง และยังเป็นคลื่นที่สามารถปล่อยพลังงานฆ่าเชื้อเพื่อลดโอกาสเกิดสิวเม็ดใหม่ และบรรเทาความมันของผิวซึ่งอาจนำไปสู่การหมักหมมของสิ่งสกปรกบนใบหน้า
แสงเลเซอร์สีเหลืองของเครื่อง Dual Yellow Laser ยังช่วยฟื้นฟูความเสื่อมโทรมของสุขภาพผิว ทำให้รูขุมขน รอยเหี่ยวย่นต่างๆ ลดเลือนจางลงได้
- แสงสีเขียว เป็นพลังงานเลเซอร์ความยาวคลื่น 511 นาโนเมตร ดูดซึมได้ดีในส่วนเม็ดสีเมลานิน จึงเน้นรักษาปัญหารอยดำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยฝ้า เม็ดกระ สีผิวที่หมองคล้ำไม่สดใส รอยแผลเป็นจากสิวเม็ดเก่า ผิวที่ดำคล้ำจากปัญหาผิวหนังอักเสบ
เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Dual Yellow Laser เปรียบเทียบกับเลเซอร์แบบอื่นๆ
- ไม่ต้องใช้ยาชา การยิงพลังงานจากเครื่อง Dual Yellow Laser จะอยู่ในลักษณะไล่ถูหัวยิงพลังงานลงไปทีละส่วน ไม่ใช่การยิงคลื่นพลังงานแบบเป็นช็อตส์ใส่ผิว จึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ เพียงแต่จะรู้สึกอุ่นๆ ที่ผิวบ้างเท่านั้น
- แก้ได้ทั้งปัญหารอยแดงและรอยดำ เสริมความคุ้มค่าในการรับบริการต่อครั้งในผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาแค่รอยฝ้าหรือกระเพียงอย่างเดียว
- ไม่ทำให้เกิดรอยช้ำ การแนบหัวยิงพลังงานที่เล็กมากๆ จากเครื่อง Dual Yellow Laser ทำให้ไม่เกิดความร้อนสะสมในหลอดเลือดในเวลาที่รวดเร็วเกินไป ลดโอกาสเส้นเลือดฝอยแตกหรือเกิดรอยช้ำ
- เห็นผลเร็ว โดยเฉพาะด้านการปรับความกระจ่างใสของผิว เพียงรักษาไม่กี่ครั้งก็เห็นผลได้ชัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวภายในเวลาที่จำกัด หรือต้องการความรวดเร็ว
- เหมาะกับการเป็นตัวเลือกบำรุงผิวประจำเดือน เพราะบำรุงผิวได้หลายด้าน ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองหรือไม่ชอบทาผลิตภัณฑ์สกินแคร์ อาจเดินทางมายิงเลเซอร์ฟื้นฟูและบำรุงผิวด้วยเครื่อง Dual Yellow Laser ประมาณ 2 สัปดาห์ต่อครั้งเพื่อให้ผิวหน้าคงความกระจ่างใส มีสุขภาพดีได้
อย่างไรก็ตาม การรับบริการ Dual Yellow Laser เลเซอร์รักษาฝ้า ควรเข้ามารับบริการอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้ว่าจะเห็นผลเร็ว แต่ผู้เข้ารับบริการควรกลับมายิงเลเซอร์หลายครั้ง จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวที่ชัดเจนได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และบางสถานบริการอาจมีราคาต่อครั้งค่อนข้างสูง
Dual Yellow Laser เหมาะกับใคร?
Dual Yellow Laser เหมาะมากกับผู้เข้ารับบริการที่กลัวเจ็บ หรือไม่ชอบการยิงเลเซอร์แบบอัดพลังงานลงผิว ซึ่งมักส่งผลทำให้รู้สึกเจ็บหรือแสบผิวระหว่างที่รับบริการได้
และด้วยจุดเด่นที่เสริมความกระจ่างใสได้อย่างรวดเร็ว เครื่อง Dual Yellow Laser ยังเป็นเครื่องเร่งความเปล่งปลั่งให้กับผิวชั้นดีในผู้ที่กำลังจะไปงานเลี้ยง งานสังคม งานแต่งงาน หรือกิจกรรมเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่ต้องมีการโชว์ผิวเป็นพิเศษ
2. เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Q-Switch
เครื่อง Q-Switch เป็นอีกเครื่องยิงเลเซอร์ฝ้า กระ ที่หลายคลินิกและสถานพยาบาลนิยมใช้ ด้วยคุณสมบัติคลื่นพลังงานเลเซอร์เข้มข้นที่สามารถกระตุ้นการแตกตัวของเม็ดสีที่ผิดปกติ และเข้าสู่กระบวนการย่อยสลายโดยเม็ดเลือดขาวของร่างกายต่อไป
นอกจากเครื่อง Q-Switch ซึ่งเป็นนวัตกรรมดั้งเดิมแล้ว เทคโนโลยีพลังงานเลเซอร์ Q-Switch ยังแตกย่อยออกเป็นพลังงานเลเซอร์ชนิดอื่นๆ ด้วย ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติในการรักษาผิวแตกต่างกัน เช่น
- พลังงาน Q-Switch Nd: YAG Laser พลังงานเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นเพื่อแก้ปัญหาผิวได้ถึง 4 แบบ ได้แก่ 532, 585, 650 และ 1,064 นาโนเมตร จึงสามารถกำจัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติจนเกิดสีเข้มได้อย่างครอบคลุม แม่นยำ และละเอียดถึงผิวหนังชั้นลึก เช่น ฝ้าหนา เม็ดกระ ปานดำ ปานน้ำตาล โดยไม่ส่งผลข้างเคียงทำให้ผิวลอกแต่อย่างใด และยังสามารถลบรอยสัก กำจัดขนแบบกึ่งถาวรได้ ทำให้เส้นขนฝ่อและลดการงอกใหม่ได้นานถึง 1-2 ปี
- พลังงาน Ruby Laser เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์แบบเครื่อง Q-Switch แต่มีจุดกำเนิดคลื่นเลเซอร์มาจากผลึกแร่ทับทิม มีความยาวคลื่น 694 นาโนเมตรซึ่งสามารถส่งพลังงานไปได้ถึงผิวหนังชั้นกลาง (Mid-Dermis) มีประโยชน์ด้านการลบรอยดำต่างๆ บนผิว ทั้งกระลึก ฝ้าหนา รอยสัก ปานดำ ปานน้ำตาล
- พลังงาน Alexandrite Laser เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่ผลิตจากผลึกแร่อเล็กแซนไดรท์ มีความยาวคลื่น 775 นาโนเมตร จึงส่งพลังงานลงไปได้ถึงชั้นผิวหนังชั้นลึก (Deep Dermis) มีความโดดเด่นด้านการลดเลือนจุดหรือรอยสีเข้มบนผิวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล เช่น กระลึก รอยฝ้าที่ออกสีดำคล้ำหรือสีน้ำตาลคล้ำ ปานดำ ปานน้ำตาล และสามารถลบรอยสักที่มีหลากสีได้
เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Q-Switch เปรียบเทียบกับเลเซอร์แบบอื่นๆ
เครื่อง Q-Switch มีคุณสมบัติการรักษาผิวแบบรอบด้าน ไม่ได้เจาะจงไปที่รอยดำหรือรอยแดงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แต่ยังสามารถลดรอยแดงจากสิว รักษารอยฝ้า รอยกระ ไฝ ปานดำ ปานแดง เส้นเลือดฝอย หรือแม้แต่โรคเชื้อราที่เล็บ (Onychomycosis) ก็สามารถใช้พลังงานเลเซอร์จากเครื่อง Q-Switch รักษาได้
เครื่อง Q-Switch ยังเด่นในเรื่องการลบรอยสักได้หลายสี ไม่ใช่เพียงรอยสักสีดำเท่านั้น และยังไม่สร้างแผลเป็นบนผิวเอาไว้หลังจากยิงเลเซอร์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อควรรู้ที่เปรียบเทียบกับเลเซอร์แบบอื่นๆ ดังนี้
- ระดับความแม่นยำ เครื่อง Q-Switch แบบเดิม ระดับความแม่นยำในการยิงพลังงานเลเซอร์ก็อาจไม่เทียบเท่ากับเครื่อง Q-Switch ที่ใช้พลังงานเลเซอร์แบบ Q-Switch Nd: YAG Laser แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์
- เจ็บมากกว่าเครื่องอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดในผู้ที่กลัวอาการเจ็บระหว่างทำหัตถการ
- ต้องใช้บริการหลายครั้งจึงจะเห็นผล ส่วนมากมักอยู่ที่ 3 ครั้งขึ้นไป ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของผู้เข้ารับบริการด้วย
Q-Switch เหมาะกับใคร?
เครื่อง Q-Switch เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์ต่อผู้ที่มีปัญหาผิวแบบรอบด้าน เช่น มีทั้งปัญหารอยแดง รอยดำ และอยากกำจัดขนไปพร้อมๆ กัน หรือผู้ที่มีทั้งรอยฝ้า รอยกระ และรอยปานที่อยากกำจัดออกไปด้วย
เครื่อง Q-Switch ยังเหมาะกับผู้ที่อยากกำจัดขนแบบกึ่งถาวร เพราะสามารถทำให้ปริมาณเส้นขนลดน้อยลงไปได้นานหลายเดือนจนถึงหลักหลายปี
การลบรอยสักด้วยเครื่อง Q-Switch ก็เป็นอีกทางเลือกในการลบรอยสักที่น่าสนใจ เพราะหลายสถานพยาบาลมีการตั้งราคาค่าลบรอยสักด้วยนวัตกรรมนี้ในราคาค่อนข้างถูก แต่ก็สามารถลบรอยสักได้หลายสีเช่นกัน เมื่อเทียบกับนวัตกรรมลบรอยสักตัวใหม่ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายแพงกว่านั้น
3. เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Picosecond
พลังงานเลเซอร์ Picosecond เป็นพลังงานเลเซอร์ที่มีระยะเวลาปล่อยพลังงานสั้นและรวดเร็วกว่านวัตกรรมอื่นๆ หลายเท่าตัว เมื่อคลื่นพลังงานถูกปล่อยออกมาจากหัวยิง ความยาวของคลื่นพลังงาน Picosecond จะซึมลงไปในชั้นผิวภายในเวลา 1 ในล้านล้านส่วนของ 1 วินาที
จากประสิทธิภาพความเร็วและสั้นของคลื่นพลังงานทำให้เม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติถูกคลื่นพลังงาน Picosecond สลายตัวให้แตกออกจากกันเป็นอนุภาคเล็กๆ ได้อย่างละเอียดส่งผลให้ผิวหนังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด และภายในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าเครื่องอื่นๆ
และด้วยความเร็วในการปล่อยพลังงานที่สั้นมาก จึงทำให้แสงเลเซอร์ไม่ได้ทิ้งความร้อนเอาไว้บนชั้นผิว ลดอาการแสบร้อนผิวระหว่างรับบริการได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้เครื่อง Picosecond มีชื่อเสียงด้านการรักษาฝ้าและกระได้เห็นอย่างเห็นผล สามารถลบรอยสักได้ทุกสี ทุกขนาดอย่างไม่จำกัด และยังโดดเด่นเรื่องการลดรอยสิว ปรับสภาพผิวหน้าที่หมองคล้ำ กระตุ้นคอลลาเจนเพื่อกระชับรูขุมขน รอยพับ รอยเหี่ยวย่น รอยแตกลาย และช่วยฟื้นฟูให้สุขภาพผิวดีขึ้น
เลเซอร์ฝ้า กระ ด้วย Picosecond เปรียบเทียบกับเลเซอร์แบบอื่นๆ
แบรนด์เครื่อง Picosecond ที่มักได้ยินชื่อติดหูตามท้องตลาดนั้นมีอยู่หลายแบรนด์ เช่น เครื่อง Picoway, เครื่อง Pico 450, เครื่อง Picosure ซึ่งแต่ละเครื่องก็จะมีประสิทธิภาพในการรักษาผิวมากน้อยไม่เท่ากัน แต่เป็นเครื่องยิงเลเซอร์ที่ใช้นวัตกรรมพลังงาน Picosecond เหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับเลเซอร์แบบอื่นๆ จะมีความแตกต่างดังนี้
- ฟื้นฟูผิวไปพร้อมกับการรักษา เนื่องจากประสิทธิภาพของพลังงานเลเซอร์ในเครื่อง Picosecond สามารถกระตุ้นการผลัดเซลล์คอลลาเจนไปพร้อมกับการแตกเม็ดสีที่ผิดปกติ ผิวจึงได้รับการรักษาอย่างละเอียด ทำให้เซลล์เม็ดสีที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวถูกทำลายอย่างหมดจดและทั่วถึง
- รักษาได้หลากหลายปัญหา ตั้งแต่รอยแดง รอยดำ ไปจนถึงริ้วรอยบนเนื้อผิว และยังใช้ควบคู่ในขั้นตอนรักษาหลุมสิวได้ รวมถึงเสริมความกระจ่างใสให้กับใบหน้าได้อีกด้วย
- เห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่รับบริการ หรืออาจตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา
- ความรู้สึกหลังยิงค่อนข้างเจ็บน้อย จากคลื่นพลังงานที่ไม่ได้ทิ้งความร้อนไว้บนผิว
- ใช้ความต่อเนื่องในการรักษา ถึงแม้เครื่อง Picosecond จะเป็นนวัตกรรมที่มีคุณภาพในการรักษาผิวสูงมาก แต่ในผู้เข้ารับบริการหลายท่านก็ยังต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการกลับมายิงเลเซอร์ในระยะหนึ่ง จึงจะทำให้ปัญหาลดลง
- ราคาสูง เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายรักษาผิวด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ตัวอื่น การรักษาปัญหาผิวด้วยเลเซอร์ Picosecond มักมีราคาค่อนข้างแพงกว่า ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจรักษาผิวของแต่ละสถานพยาบาล
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีสถานพยาบาลหลายแห่งนำเข้าแบรนด์เครื่องยิงเลเซอร์ Picosecond มาให้บริการหลายแบรนด์ แม้จะใช้พลังงานชนิดเดียวกันแต่อาจได้ประสิทธิภาพไม่เท่ากัน และยังขึ้นกับความเชี่ยวชาญในการออกแบบวิธีการรักษาจากแพทย์ด้วย
Picosecond เหมาะกับใคร?
เทคโนโลยี Picosecond เหมาะต่อผู้ที่นอกจากจะมีปัญหาเกี่ยวกับรอยด่างดำจากฝ้ากระแล้ว ยังมีปัญหาริ้วรอยแห่งวัยที่ทำให้ผิวมีรอยพับ รอยตีนกา และต้องการเครื่องเลเซอร์ที่จะเข้าไปฟื้นฟูสุขภาพผิวถึงภายในด้วย
ผู้ที่มีระยะเวลาในการรักษาผิวจำกัด หรือไม่ค่อยมีเวลาว่างเดินทางมารักษาผิวกับแพทย์ก็เหมาะต่อการใช้เครื่อง Picosecond รักษาปัญหาผิวเช่นกัน เนื่องจากเห็นผลลัพธ์ได้ค่อนข้างเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคนด้วย
เครื่อง Picosecond ยังเหมาะต่อการเป็นเทคโนโลยีคู่ใจในการรักษาปัญหาหลุมสิวด้วย เพราะในหลายสถานพยาบาลยังนิยมใช้นวัตกรรมตัวนี้ควบคู่ไปกับการทำ Subscision หรือการเลาะพังผืดหลุมสิว โดยจะใช้เครื่อง Picosecond ยิงเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวให้เกิดความกระจ่างใส ทำให้เนื้อผิวที่เป็นจุดคล้ำจากหลุมสิวมีสีสม่ำเสมอกัน
หรือผู้ที่มีปัญหาลบรอยสักบางสีไม่สำเร็จ ก็เหมาะต่อการใช้บริการลบรอยสักด้วยเครื่อง Picosecond เช่นกัน เพราะเป็นนวัตกรรมที่ลบรอยสักได้ทุกเฉดสี และทุกขนาด
เลเซอร์ฝ้ากี่ครั้งเห็นผล?
โดยทั่วไปแพทย์มักแนะนำให้ผู้เข้ารับบริการมาเลเซอร์ฝ้าอย่างน้อย 4-6 ครั้งขึ้นไป และต้องทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ไม่ควรทิ้งช่วงระหว่างการรักษาแต่ละครั้งนานเกินไป เพื่อให้ผลลัพธ์จากการรักษาเห็นผลได้จริง และรวดเร็ว
เลเซอร์ฝ้าแล้วจะเป็นอีกไหม?
ปัญหาฝ้าเป็นปัญหาที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถบรรเทาและประคองไม่ให้เซลล์เม็ดสีกลับมาผิดปกติจนเกิดเป็นรอยคล้ำบนผิวหน้าเพิ่มอีกได้
ดังนั้นถึงแม้ผู้เข้ารับบริการจะเลเซอร์ฝ้าครบจำนวนครั้งตามที่แพทย์แนะนำแล้ว ก็ยังต้องมีการดูแลและรักษาผิวไม่ให้เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดฝ้าต่อไปอีก
อย่างไรก็ตาม บางปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดฝ้าอย่างฮอร์โมนหรือความเสื่อมของผิวตามอายุ ก็เป็นปัจจัยที่ยากจะบังคับไม่ให้ก่อปัญหาฝ้ากับผิวได้ ผู้เข้ารับบริการที่มักเกิดฝ้าจากปัจจัยเหล่านี้อาจต้องปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้ปัญหาฝ้าเกิดขึ้นอีก หรือเกิดขึ้นได้น้อยที่สุด
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ฝ้า
ก่อนเลเซอร์ฝ้า ผู้เข้ารับบริการจำเป็นต้องเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนสักเล็กน้อย เพื่อให้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพผิวพร้อมต่อการเลเซอร์ลดเลือนรอยกระ เช่น
- แจ้งประวัติสุขภาพ ยาประจำตัว วิตามินเสริม อาหารเสริมทุกชนิด รวมถึงประวัติแพ้ยา แพ้สารบำรุงผิวหรือสารเพื่อความงามทุกชนิดกับแพทย์เสียก่อน
- งดทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของของวิตามินเอประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนรับบริการ หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับการงดผลิตภัณฑ์ตัวใด ให้สอบถามแพทย์ล่วงหน้าก่อนรับบริการ
- งดการทำหัตถการเกี่ยวกับผิวประมาณ 2-3 วันก่อนรับบริการ ทั้งการเลเซอร์ผิวแบบอื่นๆ การทำทรีตเมนต์ผิว สครับ ขัดผิว การโกน ถอน หรือแว็กซ์ขน
- งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือการออกไปในสถานที่ที่ทำให้ผิวสัมผัสแสงแดด ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนรับบริการ หรือหากจำเป็นต้องออกไปเผชิญแสงแดดจริงๆ ให้ทาครีมกันแดด สวมแว่นตา สวมหมวก และกางร่มเพื่อป้องกันผิวจากแสงแดดให้มากที่สุด
ขั้นตอนการเลเซอร์ฝ้า
การเลเซอร์ฝ้าอาจแตกต่างกันไปแล้วแต่แนวทางการให้บริการในแต่ละสถานพยาบาล แต่โดยหลักๆ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดผิว และลบเครื่องสำอางออกจากผิวบริเวณที่จะรักษา
- เจ้าหน้าที่ทายาชาทิ้งไว้บนผิวประมาณ 30-45 นาที บางสถานพยาบาลอาจมีการประคบเย็นหรือใช้เครื่องเป่าลมเย็นร่วมด้วยในระหว่างยิงเลเวอร์
- เมื่อผิวชาเต็มที่แล้ว แพทย์จะเริ่มยิงเลเซอร์ลงไปที่ผิวบริเวณที่มีฝ้าเกาะอยู่ทีละส่วน
- เมื่อเลเซอร์ฝ้าครบทุกตำแหน่งที่กำหนดแล้ว เจ้าหน้าที่จะทายาหรือครีมลดความระคายเคืองและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ จากนั้นผู้เข้ารับบริการสามารถกลับบ้านได้
การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์ฝ้า
ฝ้าเป็นปัญหาผิวที่ง่ายต่อการเกิดซ้ำ และสามารถขยายขนาดใหญ่ขึ้นได้ หากไม่ดูแลผิวอย่างเหมาะสมอยู่เสมอ ดังนั้นถึงแม้ผู้เข้ารับบริการจะเริ่มต้นการลดเลือนรอยฝ้าด้วยการยิงเลเซอร์แล้ว ก็ยังต้องมีการดูแลผิวไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดฝ้าเพิ่มอีกอย่างต่อเนื่อง เช่น
- ในช่วง 3-7 วันหลังเลเซอร์ฝ้า ผิวบริเวณที่เลเซอร์อาจมีอาการแสบ ตกสะเก็ด และมีรอยแดงได้ ให้งดการแกะ แคะ หรือเกาผิวบริเวณดังกล่าว
- หากรู้สึกแสบผิวให้ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการ
- ประมาณในช่วงสัปดาห์แรกหลังเลเซอร์ฝ้า ให้งดการทำหัตถการที่ผิวชั่วคราว เช่น การขัดผิว สครับผิว การทำทรีตเมนต์ การยิงเลเซอร์ประเภทอื่นๆ เพื่อให้ผิวจากการยิงเลเซอร์ฝ้าหายระคายเคือง หรือลดอาการเจ็บแสบลงเสียก่อน
- ควรทาครีมหรือเจลเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับดื่มน้ำให้มากๆ ทุกวัน เพราะผิวที่ผ่านการยิงเลเซอร์มักเผชิญกับปัญหาผิวแห้งจนตกสะเก็ดหรือเป็นขุยได้
- หลีกเลี่ยงการออกไปเผชิญแสงแดดจัดๆ อยู่เสมอ แต่หากจำเป็นต้องออกไปในที่โล่งแจ้ง ให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ ทุกครั้ง ร่วมกับใส่หมวก กางร่ม หรือพยายามอยู่ในที่ร่มให้มากที่สุด
- งดทำกิจกรรมในสถานที่ที่มีอุณภูมิสูงๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เช่น การแช่น้ำร้อน การซาวน่า การทำสปา
- หากต้องการทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลังจากเลเซอร์ฝ้า ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเสียก่อน เพราะบางส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บำรุผิวอาจไปกระตุ้นทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น
รับบริการรักษาฝ้า กระ ที่ La Grace Clinic
การพึ่งนวัตกรรมเครื่องยิงเลเซอร์ที่ล้ำสมัยอย่างเดียวอาจทำให้ปัญหาฝ้ากระไม่หมดไป แต่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในการออกแบบวิธีรักษาปัญหาผิวแต่ละแบบด้วย เพราะปัญหาฝ้า กระ ในผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านย่อมหนักเบาไม่เท่ากัน
การใช้วิธีรักษาเหมือนๆ กันหมดทุกคนจึงไม่ใช่แนวทางการรักษาฝ้า กระ ที่ตอบโจทย์ และยังเป็นตัวบ่งบอกถึงความใส่ใจและความละเอียดของทางสถานพยาบาลแห่งนั้นๆ เพราะถึงแม้ทางสถานพยาบาลจะมีเครื่องยิงเลเซอร์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพขนาดไหน หากแพทย์ไม่มีชำนาญมากพอ นวัตกรรมที่เหนือระดับเหล่านั้นก็ไร้ความหมาย
ต่างจากที่ La Grace Clinic ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่รวมทีมแพทย์ผู้ชำนาญการในการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์รักษาฝ้า กระ และปัญหาผิวรูปแบบต่างๆ ให้กับผู้เข้ารับบริการ สามารถวิเคราะห์และออกแบบวิธีรักษาให้เหมาะสม ช่วยฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงผิวที่เสื่อมโทรมให้กลับมาดูดีแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง
แพทย์ทุกท่านที่ La Grace Clinic รับมือกับทุกความยากและความท้าทายของปัญหาฝ้า กระ ที่เกิดขึ้นได้ทุกระดับ ผ่านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มีมาอย่างยาวนาน และมีการติดตามผลการรักษาทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลจริงของปัญหาผิวทุกรูปแบบ
รวมถึงเครื่องยิงเลเซอร์ที่ La Grace Clinic ทุกเครื่อง ทั้งเครื่อง Medlite C6 ซึ่งเป็นเครื่องยิงเลเซอร์ด้วยนวัตกรรมแบบ Q-Switch Nd:YAG Laser และเครื่องยิงเลเซอร์ Dual Yellow Laser ยังผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยามาแล้ว หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยและปัญหาเครื่องเลเซอร์ปลอม
นอกเหนือจากวิธีรักษาด้วยเครื่องยิงเลเซอร์ ทาง La Grace Clinic ยังออกแบบโปรแกรมรักษาฝ้า กระ ที่ประกอบไปด้วยกรรมวิธีรักษาที่หลากหลาย เช่น การผลักตัวยาลงสู่ผิว การมาสก์ผิวหน้า การทำความสะอาดผิวถึงชั้นลึกผ่านการพ่นก๊าซความเร็วเหนือแสง เพื่อให้ทุกรอยด่างดำบนผิวได้รับการรักษาอย่างหมดจดยิ่งขึ้น
เพราะการรักษาผิวที่ La Grace Clinic ไม่ได้เป็นเพียงการรักษาเพื่อแก้ไขความเสียหายของผิวที่เกิดขึ้นไปแล้วเท่านั้น แต่เป็นการปรับสภาพผิวให้กลับมาแข็งแรงใหม่เพื่อป้องกันความเสียหายของผิวที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคตด้วย
ผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ และยังไม่แน่ใจว่า แพ็กเกจหรือการ เลเซอร์รักษาฝ้า กระ ที่ไหนดี HDmall.co.th ขอแนะนำให้ La Grace Clinic เป็นตัวเลือกที่จะดูแลทุกปัญหาผิวหน้า และเลือกวิธีที่เหมาะกับคุณมากที่สุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทางไลน์ @HDcoth
บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ
- ข้อควรรู้ก่อนเลเซอร์รักษาฝ้า ตอบครบทุกข้อมูลโดยแพทย์
- หลุมสิวเกิดจากอะไร รักษาหายได้หรือไม่ วิธีรักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง?
ที่มาของข้อมูล
- DERMATOLOGY & CO, PIGMENTATION (https://www.dermatologyandco.sg/lasers-and-skin-procedures/lasers-and-skin-procedures-pigmentation/), 24 June 2022.
- Elizabeth Connor, What Are Freckles, Why Do They Appear, and More (https://www.healthline.com/health/what-are-freckles), 24 June 2022.