นวดสวีดิช ผ่อนคลาย ฟื้นฟูร่างกาย


https://www.shutterstock.com/th/image-photo/portrait-young-beautiful-woman-spa-1445399105

การนวดเป็นศาสตร์การบำบัดประเภทหนึ่งและได้ความนิยมมายาวนาน ปัจจุบันการนวดได้พัฒนารูปแบบและเทคนิคมาหลายแบบเพื่อให้เหมาะกับอาการและความพึงพอใจของผู้รับบริการ หนึ่งในนั้นคือการนวดสวีดิชซึ่งเป็นศาสตร์การนวดที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงจากฝั่งยุโรป

ในบทความนี้ HDmall.co.th ได้รวบรวมข้อควรรู้และน่าสนใจต่างๆ ในการนวดสวีดิชมาฝากกัน


เลือกอ่านข้อมูลนวดสวีดิชได้ที่นี่

  • นวดสวีดิชคืออะไร?
  • นวดสวีดิชเหมาะกับใคร?
  • นวดสวีดิชไม่เหมาะกับใคร?
  • นวดสวีดิชต่างกับนวดแบบอื่นยังไง?
  • ประโยชน์ของการนวดสวีดิช
  • การเตรียมตัวก่อนนวดสวีดิช
  • ขั้นตอนการนวดสวีดิช
  • ขั้นตอนการนวดสวีดิช
  • การดูแลตัวเองหลังนวดสวีดิช

  • นวดสวีดิชคืออะไร?

    นวดสวีดิช (Swedish Massage) เป็นศาสตร์การนวดที่ได้รับความนิยมในฝั่งยุโรป จัดเป็นการนวดขั้นพื้นฐาน (Classic Massage) ของชาวยุโรป เทคนิคการนวดหลักๆ คือการลูบ การบีบ การเคาะ การกด และการเขย่า น้ำหนักที่ใช้ในการนวดไม่มาก มุ่งเน้นที่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อชั้นบนและลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ

    นวดสวีดิชเหมาะกับใคร?

    การนวดสวีดิชเหมาะกับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมท่าเดิมซ้ำๆ เช่น ผู้ที่ต้องนั่งหรือยืนทำงานในโรงงานนานๆ ผู้ที่นั่งทำงานออฟฟิศทั้งวัน เป็นต้น

    นวดสวีดิชไม่เหมาะกับใคร?

    แม้การนวดสวีดิชจะมีประโยชน์มากและเป็นที่นิยม แต่ไม่เหมาะกับผู้ใช้บริการที่มีลักษณะดังนี้

    • ผู้ที่เป็นมะเร็ง ควรงดนวดบริเวณที่เป็นมะเร็ง เพราะการออกแรงนวดอาจทำให้ก้อนเนื้อมะเร็งได้รับการกระทบกระเทือนหรือแตกได้
    • ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บหรืออักเสบเฉียบพลัน บวม แดง ร้อน เพราะการออกแรงนวดอาจทำให้อาการบาดเจ็บบอบช้ำมากกว่าเดิม
    • ผู้ป่วยภาวะหลอดเลือดอุดตันห้ามนวด เพราะการนวดสวีดิชมีทั้งการบีบ กด เคาะ และเขย่าตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้เส้นเลือดได้รับแรงนวดโดยตรงจึงเสี่ยงที่ลิ่มเลือดจะไปอุดตันหลอดเลือดที่เลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้
    • ผู้ที่กระดูกแตก หัก ร้าว ที่ยังไม่หายดี เพราะอาจทำให้กระดูกอาจหักซ้ำได้
    • ผู้ที่เป็นโรคติดเชื้อทางผิวหนังทุกชนิด เพราะการนวดเป็นการสัมผัสตัวกันโดยตรง ทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อสูง
    • สตรีมีครรภ์ควรงดเว้น เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนทารกในครรภ์จากการนวด
    • ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุน กระดูกบาง
    • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง

    นวดสวีดิชต่างกับนวดแบบอื่นยังไง?

    การนวดสวีดิชเป็นการนวดที่มีเทคนิคการนวดหลักๆ คือ การลูบ การบีบ การเคาะ การกด และการเขย่า โดยใช้น้ำหนักการนวดไม่มากนัก มุ่งเน้นที่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อชั้นบน เพื่อลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ ซึ่งมีเทคนิคและเป้าหมายที่ต่างจากการนวดแบบอื่นๆดังนี้

    • นวดไทย (Thai Massage) เป็นการใช้ศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มือ เท้า แขน ศอก เข่า และเท้าในการนวด เน้นการกด การคลึง การบีบ การดัด การดึง การอบและประคบ
    • การนวดอโรม่า (Aromatherapy Massage) หรือ นวดน้ำมันอโรม่า เป็นการนวดด้วยน้ำมันหอมระเหย ที่ทำขึ้นจากพืชและสมุนไพรต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพ การนวดนี้ไม่เน้นการลงน้ำหนัก แต่เน้นให้เป็นการผ่อนคลาย สบายตัว ลดความอ่อนเพลียและการตึงของกล้ามเนื้อ โดยมีน้ำมันช่วยในการเพื่มความชุ่มชื่น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ สดใส
    • นวดกดจุด (Deep Tissue Massage) เป็นการนวดคล้ายกับการนวดสวีดิช แต่มีน้ำหนักการนวดมากกว่า เพื่อให้ลงไปถึงกล้ามเนื้อส่วนลึก ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ กล้ามเนื้อ ปรับสมดุลของร่างกาย
    • นวดสปอร์ต (Sports Massage) สามารถนวดได้ทั้งก่อนการเล่นกีฬา ระหว่างการเล่นกีฬา และหลังการเล่นกีฬา โดยที่ไม่ทำให้กล้ามเนื้อได้รับการบาดเจ็บ จำเป็นอย่างยิ่งต้องได้รับการนวดจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง การนวดสปอร์ตจะนวดกล้ามเนื้อส่วนลึกข้างใน จึงใช้น้ำหนักการนวดค่อนข้างแรง

    ประโยชน์ของการนวดสวีดิช

    การนวดสวีดิชนอกจากจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย รู้สึกสดชื่นแล้วยังมีปะโยชน์หลักอื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้

    • ช่วยกระตุ้นในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย การนวดทำให้หลอดเลือดขยายตัวทำช่วยการไหลเวียนกลับของหลอดเลือดดำ และเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงเข้ามาแทนที่มากขึ้น ส่งผลให้เซลล์กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนและสารอาหารอย่างเพียงพอ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย โดยเฉพาะกรดแลคติค (2-Hydroxypropanoic Acid) ซึ่งเป็นสาเหตุอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออักเสบ และเป็นสาเหตุการสะสมของเสียในร่างกาย
    • บรรเทาอาการปวดเมื่อย ช่วยคลายความปวดเมื่อยของร่างกาย เช่น อาการออฟฟิศซินโดรม อาการเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือเล่นกีฬา
    • ช่วยให้กล้ามเนื้อคงรูปได้สัดส่วน ไม่ห่อเหี่ยว โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียงที่นอนตลอดเวลา กล้ามเนื้อจึงไม่ได้ใช้งานทำให้เหี่ยวลีบลงเรื่อยๆ การนวดสวีดิชสามารถช่วยทดแทนการออกกำลังได้บางส่วน และช่วยให้กล้ามเนื้อไม่ลีบเร็วเกินไป
    • ช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อที่ไม่ค่อยใช้งาน ทำให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นได้ดีขึ้น
    • ช่วยรักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งหรือกล้ามเนื้อขมวดปม โดยอาการกล้ามเนื้อขมวดปมเกิดจากเส้นใยของกล้ามเนื้อเมื่อยล้าพันกันยุ่งเหยิง หดตัว และเกิดพังผืดแข็งที่ปลายกล้ามเนื้อ โดยมีสาเหตุจากความเครียด การใช้งานกล้ามเนื้อหนักเป็นเวลานาน หรือการทำกิจกรรมที่ต้องอยู่ในท่าผิดปกติเป็นเวลานานต่อเนื่องกัน ซึ่งการนวดสวีดิชทำให้กล้ามเนื้อยืดผ่อน
    • ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น การนวดมีผลต่อการเพิ่มของระดับภูมิคุ้มกัน เพราะนอกจากการนวดจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยลดความเครียดอีกด้วย ซึ่งความความเครียดมีผลกดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ดังนั้น เมื่อร่างกายไม่มีความเครียดหรือความวิตกกังวล ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
    • ช่วยให้ผิวหนังมีสุขภาพดี เพราะการนวดทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่นวดมีอุณหภูมิสูงขึ้น เลือดจึงมาเลี้ยงผิวหนังได้มากขึ้น
    • ช่วยคลายความเครียดและความวิตกกังวล ในระหว่างการนวดสมองจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินที่ช่วยให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกผ่อนคลาย
    • ช่วยกระตุ้นการรักษารอยแผลเป็น การนวดช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกตื่นตัว และการทำงานของระบบประสาท จึงช่วยให้การรักษารอยแผลเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การเตรียมตัวก่อนนวดสวีดิช

    เพื่อให้ผลการนวดมีประสิทธิภาพเต็มที่ ผู้เข้ารับบริการต้องเตรียมตัวให้พร้อมดังนี้

    • ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบโรคประจำตัว จุดที่มีปัญหา เช่น ความดันโลหิตสูงหรือต่ำ โรคเบาหวาน อาการบาดเจ็บ โรคเกี่ยวกับกระดูก เป็นต้น
    • ควรรับประทานอาหารก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือหากเป็นอาหารว่าง เช่น กาแฟ ขนม หรือผลไม้ ควรรับประทานก่อนอย่างน้อย 30 นาที
    • ทำใจให้สบาย เพื่อให้ผ่อนคลายระหว่างการนวดอย่างเต็มที่
    • อาบน้ำชำระเหงื่อไคลต่างๆ ทั่วร่างกายให้สะอาดมากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณข้อพับต่างๆ และจุดซ่อนเร้นของคุณ
    • สวมชุดที่เจ้าหน้าจัดเตรียมไว้ให้ หรือชุดที่สวมเสื้อผ้าที่รู้สึกสบาย เนื้อผ้าไม่หนาและไม่มีปมแข็ง

    ขั้นตอนการนวดสวีดิช

    การนวดสวีดิชเป็นเทคนิคการนวดอย่างเป็นจังหวะเพื่อให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อทั่วร่างกายผ่อนคลาย โดยมี 5 ขั้นตอนที่มีเทคนิคที่แตกต่างกันดังนี้

    1. เทคนิคการลูบ (Effleurage) การนวดสวีดิชเริ่มด้วยเทคนิคการลูบทั่วร่างกายตามแนวยาวด้วยฝ่ามือด้วยน้ำหนักสม่ำเสมอ โดยออกแรงกดเล็กน้อยตามแนวเส้นเลือดดำ การนวดสวีดิชมักมีการใช้น้ำมันหรือโลชั่นร่วมด้วย เพื่อให้การนวดง่ายขึ้น
    2. เทคนิคการบีบ (Petrissage) หลังจากเทคนิคการลูบจะนวดด้วยเทคนิคการบีบ ที่ประกอบด้วย การเค้นคลึง การรีดกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย เพื่อให้เข้าถึงกล้ามเนื้อชั้นลึกและเนื้อเยื่ออ่อนตามร่างกาย
    3. เทคนิคการเคาะ (Tapotement) ขั้นตอนนี้จะใช้การเคาะ การตบ การตี กล้ามเนื้อเป็นจังหวะ ด้วยสันมือ ปลายนิ้ว หรือเคาะแบบกำมือและแบมือ
    4. เทคนิคการกด (Friction) เทคนิคการกด เป็นการออกแรงนวดและกดลงบนกล้ามเนื้อ หรือข้อต่อเฉพาะจุด เพื่อให้เส้นเอ็นหรือพังผืดที่หดเกร็งคลายตัว ผู้รับบริการอาจรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว
    5. เทคนิคการเขย่า (Vibration) ขั้นตอนสุดท้ายการนวดสวีดิชคือเทคนิคการเขย่าเพื่อทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ผ่อนคลาย การเขย่าช่วยให้กล้ามเนื้อชั้นลึกคลายตัว

    ในระหว่างการนวดผู้เข้ารับบริการควรทำใจให้สบาย หายใจเข้าลึกๆ ยาวๆ เพื่อช่วยลดความเครียดและขับไล่ความคิดด้านลบออกไป จะช่วยให้การนวดสวีดิชได้ผลลัพธ์ท่ดียิ่งขึ้น

    นวดสวีดิชเจ็บไหม?

    การนวดสวีดิชเป็นการนวดที่เน้นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อชั้นบน โดยใช้น้ำหนักการนวดไม่มาก ดังนั้นผู้เข้ารับการนวดสวีดิชจึงไม่รู้สึกเจ็บ

    การดูแลตัวเองหลังนวดสวีดิช

    แม้การนวดสวีดิชจะเป็นการบำบัดและช่วยให้ผ่อนคลาย แต่การดูแลตัวเองหลังนวดสวิดิชที่ดีจะช่วยให้ผลลัพธ์ประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นโดยปฏิบัติดังนี้

    • หลังการนวดไม่ควรอาบน้ำทันที ควรนั่งพักเพื่อผ่อนคลายจนร่างกายพร้อมที่จะทำกิจกรรมปกติ
    • ควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิปกติหลังการนวด เพราะการนวดสวีดิชช่วยกระตุ้นในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย โดยน้ำเป็นสิ่งจำเป็นในกระบวนการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้การดื่มน้ำยังช่วยลดอาการปวดที่อาจเกิดขึ้น และยังเป็นการเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายหลังการนวดด้วย
    • ควรงดเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากอย่างน้อย 12 ชั่วโมงหลังนวด
    • ทำตัวผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ
    • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนอย่างน้อย 12 ชั่วโมงหลังนวด เพราะทั้ง 2 สิ่งนี้ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ไม่เป็นผลดีกับกระบวนการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย

    โดยสรุปแล้ว การนวดสวีดิชเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการผ่อนคลายร่างกาย ลดความเครียด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ไม่ลงน้ำหนักมากเกินไป มีเพียงผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรังบางชนิดเท่านั้นที่ควรหลีกเลี่ยง

    เช็กราคาการนวดสวีดิจากคลินิกและโรงพยาบาลต่างๆ พร้อมบริการเช็กคิวทำนัดให้ฟรี โดยแอดมินของ HDmall.co.th

    อ้างอิง

    Healthdirect, Swedish massage,(https://www.healthdirect.gov.au/swedish-massage), May 2021.

    The UK's Experts in On-Site Massage, What is Swedish massage? Everything you need to know, (https://www.sensemassage.co.uk/resources/hub/94-what-is-swedish-massage-everything-you-need-to-know), 30 July 2018.

    จตุพร วิชิตสระน้อย, คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นครปฐม, ผลของการนวดเท้าแบบสวีดิชต่อการตอบสนองทางสรีรวิทยาและการผ่อนคลายในผ้ใหญ่ตอนต้นที่มีสุขภาพดี: การศึกษาแบบไขว้,(https://esd.kps.ku.ac.th/kuk-conference/img/gallery/article_10/pdf/o_sci_sport03.pdf).

    @‌hdcoth line chat