ผสานเทคโนโลยี RF นวดสุญญากาศ และการฉายแสง LED เพื่อปรับสภาพผิวหน้า
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่ายกกระชับปรับหน้าใส ด้วยเครื่อง Ultra Lift 1 ครั้ง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 20 นาที
- Ultra Lift ใช้ 3 เทคโนโลยีในเครื่องเดียว ได้แก่ Multipolar RF Vacuum และ LED Therapy
- สามารถทำได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำติดต่อกันประมาณ 5-10 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อช่วยขับไขมันออกจากร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ที่จะสร้างความร้อนสะสมในชั้นผิวช่วง 1-3 วันหลังรับบริการ
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
RF
ข้อห้ามสำหรับการทำ RF
- ผู้ที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน หรืออยู่ในช่วง 3 วันก่อนหรือหลังการมีประจำเดือน
- ผู้ที่สูญเสียความรู้สึก หรือการรับความรู้สึกบกพร่องหรือช้า
- ผู้ที่เป็นโรคไต ผู้ที่มีโรคที่เกิดจากระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ และผู้ที่เพิ่งคลอดบุตรมาไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ที่มีประวัติเป็นลมชัก
- ผู้ที่บริเวณที่ต้องการทำมีการอักเสบ แผลถลอก เคยได้รับการผ่าตัดมาไม่ถึง 6 เดือน หรือแผลผ่าตัดยังไม่หายสนิท
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรทำบริเวณไรผม
- ก่อนรับบริการไม่ควรบีบสิว สครับผิว หรือปล่อยให้ผิวโดนแสงแดดจัด
- ถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิดก่อนเริ่มทำ เพื่อป้องกันการช็อต
- ห้ามผู้รับบริการและผู้ให้บริการสัมผัสตัวกัน รวมถึงไม่ควรขยับตัวบ่อย เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้
- ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะทำ เพราะคลื่นจากโทรศัพท์จะรบกวนคลื่นวิทยุทำให้
- เครื่องมือเสียหายได้
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นฝ้า เพราะความร้อนจะทำให้ผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น
Vacuum
ข้อห้ามสำหรับการทำ Lipo Vacuum
- ผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือกำลังตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่เพิ่งคลอดบุตรหรือผ่านการตั้งครรภ์มาไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ที่มีบาดแผลผ่าตัดบริเวณที่จะรับการรักษา
- ผู้ที่ใส่อุปกรณ์ควบคุมการเต้นของหัวใจ
- ผู้หญิงที่มีประจำเดือน
LED Therapy
ข้อห้ามสำหรับการฉายแสงบำบัดผิว
- ผู้ที่กำลังใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือยารักษาสิวที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ
- ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวไวต่อแสง เช่น ครีมหรือสารเคมีที่ช่วยในการผลัดผิว ยาทาแก้สิว Retinoic acid เป็นต้น
- ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีสิวอักเสบจำนวนมากและไม่ต้องการใช้ยาแบบรับประทาน
- ผู้ที่มีสิวหายยากจากการดื้อยา
- ผู้ที่มีปัญหารอยแดง รอยดำ
- ผู้ที่มีปัญหาสิวกลับมาเป็นซ้ำ
- ผู้ที่มีรอยแผลเป็นบางชนิด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงจากการฉายแสงบำบัดผิวเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก จึงควรรีบติดต่อแพทย์ทันทีหากเกิดอาการเหล่านี้หลังรับบริการ
- อาการอักเสบเพิ่มขึ้น
- ผื่น รอยแดง
- อาการเจ็บ หรือกดเจ็บ
- อาการของโรคลมพิษ คัน ผิวหนังเป็นผื่นแดง แสบ บวม
ข้อมูลทั่วไป
RF
RF (Radio Frequency) เป็นเทคโนโลยีด้านผิวพรรณที่ใช้คลื่นวิทยุช่วยยกกระชับผิว โดยไม่ต้องศัลยกรรม โดยก่อนหน้านี้ได้มีการนำเทคโนโลยี RF มาใช้รักษาโรคผิวหนังเป็นส่วนใหญ่ เช่น การกำจัด ไฝ ขี้แมลงวัน หูด ติ่งเนื้อ กระเนื้อ เนื้องอก ผิวหนัง เป็นต้น จนได้นำมาใช้ในแวดวงความงามและพัฒนา RF ให้มีความสามารถหลากหลาย มีประสิทธิภาพมากขึ้น
คลื่น RF ทำงานอย่างไร?
เครื่องมือ RF หรือ Radio Frequency ทำงานโดยการนวด พร้อมกับปล่อยพลังงานในรูปของกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เกิดเป็นคลื่นวิทยุที่สามารถทะลุผ่านผิวชั้นบนเพื่อไปเพิ่มอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นที่ลึกลงไป ทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดที่ดีกว่าเดิม ช่วยสลายไขมัน และกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในแต่ละชั้นผิวหนัง
การส่งผ่านคลื่นวิทยุลงไปในผิวหนัง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนังแต่ละชั้นดังนี้
-⠀ผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)⠀ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไป ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
-⠀ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis)⠀มีการไหลเวียนของเลือดที่มากกว่าเดิม กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินให้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวกระชับและริ้วรอยลดลง
-⠀ผิวชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat)⠀ช่วยสลายไขมันและเซลลูไลต์ แล้วกำจัดออกทางกระแสเลือด ทำให้ผิวเนียนกระชับ
ข้อควรปฏิบัติหลังการใช้คลื่น RF
- ดื่มน้ำเปล่าเฉลี่ย 3-4 ลิตรภายใน 24 ชั่วโมงหลังทำ โดยวันถัดไปให้ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อระบายของเสียที่คั่งค้างในร่างกายออกไปให้เร็วที่สุด
- ควรควบคุมอาหาร โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมันเพื่อป้องกันไขมันส่วนเกินมาสะสมใหม่ และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
- ควรใช้วิธีการรักษานี้ควบคู่ไปกับการทำทรีตเมนต์อื่นๆ ตามที่แพทย์แนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้รวดเร็วขึ้น
หมายเหตุ
- ระยะเวลาในการรับบริการขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำการรักษา เช่น หากต้องการกระชับสัดส่วนร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที แต่หากต้องการยกกระชับใบหน้า อาจใช้ระยะเวลา 15-30 นาที เป็นต้น
- ระหว่างทำจะรู้สึกอุ่นในบริเวณที่ทำ และผิวอาจเป็นสีชมพูหรือแดงหลังรับบริการ เนื่องจากเกิดการขยายตัวของหลอดเลือดที่มาหล่อเลี้ยงผิวบริเวณนั้น ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายได้เอง ภายใน 1-2 วัน
- บริเวณที่ทำต้องทาเจลช่วยหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ผิวไหม้ได้
Vacuum
Lipo Vacuum เป็นการใช้เครื่องดูดสุญญากาศในการนวดเพื่อสลายไขมันใต้ผิวหนังหรือเซลลูไลต์ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงต่ำ และผลข้างเคียงน้อย
สลายเซลลูไลต์ได้อย่างไร?
การนวดด้วยสุญญากาศจะทำให้ไขมันหรือเซลลูไลต์ใต้ชั้นผิวหนังอ่อนตัวลง และยังกระตุ้นให้การไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลืองดีขึ้น ช่วยกำจัดไขมันที่สลายตัวออกจากร่างกาย ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับ
หมายเหตุ
- ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ และเพศของแต่ละบุคคล
LED Therapy
การฉายแสงบำบัดผิว (Light-Emitting Diode: LED)⠀คือการฉายแสงความเข้มสูงมาช่วยกระตุ้นกลไกการฟื้นฟูของเซลล์ผิว โดยแสงที่ใช้รักษาจะมีหลายสี แต่ละสีต่างก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ เช่น ลดจุดด่างดำและริ้วรอยแผลเป็นจากสิว กำจัดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น
ข้อดี
- ไม่มีรังสีอัลตราไวโอเล็ต สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย
- ไม่ทำให้ผิวไหม้ สามารถใช้ได้กับทุกสีผิวและทุกสภาพผิว
แสงแต่ละสีมีประโยชน์อย่างไร?
- แสงสีฟ้า ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบติดเชื้อ จึงช่วยรักษาสิวและลดการอักเสบของผิวโดยไม่ทำให้ดื้อยา
- แสงสีเขียว ช่วยลดการสร้างเม็ดสี รอยแดง จุดด่างดำ ฝ้า กระ และรักษาเส้นเลือดฝอยที่ขยายตัว รวมถึงผิวหนังรอบดวงตาหย่อนคล้อย
- แสงสีเหลือง มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับแสงสีเขียว แต่เพิ่มคุณสมบัติในการกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น
- แสงสีแดง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ซึ่งช่วยลดการอักเสบของผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมเซลล์ ลดริ้วรอยบนใบหน้า รอยแผลเป็น กระชับผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น มักใช้คู่กับแสงสีฟ้าในกรณีที่ต้องมีการกดสิว โดยแสงสีแดงจะช่วยให้ไม่ทิ้งรอยหลุมสิวไว้บนใบหน้า
หมายเหตุ
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
- หากรับประทานยาหรือมีปัญหาเกี่ยวกับผิว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- การฉายแสงอย่างเดียวอาจทำให้ผิวแห้งหลังจากทำเสร็จ ควรทำทรีตเมนต์ผิวควบคู่ไปด้วย
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ วลีรัตน์คลินิก (Waleerat Clinic) ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ วลีรัตน์คลินิก (Waleerat Clinic) อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 11.00-20.00 น.
-
ใช้ BTS ลงสถานีสยาม (ทางออก 4 ) เดินเข้าศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน คลินิกอยู่ชั้น 2
-
มีที่จอดรถในสยามสแควร์วัน ค่าจอดรถชั่วโมงละ 20 บาท
-
จ่ายบัตรเครดิตได้ ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 11-00-20.00 น.
-
สามารถจอดรถได้ที่ตึกจอดรถ VERANDA ชั้น 3 เมื่อเดินเข้าตัวห้างจะเป็นชั้นเดียวกับคลินิก ไม่มีค่าใช้จ่ายในการจอดรถ
-
จ่ายบัตรเครดิตได้ ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม