
HIFU ใช้คลื่นอัลตราซาวด์เข้มข้นช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิว Botulinum Toxin Nabota ใช้ Hi-Pure Technology ให้ท็อกซินความบริสุทธิ์ 98.7% และเมโสแฟต คือการฉีดสารที่ช่วยสลายไขมันเข้าสู่บริเวณที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าทำ HIFU New HIFU Revolution 200 ช็อต เพื่อเก็บเหนียง 1 ครั้ง
- ค่าฉีด Botulinum Toxin เกาหลี Nabota 50 ยูนิต 1 ครั้ง
- ค่าฉีดเมโสแฟต V-Line สลายไขมัน ลดแก้มและเหนียง เพื่อผิวกระชับ 5 เข็ม 1 ครั้ง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลาในการรับบริการแบบไม่ใช้ยาชาประมาณ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณและปริมาณที่ฉีด หากใช้ยาชาจะใช้เวลาประมาณ 60 นาที
- แพทย์จะประเมินสภาพผิวก่อนทำ
- โดยทั่วไปจะเห็นผลประมาณ 10-20% หลังทำ เพราะชั้นผิวจะหดตัวจากความร้อนที่ลงไปใต้ผิว เห็นผลเต็มที่ประมาณ 1-2 เดือนหลังทำ และอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
- อาจมีผลข้างเคียงในบางราย เช่น ผิวหนังมีผื่นแดง มีรอยเขียวจ้ำบนผิวหนัง เกิดการบวมอักเสบ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชั่วโมง
- หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ปวด บวม แดง ร้อน คัน หนังตาตก มุมปากตก หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ทันที
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำเช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสเตน วิตามินอี น้ำมันตับปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา)
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโรคเริม ควรรับประทานยาป้องกันเชื้อไวรัส 2 วันก่อนรับบริการ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย หรือซาวน่า ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- งดแต่งหน้า ทารองพื้น ทาแป้งในวันที่มารับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ
- ผู้ที่เคยติดเชื้อโรคเริมควรรับประทานยาป้องกันเชื้อไวรัสเป็นเวลา 6 วัน หลังรับบริการ
- ผิวบริเวณที่ทำอาจมีสีชมพูระเรื่อและบวมเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
- งดโดนแสงแดดจัด หรือความร้อนโดยตรง เช่น การนั่งหน้าเตาร้อนๆ ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก
- งดถูหน้าแรงๆ
- งดล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
- ควรทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดที่มี SPF 30+
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนที่กำลังสร้างตัวใต้ผิวหนัง
- ควรรับประทานเส้นใยคอลลาเจนเสริม และดื่มน้ำสะอาดวันละ 1-2 ลิตร
- ควรรับประทานอาหารโปรตีนสูง 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ไข่ขาว เนื้อไก่ไม่ติดมัน เนื้อปลา ถั่วเหลือง เป็นต้น
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
HIFU
ข้อห้ามสำหรับการรักษาด้วย HIFU
- สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- บริเวณที่ทำมีแผล ติดเชื้อ หรือเป็นสิวอักเสบ
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ไทรอยด์สูง แพ้ภูมิตัวเอง ลมชัก ใบหน้าเบี้ยวครื่งซีก
- ฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือโลหะในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)
- ผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์หรือ Botulinum Toxin ควรจะเว้นระยะเวลา 3-4 เดือนก่อนทำ HIFU หรือขึ้นอยู่กับแพทย์แนะนำ
- รักษาด้วยเลเซอร์ หรือ IPL ภายใน 1 เดือนที่ผ่านมา
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- โดยทั่วไปแล้วมักเห็นผลดีที่สุดในผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป
- ผู้มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ไม่เหมาะกับกรณีที่เป็นมาก
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- ยาที่รับประทานประจำ
- อาการแพ้ยา
- โรคประจำตัว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจรู้สึกอุ่น หรือเสียวแปลบบริเวณใบหน้าขณะทำการรักษา อาการอาจคงอยู่ 2-3 สัปดาห์
- อาการบวม หรือแดงเล็กน้อย สามารถหายได้เองภายใน 1-2 ชั่วโมง
- อาการรุนแรง เช่น อาการชาหรืออัมพาตชั่วคราว สามารถหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์
ฉีด Botulinum Toxin
- การฉีด Botulinum Toxin แต่ละบริเวณใช้จำนวนยูนิตไม่เท่ากัน ควรซื้อให้เพียงพอสำหรับที่ต้องการฉีด และปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย โดยทั่วไปมักใช้ปริมาณดังนี้
- ฉีดลดริ้วรอยทั่วหน้า ใช้ 50 ยูนิต
- ฉีดริ้วรอยเฉพาะที่ เช่น ตีนกา หรือ หน้าผาก หรือระหว่างคิ้ว ใช้ 30 ยูนิต
- ฉีดลิฟต์กรอบหน้า ใช้ 50 ยูนิต
- ฉีดลดกราม ใช้ 50-100 ยูนิต ขึ้นอยู่กับขนาดกราม
ข้อห้ามสำหรับการฉีด Botulinum Toxin Nabota®️
- ผู้ที่อายุไม่เกิน 20 ปี
- สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- ประวัติแพ้ยา สารอื่นๆ หรือ Botulinum Toxin ไม่ว่ายี่ห้อใดๆ
- ยาและวิตามินที่ใช้อยู่
- เคยมีปัญหาเลือดหยุดยาก
- เป็นโรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและประสาท เช่น ALS, myasthenia gravis หรือ Lambert-Eaton syndrome
- มีโรคประจำตัวหรือเข้ารับการรักษาอื่นๆ
- ได้รับการฉีด Botulinum Toxin ครั้งสุดท้ายมาไม่เกิน 4 เดือน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- มีอาการคัน เป็นผื่น บวม มีรอยแดงคัน
- ผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีปัญหาด้านการมองเห็น เวียนศีรษะภายในชั่วโมงหรือหลายสัปดาห์หลังจากฉีด หากมีอาการเหล่านี้ ห้ามขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมอื่นที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย
- เกิดความผิดปกติจากการกระจายของ Botulinum Toxin ไปที่บริเวณอื่นของร่างกาย เช่น หนังตาตก เสียงเปลี่ยน มีปัญหาการควบคุมปัสสาวะ
ข้อควรระวัง
- หากมีอาการหายใจลำบาก หายใจหอบ เวียนศีรษะ หรือจะเป็นลม ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาทันที
- หากมีปัญหาการกลืน การพูด การหายใจ ควรพบแพทย์ทันที
ฉีดเมโสแฟต
ข้อห้ามสำหรับการฉีดเมโสแฟต
- สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี
- ผู้ที่ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องให้อินซูลินอยู่เป็นประจำ
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหรือระบบไหลเวียนเลือด เช่น เส้นเลือดในสมองตีบ เส้นเลือดในสมองอุดตัน มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
- มีประวัติเลือดหยุดยาก หรือต้องใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งหรือโรคที่จำเป็นต้องใช้ยารักษาจำนวนมาก
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- มีอาการแพ้
- บวมหรือฟกช้ำบริเวณที่ฉีด
- เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง
- ผิวหนังบริเวณที่ฉีดสารมีสีเปลี่ยนแปลงไป
- เกิดแผลเป็นบริเวณที่ฉีดสารเข้าไป
- เกิดโรคชั้นไขมันอักเสบ (Panniculitis)
ข้อมูลทั่วไป
HIFU
HIFU⠀(ไฮฟู) หรือ High Intensity Focused Ultrasound เป็นเทคโนโลยีที่ใช้อัลตราซาวด์ความเข้มสูง ช่วยลดความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย และช่วยให้ผิวเรียบเนียน ค่อนข้างปลอดภัย ไม่เกิดแผลเป็น ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา และไม่ต้องพักฟื้น
HIFU ทำงานอย่างไร?
การรักษาด้วย HIFU เป็นการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มสูงลงลึกไปถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่ค่อนข้างลึก อยู่ติดกับชั้นกล้ามเนื้อ เป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าเทคโนโลยีอื่น
คลื่นที่ส่งไปมีลักษณะโฟกัสเป็นจุด เกิดเป็นพลังงานที่ทำให้อุณหภูมิที่จุดนั้นสูงขึ้นถึง 65-70 องศาเซลเซียสอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คอลลาเจนและเซลล์บางส่วนถูกทำลายแล้วหดตัว กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่
การหดตัวที่เกิดขึ้นและการเรียงตัวที่เป็นระเบียบกว่าเดิมของคอลลาเจนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ ทำให้ผิวกระชับ ริ้วรอยลดลง ผิวเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์ลงได้ อาจจะเห็นความแตกต่างทันทีหลังทำ และค่อยๆ เห็นชัดขึ้นอีกจนกระทั่งคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างโดยสมบูรณ์
หมายเหตุ
- เครื่องคุณภาพต่ำอาจให้พลังงานที่ไม่โฟกัสในบางจุด ไม่คงที่ในแต่ละช็อต หรือพลังงานลดลงระหว่างการใช้งาน
- เครื่องมือสามารถส่งพลังงานไปได้ลึกหลายระดับ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้เหมาะกับการรักษาในแต่ละคน
ฉีด Botulinum Toxin
Botulinum Toxin⠀เป็นสารที่รู้จักอย่างแพร่หลาย นิยมใช้ในวงการแพทย์เพื่อความงามในการลดริ้วรอยบนใบหน้า
ปัจจุบันโบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อที่ใช้เรียกทั่วไปแทนผลิตภัณฑ์สาร BotulinumtoxinA (botulinum toxin ชนิด A) ซึ่งผลิตได้จากเชื้อ Clostridium botulinum
Botulinum Toxin ลดริ้วรอยได้อย่างไร?
สาร BotulinumtoxinA จะไปยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทตรงปลายประสาทที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด Botulinum Toxin คลายตัว ริ้วรอยจึงลดลง
ในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin หลายยี่ห้อด้วยกัน แต่ละตัวอาจมีความแรงในการออกฤทธิ์และคุณสมบัติอื่นแตกต่างกันบ้าง แม้ว่าจะมีสารสำคัญเดียวกันคือ BotulinumtoxinA
คุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ Botulinum Toxin แต่ละชนิดเหมาะกับการแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้า และเทคนิคที่ใช้ในการฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการแตกต่างกัน ดังนั้นประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์จึงมีความสำคัญมาก
แพ็กเกจนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ Nabota®️
Nabota®️ จัดเป็น ‘ยาควบคุมพิเศษ’ ใช้เฉพาะสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอยู่ประจำ
ส่วนประกอบสำคัญ: Clostridium botulinum (Toxin Type A) 100 ยูนิต ต่อ vial
ส่วนผสมอื่นในผลิตภัณฑ์: โซเดียมคลอไรด์ (Sodium Chloride), HSA (Human Serum Albumin)
สายพันธุ์ของเชื้อ: _Clostridium botulinum _KJ997761
เลขทะเบียนตำรับยา: 1C 3/57 (BF)⠀(100 ยูนิต)
หมายเหตุ
- ปัจจัยบางอย่างทำให้ผลิตภัณฑ์ Botulinum Toxin แต่ละตัวแตกต่างกัน เช่น ชนิดของสายพันธุ์เชื้อที่ใช้ผลิต กระบวนการผลิต ขนาดโมเลกุลของสาร ปริมาณสารต่อยูนิต และส่วนผสมอื่นในผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
- เนื่องจากสารสำคัญ BotulinumtoxinA ในแต่ละผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างกัน จึงมีการใช้ชื่อเฉพาะ เช่น OnabotulinumtoxinA (Botox), IncobotulinumtoxinA (Xeomin), AbobotulinumtoxinA (Dysport), PrabotulinumtoxinA (Nabota)
- หน่วยที่เป็นยูนิตของแต่ละผลิตภัณฑ์ไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ ทั้งในแง่ของความแรง และคุณสมบัติเฉพาะอื่นๆ จึงทำให้ไม่สามารถใช้แทนกันเพื่อหวังผลลัพธ์ที่เหมือนกัน
เปรียบเทียบคุณสมบัติของ Botulinum Toxin
การกระจายตัว
Botox®️ (กระจายตัวน้อยสุด) < Neuronox®️ < Botulax®️ < Nabota®️ < Xeomin®️ < Dysport®️ (กระจายตัวมากสุด)
Botulinum Toxin ที่มีการกระจายตัวน้อยจะช่วยให้ออกฤทธิ์เฉพาะจุดได้ดี ไม่กระจายไปยังส่วนอื่นที่ไม่ต้องการมากนัก ในขณะที่ Botulinum Toxin ที่มีการกระจายตัวมากจะกระจายตัวออกจากจุดที่ฉีดได้ดีกว่า ช่วยให้ผลที่ได้ไม่ตึงจนเกินไป ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
อย่างไรก็ตามจะมีการกระจายมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ ความเข้มข้นของสารละลายที่ฉีด และปริมาณที่ฉีดด้วย
การดื้อยา
Xeomin เป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่ไม่ทำให้เกิดการดื้อยา เนื่องจากไม่มีโปรตีนส่วนที่ไม่ใช่สารสำคัญในการออกฤทธิ์ (complexing protein) ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นอาจทำให้เกิดการดื้อยาได้หากได้รับมากเกินไป
การดื้อยาและการป้องกัน
การดื้อยาสำหรับ Botulinum Toxin จะเป็นลักษณะที่ฉีดแล้วเห็นผลน้อยลงหรือไม่ได้ผล อาจเกิดขึ้นได้หากฉีดในปริมาณมากหรือถี่จนเกินไป ซึ่งอาจป้องกันได้ดังนี้
- ควรฉีดในปริมาณน้อยที่สุดที่สามารถลดริ้วรอยที่ต้องการได้ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน
- ฉีดแต่ละครั้งควรห่างกันมากกว่า 12 สัปดาห์
ฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต⠀(Meso Fat) คือ การฉีดตัวยาที่ช่วยสลายไขมันลงในชั้นไขมันตื้นๆ ใต้ผิวหนัง เพื่อลดไขมันเฉพาะจุด เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย นิยมฉีดเพื่อลดไขมันบนใบหน้าเพื่อลดแก้ม เหนียง ทำให้หน้าเรียวขึ้น ฉีดต้นแขน ต้นขา น่อง สะโพก หรือส่วนที่มีไขมันที่ลดไม่ค่อยลงแม้จะออกกำลังกายแล้ว
ข้อดีของเมโสแฟต
- ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นได้
- ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดหรือเซลลูไลต์ได้
- สามารถลดไขมันได้โดยไม่ต้องดูดไขมันหรือผ่าตัด
ต้องฉีดกี่ครั้งจึงเห็นผล?
การฉีดเมโสแฟตอาจเห็นผล 10-20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่การรักษามักต้องทำซ้ำเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการรักษา ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน ความห่างของการฉีดแต่ละครั้งไม่แน่นอน ควรสอบถามแพทย์หากมีข้อสงสัย
เจ็บหรือไม่?
อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา จะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บหากจำเป็น และอาจแปะยาชาก่อนทำร่วมด้วย
หมายเหตุ
- เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และสถานบริการที่เชื่อถือได้
- สารสำหรับฉีดเมโสแฟตมีหลายตัว ควรปรึกษาแพทย์ให้เข้าใจก่อนรับบริการ
- หลังทำควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์หรือพยาบาลอย่างเคร่งครัด
ที่อื่นที่ให้บริการเสริมสวยหลายรายการในแพ็กเดียว ฟื้นฟูผิวหน้า ผิวกาย ดูแลรูปร่าง คอร์สเจ้าสาว ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Divine Aesthetic Clinic ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Divine Aesthetic Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันศุกร์-พุธ (หยุดวันพฤหัสบดี) 13.30-20.00 น.
-
MRT สถานีห้วยขวาง (ทางออก 1) ต่อวินมอเตอร์ไซค์ไปประชาอุทิศ 19 คลินิกอยู่ติดกับร้านอาหารมัลดีฟส์
-
จอดรถที่คลินิก
-
จ่ายบัตรเครดิตได้ ไม่มีขั้นต่ำ มีค่าธรรมเนียม 3%