19,871 บาท*

หากต้องการเลื่อนนัดหมายต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน หากต้องการประเมินเเล้วเข้าผ่าตัดเลยในวันเดียวกันต้องจ่ายค่ามัดจำก่อน 1,000 บาท
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
💵 ลดเพิ่ม 900 บาท เมื่อชำระค่าแพ็กเกจผ่านแอดมินทางไลน์ ด้วยวิธีโอนเงินเข้าบัญชีของ HDmall เท่านั้น (ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ได้)
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าเสริมจมูก ด้วยซิลิโคนอเมริกา Premium Perfect สำหรับเคสแก้
- ค่าปรึกษาก่อนรับบริการ
- ค่ายา
- ค่าตัดไหม
หมายเหตุ
หากต้องการรับบริการอื่นๆ นอกเหนือจากแพ็กเกจ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน เช่น
- ค่าเพิ่มเนื้อเยื่อเทียม 4,500 บาท
- ค่าตอกฐานจมูก 10,000 บาท
- ค่าเสริมกระดูกอ่อนหลังหู 7,000 บาท
- ค่าตอกฮัมพ์เพื่อแก้สันจมูก 5,000 บาท
- กรณีเคยฉีดฟิลเลอร์หรือสารเหลวมาก่อน จะต้องขูดออกก่อนเสริมจมูก มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 5,000 บาท
- หากต้องการประเมินเเล้วเข้าผ่าตัดเลยในวันเดียวกัน ต้องจ่ายค่ามัดจำ 1,000 บาท
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- ควรนัดหมายล่วงหน้า หากต้องการเลื่อนนัดหมายต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน
- บริการนี้เหมาะกับผู้ที่จมูกมีเนื้อน้อย สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- จะวัดสัญญาณชีพก่อนผ่าตัด กรณีที่มีความดันโลหิตสูง ให้แจ้งแพทย์และควรงดการผ่าตัดไปก่อน
- ใช้ยาชาเฉพาะที่ในการผ่าตัด ไม่มีการใช้ยาสลบ
- ก่อนแพทย์จะปิดแผลผ่าตัด แพทย์จะให้ผู้รับบริการตรวจดูรูปทรงของจมูกและความเรียบร้อยต่างๆ หลังจากผู้รับบริการพอใจแล้ว จึงจะเย็บปิดแผล ซึ่งหากต้องการแก้ไขรูปทรง สามารถแจ้งกับแพทย์ได้ในขั้นตอนนี้ เมื่อยืนยันแล้ว ทางคลินิกจะไม่สามารถแก้ไขรูปทรงให้ได้อีก
- ควรมีญาติหรือเพื่อนมารับกลับ
- โดยทั่วไปมักเห็นผลภายใน 2 เดือนหลังผ่าตัด และมักจะเข้าที่โดยสมบูรณ์ในเดือนที่ 6 ซึ่งหากวางซิลิโคนได้ดี เมื่อจมูกรัดแกนจะไม่เห็นขอบซิลิโคน
- ทางคลินิกใช้ซิลิโคน 2 รูปทรง คือ พรีเมียมปกติ และพรีเมียมแมนทิส ทรงตั๊กแตน และใช้ซิลิโคนอเมริกา ที่มีความยืดหยุ่นดี เหลารูปทรงให้รับกับใบหน้าได้ โดยความนิ่มและยืดหยุ่นจะขึ้นอยู่กับแต่ละชนิด คือ Basic, Premium, Premium Soft, Premium Plus และ Premium Perfect
- ดูแลโดยคุณหมอ พลอยเพชรรัตน์ ตัน พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลผู้ชำนาญการดูแลใกล้ชิด
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- สิ่งที่ต้องส่งให้แพทย์ประเมินก่อนรับบริการ ได้แก่
- รูปถ่าย ทั้งหน้าตรงและหันข้าง
- รายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับการเสริมจมูก เช่น เคยเสริมมาก่อนหรือไม่ ภายในระยะกี่ปี เคยเสริมหรือฉีดสารอื่นๆ มาก่อนหรือไม่ เป็นต้น กรณีที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน จะรับเฉพาะเคสที่ฉีดจากโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น
- หลังจากประเมินแล้ว แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการเสริมจมูกที่เหมาะสมกับแต่ละท่าน โดยจะนำซิลิโคนทุกชนิดมาให้ผู้รับบริการได้ดูและสัมผัส พร้อมอธิบายคุณสมบัติของซิลิโคนแต่ละชนิด เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- การแก้จมูกที่เคยเสริมมาก่อน โดยไม่ได้มีอาการผิดปกติใดๆ สามารถถอดและเสริมใหม่ได้ในวันเดียวกัน แต่หากซิลิโคนทะลุหรือมีอาการบาดเจ็บบริเวณจมูกที่เคยเสริมมา จะต้องเว้นระยะ 3 เดือนก่อนเสริมใหม่
การดูแลหลังรับบริการ
- ในวันที่ 1, 3 และ 7 หลังเสริมจมูก แพทย์จะประเมินอาการอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยให้ผู้รับบริการถ่ายภาพบริเวณที่ผ่าตัด แล้วส่งมาทาง LINE ของคลินิก
- หากพบอาการผิดปกติ เช่น แดง บวมมากกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นการติดเชื้อ แพทย์จะนัดให้เข้ามาตรวจสอบอาการที่คลินิกทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ต้องระบุอาการ ความผิดปกติ สาเหตุที่เป็นไปได้ให้ครบถ้วน และรีบแจ้งทันทีที่มีอาการ
- แพทย์จะจัดตัดไหมหลังรับบริการประมาณ 14 วัน
- แพทย์จะติดตามอาการในเดือน 1, 3 และ 6 หลังผ่าตัด หากเกิดความผิดปกติที่เกี่ยวกับเทคนิคทางการแพทย์ เช่น เอียง เบี้ยว เป็นต้น คลินิกจะรับประกันทั้งหมด
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
- การผ่าตัดแก้ไขจมูก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาให้ตรงกับความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
- ควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับการงดรับประทานยา วิตามิน อาหารเสริม หรือเครื่องดื่มที่อาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัด
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดแก้ไขจมูก
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี (HIV)
- ผู้ที่เป็นหวัด มีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนทำ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่เสริมจมูก แล้วซิลิโคนเบี้ยว เอียง ไม่อยู่กึ่งกลางริมฝีปากบน
- ผู้ที่ปลายจมูกบางใส เจ็บ เสียวปลายจมูก ปลายจมูกแดง ปลายจมูกงุ้มผิดปกติ หรือซิลิโคนทะลุออกมา (จะต้องไปพบแพทย์ทันที)
- ผู้ที่มีอาการอักเสบหลังการเสริมจมูก เช่น ปวด เจ็บ บวมแดง มีน้ำขุ่นๆ หรือหนองไหลออกมาจากแผลผ่าตัด
- ผู้ที่เสริมจมูก แล้วจมูกผิดรูป ดูใหญ่ หรือผิวไม่เรียบ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชา หรือยาสลบที่ใช้
- มีอาการบวม ชาบริเวณจมูก
- มีแผลเป็นบริเวณฐานจมูก
- เส้นประสาทถูกทำลายถาวร
- สังเกตเห็นซิลิโคนที่ใช้เสริม
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากซิลิโคนเคลื่อน เบี้ยว หรือทะลุ
ข้อมูลทั่วไป
การผ่าตัดแก้ไขจมูก เป็นการผ่าตัดแก้ไขจมูกในกรณีที่ผ่านการเสริมจมูกด้วยวัสดุต่างๆ เช่น ซิลิโคน เนื้อเยื่อของตนเอง หรือการฉีดฟิลเลอร์ แล้วไม่พึงพอใจในผลลัพธ์ หรือเกิดผลข้างเคียงหลังการเสริมจมูก เช่น ซิลิโคนเบี้ยว ปลายจมูกบาง หรือแผลติดเชื้อ โดยแพทย์จะเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมกับแต่ละกรณี
การผ่าตัดเสริมซิลิโคนที่จมูกใหม่ ทำได้เมื่อไร?
ส่วนใหญ่แล้วสามารถทำได้ทันทีหลังจากที่นำวัสดุเสริมจมูกเดิมออก อย่างไรก็ตาม หากมีการอักเสบ หรือแผลติดเชื้อ จะต้องเข้ารับการรักษาให้หายดีก่อน โดยระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ตัวอย่างปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการผ่าตัดเสริมจมูก
การผ่าตัดแก้ไขจมูกจะขึ้นอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น และการประเมินของแพทย์ เช่น
- ซิลิโคนเบี้ยว เอียง แก้ไขด้วยการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อนำซิลิโคนเก่าออกและเลาะพังผืดออก ปรับโครงสร้างจมูกที่อาจเป็นสาเหตุให้ซิลิโคนเบี้ยว เช่น จมูกคด หรือสันจมูกที่มีลักษณะนูน (ฮัมป์) แล้วเสริมซิลิโคนใหม่
- ปลายจมูกบาง ทะลุ แก้ไขด้วยการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อนำซิลิโคนเก่าและเลาะพังผืดออก ปรับโครงสร้างจมูกเดิม และเสริมซิลิโคนใหม่ โดยแพทย์อาจรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อของผู้เข้ารับการผ่าตัด เช่น กระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อไขมัน หรือเนื้อเยื่อเทียม เพื่อป้องกันการทะลุ
- แผลผ่าตัดเสริมจมูกอักเสบ แก้ไขด้วยการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อนำซิลิโคนเก่าและเลาะพังผืดออก รักษาอาการอักเสบ หรือแผลติดเชื้อให้หายเป็นปกติ แล้วเสริมซิลิโคนใหม่ในภายหลัง
- ปัญหาจากการเสริมจมูกด้วยการฉีดซิลิโคนเหลว แก้ไขด้วยการผ่าตัดแบบเปิดเพื่อเลาะสารซิลิโคนและพังผืดออก ปรับโครงสร้างจมูกเดิม และเสริมซิลิโคนใหม่ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการอักเสบร่วมด้วย จะต้องรักษาการอักเสบให้หายดีก่อน
คลินิกและโรงพยาบาลอื่นที่มีบริการ เสริมจมูก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Mena Clinic ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วชำระเงินที่คลินิก รับส่วนลดทันที
- กด 'จองเลย' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินก่อนรับบริการ (อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก)
- ถ้าคุณหมอพิจารณาว่าสามารถรับบริการได้ และลูกค้าต้องการรับบริการทันที สามารถชำระเงินพร้อมรับส่วนลดได้เลย ณ คลินิก โดยแจ้งฝ่ายการเงินว่า 'ชำระราคาพิเศษผ่าน HDmall'
- นำหลักฐานการชำระเงิน เช่น Pay Slip, อีเมล หรือ SMS แสดงแก่เจ้าหน้าที่คลินิกก่อนรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางคลินิกจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Mena Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันพุธ-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์-อังคาร) 12.00-19.00 น. (รับคิวสุดท้าย 18.30 น.)
-
ใช้ BTS ลงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (ทางออก 3) จากนั้นต่อแท็กซี่เข้า ถ. ลาดปลาเค้า ไปประมาณ 5 นาทีดึง The Jas คลินิกอยู่ชั้น 2
-
มีที่จอดรถใน The Jas
-
จ่ายบัตรเครดิตได้ ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม