รีวิวทำ ReLEx SMILE เลสิกไร้ใบมีด เล่าประสบการณ์ละเอียดทุกขั้นตอน

สารบัญบทความรีวิว ทำ ReLEx SMILE เลสิกไร้ใบมีด

• ReLEx SMILE คืออะไร?
• การเตรียมตัวก่อนทำ ReLEx SMILE
• ขั้นตอนและความรู้สึกขณะทำ ReLEx SMILE
• การดูแลตัวเองหลังทำ ReLEx SMILE
• คืนแรกหลังทำ น้ำตาไหลทั้งคืนเลย
• วันแรกหลังทำ ตื่นเช้ามาตาบวมนิดหน่อย
• วิธีทายาที่ตาหลังทำ ReLEx SMILE
• วันที่ 2 หลังทำ ตายุบบวมแล้วจ้า
• วันที่ 3 หลังทำ มองเห็นทุกอย่างชัดแจ๋ว
• 1 สัปดาห์ หลังทำ ReLEx SMILE
• คำแนะนำหลังทำ ReLEx SMILE

---

เทนเป็นคนที่สายตาสั้นประมาณ 200 กว่าๆ แม้ว่าจะไม่แย่มาก แต่เวลาออกไปข้างนอกเทนก็ไม่ค่อยจะทักใครจนเพื่อนๆ หลายคนบอกว่าเทนหยิ่ง แต่จริงๆ เทนมองไม่เห็นต่างหาก 555+

ทุกวันนี้เทนใส่คอนแทคเลนส์บ้าง แต่ด้วยงานที่ต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เช้าจนดึกๆ ปัญหาตาแห้งก็ตามมา พอเปลี่ยนมาใส่แว่นก็ชอบทำหาย พอมาคิดๆ ดู ค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับปัญหาสายตาของตัวเองก็เยอะพอสมควรก็เลยตัดสินใจทำเลสิกค่ะ

เทนหาข้อมูลการทำเลสิกเยอะมากๆ เปรียบเทียบเทคนิคการทำหลากหลายรูปแบบ จนในที่สุดก็เลือกทำเลสิกแบบ ReLEx SMILE ที่ใช้เลเซอร์ในการปรับความโค้งของกระจกตา และเป็นเทคนิคที่แผลเล็กที่สุดที่มีในตอนนี้ค่ะ

ReLEx SMILE คืออะไร

เกริ่นมาถึงตรงนี้ เทนขออธิบายนิดนึงว่า ReLEx SMILE คืออะไร ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จัก การทำเลสิก ว่าเป็นการผ่าตัดแก้ไขสายตา แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีการทำเลสิกพัฒนาออกมาหลายวิธี ซึ่ง ReLEx SMILE ก็เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ใช้ในปัจจุบัน (หมายเหตุ: บทความนี้เขียนขึ้นในปี 2021)

ReLEx SMILE ย่อมาจาก Refractive Lenticule Extraction, Small Incision Lenticule Extraction แต่หลายคนมักเรียกกันสั้นๆ ว่า ReLEx (รีเล็ก) เป็นการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ Femtosecond

การทำ ReLEx จะไม่มีการแยกชั้นกระจกตาแล้วเปิดออกเหมือน  การทำเลสิก แบบเก่า แต่จะใช้เลเซอร์ปรับความโค้ง ความหนาของกระจกตา และปรับแต่งให้เนื้อเยื่อเป็นรูปเลนส์ จากนั้นนำเนื้อเยื่อนั้นออกผ่านรอยแผลที่มีขนาดประมาณ 2-4 มิลลิเมตรค่ะ

ก่อนที่ทำ ReLEx SMILE จะต้องตรวจสายตาแบบละเอียดก่อน ซึ่งเทนแยกเป็นอีกบทความนึงเอาไว้นะคะ ถ้าใครอยากรู้ว่าก่อนทำ ReLEx SMILE จะต้องตรวจอะไรบ้างก็ตามไปอ่านกันได้ที่ รีวิว ตรวจตาก่อนทำเลสิกแบบ ReLEx

การเตรียมตัวก่อนทำ ReLEx SMILE

ก่อนทำ ReLEx SMILE จะต้องเตรียมตัวกันเล็กน้อยค่ะ ซึ่งหลักๆ ก็จะต้องหยุดใช้คอนแทคเลนส์แบบนิ่มอย่างน้อย 3 วัน หรือคอนแทคเลนส์แบบแข็งอย่างน้อย 7 วัน งด ยารักษาสิว กลุ่มไอโซเตรตินอยน์ (Isotretinoin) เช่น Roaccutane, Acnotin, Isotret อย่างน้อย 1 เดือน ส่วนใครที่รับประทานยาโรคประจำตัวอยู่ จะต้องบอกคุณหมอด้วยนะคะ เพื่อให้คุณหมอประเมินว่าจำเป็นต้องหยุดการใช้ยาตัวไหนก่อนรึเปล่า 

ในวันที่ผ่าตัดควรสวมเสื้อที่มีกระดุมหน้าเพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนชุด ควรพาเพื่อนหรือครอบครัวมาด้วย และในวันผ่าตัดก็จะมีการตรวจสายตาซ้ำอีกครั้ง ได้พบกับคุณหมอเพื่อตรวจแบบละเอียด แล้วเซ็นเอกสารยินยอมการผ่าตัดค่ะ

คุณหมอจะอธิบายวิธีการทำ ReLEx SMILE ว่าใช้เวลาประมาณ 40 นาที เท่านั้น ระหว่างทำจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจจะอึดอัดนิดนึงเพราะมีเครื่องมือเต็มตาไปหมด หลังจากทำเสร็จประมาณครึ่งชั่วโมงจะเริ่มแสบตา ระคายตา เหมือนมีทรายอยู่ในตา น้ำตาจะไหล ซึ่งเป็นอาการปกติ ไม่ต้องตกใจ

ก่อนทำคุณหมอจะให้กินยาแก้อักเสบ และหลังทำเสร็จพอกลับบ้านไปก็ให้กินอีก ส่วนวันรุ่งขึ้นให้กินตอนเช้าและตอนเย็น วันละ 2 เม็ด รวม 3 วัน ส่วนตอนนอนจะต้องสวมพลาสติกครอบตาเอาไว้ตลอดจนถึงตอนเช้าเพื่อป้องกันไม่ให้เราเผลอขยี้ตาค่ะ 

สำหรับคิวผ่าตัดของเทนจะอยู่ช่วงประมาณ 4 โมงเย็น ระหว่างนี้ก็นั่งรอสบายๆ พอถึงเวลาคุณพยาบาลจะพาไปเปลี่ยนเป็นชุดของโรงพยาบาล ชุดใส่สบายมากจนอยากใส่ชุดนี้กลับบ้านเลย 555+ นำที่คลุมผมมาสวมให้ ส่วนชุดชั้นในสามารถใส่เอาไว้ได้ปกติ แล้วก็มีรองเท้าแตะให้สวมเวลาเดินไปที่ต่างๆ ด้วยค่ะ

จากนั้นก็พาไปล้างหน้า คุณพยาบาลบอกให้ล้างได้เต็มที่เลยเพราะหลังผ่าตัดทำเลสิกจะไม่สามารถล้างหน้าได้อีกหลายวัน เทนก็เลยจัดเต็ม เอาให้สะอาดที่สุดเลยค่ะ พอถึงเวลา 16.30 น. คุณพยาบาลก็ให้ไปห้องน้ำให้เราจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนจะเข้าห้องผ่าตัดค่ะ โดยการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที และจะออกมาระหว่างทำไม่ได้ค่ะ

ขั้นตอนและความรู้สึกขณะทำ ReLEx SMILE

ในห้องผ่าตัดทำเลสิกคุณพยาบาลจะให้เราขึ้นไปบนเตียงนอน นุ่มสบาย บรรยากาศรอบข้างสว่างมากๆ มีทีมงานพร้อมหน้า ไม่ได้น่ากลัวอะไร คุณพยาบาลก็น่ารัก คอยดูแลและบอกทุกขั้นตอนว่าต้องทำอะไรบ้าง

หลักๆ เลยคือ เทนจะต้องล็อกสายตาเอาไว้ตลอดเวลา ห้ามขยับตา กรอกตาเด็ดขาด โดยเฉพาะตอนที่ใช้เลเซอร์ประมาณ 30 วินาที ห้ามขยับเด็ดขาดเลย ส่วนถ้าต้องการสื่อสารกับคุณหมอ หรือเวลาคุณหมอพูดอะไรด้วย ห้ามส่ายหน้าหรือพยักหน้า ถ้ามีอะไรให้พูดออกมาได้เลย

พอขึ้นไปนอนบนเตียง คุณพยาบาลจะเอาลูกบอลยางมาให้สองลูกใส่มือเราไว้ เผื่อว่าเวลาทำแล้วตื่นเต้นก็กำเจ้าลูกบอลนี้ได้ จากนั้นก็ห่มผ้าให้อีกชั้น และคุณพยาบาลก็อธิบายขั้นตอนการทำเลสิกแบบ ReLEx SMILE อีกครั้งค่ะ

นอกจากผ้าห่มแล้ว คุณพยาบาลจะเอาผ้าอีกผืนคลุมเราทั้งตัว เปิดเว้นไว้แต่รอบดวงตา จากนั้นก็หยอดยาชาแล้วให้เรากรอกตาไปด้านล่าง ด้านบน แล้วทำความสะอาดหน้าซ้ำอีกหลายรอบมากๆ ทั่วใบหน้าและรอบดวงตาเลย

คุณหมอจะเริ่มด้วยการนำอุปกรณ์มาติดบริเวณเปลือกตาบนและล่าง มีลักษณะคล้ายเทปกาว จากนั้นก็เอาอุปกรณ์ถ่างตามาใส่ เทนก็ไม่เห็นว่ามีลักษณะเป็นยังไง แต่คิดว่าน่าจะคล้ายๆ ที่หนีบขนตาค่ะ แต่ในตอนนั้นยาชาก็เริ่มออกฤทธิ์เลยไม่รู้สึกอะไรเลย

เริ่มทำเลสิกแบบ ReLEx SMILE อันดับแรกคือ คุณหมอบอกให้มองตรงมาที่หน้าของหมอ แล้วเค้าจะขยับเครื่องมาหาให้เรามองแสงสีเขียวๆ จะมีแสงกะพริบๆ ให้เราจ้องตรงนั้น สักพักคุณหมอก็บอกว่าจะเริ่มแล้วน้า จากแสงสีเขียวก็มีแสงสีขาวมาแทนที่ เทนคิดว่านั่นแหละคือแสงเลเซอร์ คุณหมอบอกว่าจะใช้เวลา 30 วินาที ให้เราพยายามล็อกตาจ้องที่แสงตลอด

บางทีก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องมองอะไร โฟกัสตรงไหน แต่เราก็พยายามมองเข้าไปที่เดิม ที่แสงสีเขียวเคยอยู่ ระหว่างที่ทำคือไม่เจ็บเลย ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ จะมีแค่เครื่องมืออยู่ตามตาของเราเยอะนิดนึงเท่านั้นเอง

ที่เทนประทับใจมากๆ เลยคือมีคุณพยาบาลคนนึงที่ทำหน้าที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์ เค้าจะคอยเชียร์เราตลอด คอยพูดให้กำลังอยู่ข้างๆ ว่า "30 วินะคะ มีสตินะคะ อยู่ด้วยกันนะคะ ทำได้ดีมากค่ะ เหลืออีก 15 วิแล้วนะคะ" น่ารักมากกกค่ะ ช่วยลดความตื่นเต้นไปได้เยอะเลย

พอครบ 30 วินาที คุณหมอก็จะทำอะไรไม่รู้ เหมือนเอาอะไรมาเขี่ยๆ ที่ดวงตา นานอยู่ค่ะ ประมาณ 2-3 นาทีได้ ความรู้สึกก็หน่วงๆ บ้าง เหมือนคุณหมอกดแล้วก็มีอะไรมากวนๆ วนๆ ดวงตา ภาพที่เราเห็นก็จะเบลอๆ ซึ่งคุณหมอบอกแต่แรกแล้วว่าพอผ่านเลเซอร์มาเราจะมองไม่ค่อยเห็น จะเห็นแต่แสงๆ ไม่ต้องตกใจ และที่สำคัญคือไม่เจ็บเลยเพราะมียาชาอยู่

เทนเข้าใจว่าขั้นตอนที่คุณหมอวนตา คือขั้นตอนการเอาเนื้อเยื่อที่ผ่านการเลเซอร์แล้วออกมาผ่านรอยแผลที่มีขนาดประมาณ 2-4 มิลลิเมตรค่ะ พอทำเสร็จคุณหมอก็บอกว่าจะหยอดยาให้นะ มันจะเย็นๆ หน่อยไม่ต้องตกใจ แล้วก็มีน้ำยาไหลลงมาที่ตา เป็นอันเสร็จ 1 ข้างค่ะ ตรงนี้แหละคือจุดที่เราลุ้นสุด เพราะค่อนข้างนาน แต่ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยค่ะ

หลังจากทำ ReLEx SMILE เสร็จ 1 ข้าง คุณหมอจะให้ลืมตาค้างไว้ประมาณ 2 นาที เป็นการทำให้ดวงตาสมานแผลนิดนึงก่อนย้ายไปทำอีกข้าง ระหว่างนี้คุณพยาบาลเชียร์ลีดเดอร์จะเอามือเข้ามาในผ้าห่ม แล้วก็จับแขน บอกเราว่า "เก่งมากค่ะ น้องทำดีแล้ว ทำแบบนี้นะคะ สู้ๆ" คือเทนชอบมากๆ ดูมี Personal Touch เป็นสัมผัสที่ทำให้เทนผ่อนคลายมากๆ แสดงให้เห็นว่าเค้าดูห่วงใย น่าร้ากกก

ส่วนอีกข้างก็ทำเหมือนเดิมเลย สิ่งที่เป็นความยากของการทำเลสิกคือ เทนไม่แน่ใจว่าต้องมองไปตรงไหน เพราะเวลาเราจ้องไปที่แสงจ้าๆ มันให้ความรู้สึกว่าเรากำลังมองเข้าไปในความว่างเปล่า มีแสงสีเขียวสีขาว แต่เทนก็พยายามล็อกดวงตาให้โฟกัสอยู่จุดเดิม เทนคิดว่านี่แหละคือความยากที่สุดของการ ทำเลสิก

โดยรวมแล้วใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 40 นาที แต่เวลาที่ทำจริงๆ ข้างละไม่ถึง 10 นาทีค่ะ พอครบทั้ง 2 ข้าง คุณพยาบาลก็พยูงให้ลุกขึ้น คุณพยาบาลก็บอกว่าอาจจะมองเห็นไม่ชัด แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ คือเหมือนเค้าอ่านใจเราได้ 555+ เพราะในใจเทนคิดว่าพอผ่าตัดเสร็จปุ๊ปน่าจะชัดเลย แต่ภาพที่เห็นมันจะเบลอๆ นิดนึง แอบจิตตกนิดหน่อย แต่พอคุณพยาบาลอธิบายก็ทำให้โล่งใจไปอีกหน่อยค่ะ

คุณพยาบาลพยูงไปที่เก้าอี้ แล้วให้เทนนั่งเอาคางแนบกับเครื่องตรวจสายตา คุณหมอจะส่องไฟเพื่อตรวจดูบาดแผล และกระจกตา จากนั้นก็อธิบายผลการผ่าตัดเมื่อสักครู่ว่าราบรื่นดีค่ะ 

สำหรับภาพแรกที่เทนมองเห็นด้วยดวงตาที่ผ่านการผ่าตัดมาหมาดๆ รู้สึกว่ามันเบลอๆ เหมือนมีหมอกฟุ้งๆ อยู่เต็มห้อง ส่วนความชัดเจน ถ้าเต็ม 100% เทนคิดว่าตอนนี้เห็นประมาณ 90% ค่ะ ไม่มีความรู้สึกเจ็บหรือแสบอะไรเลย คิดว่ายาชายังไม่หมดฤทธิ์ค่ะ ในวันพรุ่งนี้คุณหมอจะนัดเข้ามาดูแผล และนัดอีกครั้งคือหลังทำ 3 วัน และหลังทำ 1 สัปดาห์ค่ะ

การดูแลตัวเองหลังทำ ReLEx SMILE

ออกมาจากห้องผ่าตัด คุณพยาบาลจะพาออกมานั่งในห้องพักเพื่อวัดความดันทุกๆ 15 นาที 4 ครั้ง รวม 1 ชั่วโมง เพื่อดูว่าเรามีปัญหาอะไรไหม จากนั้นคุณพยาบาลก็จะหยอดยาที่ดวงตาให้แล้วนำพลาสติกใส ที่ครอบตามาติดให้ และอธิบายคำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ

นั่งสักพักคุณหมอก็แวะออกมาหาเทน คุณหมอขอ 3 อย่างคือ ห้ามหยีตา ห้ามขยี้ตา และห้ามน้ำเข้าตาค่ะ ส่วนการดูแลอื่นๆ ก็ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลย

• หยอดยาตามที่คุณหมอแนะนำ โดยเฉพาะน้ำตาเทียม
• ใส่ที่ครอบตาเวลานอนเพื่อป้องกันการขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว
• งดล้างหน้า และสระผม
• งดแต่งหน้า
• งดกิจกรรมที่อาจทำให้เหงื่อหรือน้ำเข้าตา
• งดกิจกรรมที่อาจทำให้ฝุ่นละอองหรือควันเข้าตา
• งดการว่ายน้ำและดำน้ำลึก
• ห้ามขยี้ตา
• ควรใส่แว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง

คุณหมอบอกว่าคืนนี้อย่าใช้สายตาเยอะ งดล้างหน้า ถ้าหากว่าหน้ามันก็ให้ใช้กระดาษซับมันแทน และพรุ่งนี้ตอนบ่ายให้กลับมาหาหมออีกครั้งเพื่อดูแผลที่ดวงตาค่ะ และเตือนว่าหลังจากนี้ประมาณครึ่งชั่วโมงยาชาน่าจะหมดฤทธิ์ อาจมีอาการแสบตา เหมือนมีเม็ดทรายอยู่ในตา มีอาการระคายเคือง น้ำตาไหล ไม่ต้องตกใจเพราะเป็นอาการข้างเคียงปกติ ถ้าน้ำตาไหลเยอะก็ใช้ทิชชู่ซับเบาๆ ได้ค่ะ 

ซึ่งตอนวัดความดันรอบที่ 3 ตาจะเริ่มค่อยๆ แสบและเริ่มไม่อยากลืมตา พอวัดความดันครบ 4 ครั้งเสร็จ ก็ไปเปลี่ยนกลับเป็นชุดเดิมแล้วคุณพยาบาลก็เอากระเป๋าที่มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราจะต้องใช้มาให้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่เข็นรถวีลแชร์มารับพาไปที่แผนกการเงินค่ะ 

ตอนแรกที่ได้ยินว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข็นรถวีลแชร์มารับก็งงว่าเอามาทำไม ชั้นเดินเองได้ ชั้นเป็นผู้หญิงแกร่ง แต่พอเริ่มแสบตาก็กลับคำเลยค่ะ เพราะวีลแชร์คือประเสริฐมาก ในตอนนั้นคือไม่อยากลืมตา ไม่อยากเดินแล้ว แสงในโรงพยาบาลเริ่มจ้าจนต้องเอามือมาป้องๆ แสงเอาไว้

เจ้าหน้าที่เข็นรถวีลแชร์มาจุดเรียกแท็กซี่ข้างล่าง ซึ่งวันที่เทนไปทำเลสิกแบบ ReLEX SMILE เป็นวันศุกร์สิ้นเดือนพอดี ต้องขอบคุณเพื่อนมากๆ ที่มาอยู่ด้วย เพราะรอแท็กซี่นานมากๆ

เทนต้องขอบคุณเพื่อนมากๆ ที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่บ่าย 3 มาส่งถึงบ้านตอน 6 โมงเย็น เตรียมทิชชู่ เตรียมน้ำเอาไว้ให้ข้างเตียง ล็อกห้องให้ ซื้อข้าวมาเอาไว้ให้เราจะได้กินยา ส่วนวิธีการหยอดยาที่ตาคุณพยาบาลจะสอนเทนอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ก็เลยยังไม่ต้องกังวลอะไร 

พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่อยากลืมตาแล้ว เทนหลับตาตลอดเวลาเลย แต่ก็พอเปิดๆ ตาคลำทางเองได้ไม่ถึงกับต้องมีคนจูง สามารถเข้าห้องน้ำเปลี่ยนชุดนอนเองได้ ที่คุณหมอให้ใส่เสื้อเชิ้ตมาก็ถอดได้โดยไม่ต้องดึงเข้าออกทางศีรษะ เพราะอาจจะทำให้ที่ครอบตาหลุดค่ะ

คืนแรกหลังทำ น้ำตาไหลทั้งคืนเลย

ตอนแรกเทนกลัวเบื่อก็คิดว่าจะเล่นโทรศัพท์มือถือ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ไม่อยากจะลืมตาเลย ต้องใช้ความพยายามอันมากล้นจิ้มๆ เปิดแอปฯ ฟังพอดแคสต์ ฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ เปิดให้มันวนๆ ไป แล้วก็นอนจมน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย

ช่วงหัวค่ำเทนแสบตามากๆ น้ำตาไหลตลอดเวลา แม้ว่าก่อนหน้านี้คุณหมออธิบายว่า ความรู้สึกจะเหมือนมีผงอะไรเข้าตา ก็คิดว่าจะเหมือนมีอะไรก้อนๆ ในตา แต่สำหรับเทนคิดว่ามันเหมือนกับเราหั่นหัวหอมทั้งคืนมากกว่า น้ำตามันไหลไปเรื่อยๆ ลืมตาไม่ค่อยได้ ลืมตาทีน้ำตาไหลที

เวลาที่พีคที่สุดน่าจะเป็นช่วงประมาณ 2-3 ทุ่ม (3-4 ชั่วโมงหลังทำ) ที่จะรู้สึกแสบมากๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ดีขึ้น แล้วก็ผลอยหลับไป เทนคิดว่าความแสบ ความลำบากของคืนแรก ถ้ามียานอนหลับก็คงจะดีค่ะ (ถ้าใครต้องการยานอนหลับก็แจ้งคุณหมอได้เลยนะคะ)

สรุปแล้วในคืนแรกเทนสะดุ้งตื่นขึ้นมาบ่อย แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาในการนอนหลับต่อ สิ่งที่ทำให้หลับไม่สบายก็คือน้ำตาจะไหลมาเอ่อล้นอยู่ตรงบริเวณขอบของพลาสติกที่ครอบตา ตัวเทปกาวที่ติดอยู่ก็จะหลุด มันก็เลยคันยิบๆ น่าหงุดหงิดใจค่ะ

ครั้งก่อนที่เทนเข้าห้องผ่าตัด ฉีดยาสลบก็คือตอนที่ไปฝากไข่ (อ่านรีวิวฝากไข่ 7 ขั้นตอน) เทนฟื้นขึ้นมานั่งพักสักหน่อยก็กลับบ้านเองได้ ทำอะไรเองได้ ก็เลยคิดว่าผ่าตัด ทำเลสิก น่าจะคล้ายๆ กัน แต่พอถึงเวลาจริงๆ รู้สึกลำบากกว่ามาก โชคดีที่เพื่อนจัดเตรียมสิ่งของจำเป็นเอาไว้ให้ข้างเตียงไม่งั้นเทนคงต้องลุกเดินทั้งคืนแน่ๆ 

วันแรกหลังทำ ตื่นเช้ามาตาบวมนิดหน่อย

เช้าวันรุ่งขึ้นเทนตื่นมาพร้อมกับอาการแสบตาเหมือนเดิม แต่น้อยกว่าเมื่อคืน ความรู้สึกแสบทำให้ไม่ค่อยอยากลืมตา แต่พอฝืนเปิดตามาได้สิ่งที่มองเห็นก็ชัดแจ๋วเลย ไม่มีหมอกฟุ้งๆ เหมือนเดิมแล้ว แต่ยังมีอาการแพ้แสงค่อนข้างมากค่ะ

เช้าวันนี้ตาข้างซ้ายของเทนมีอาการบวม ส่วนตาขวาปกติ นอกนั้นก็มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เวียนหัวนิดหน่อย อาจมาจากการที่เรามองเห็นอะไรไม่ชัดเป็นเวลานาน พอสายตาเราเปลี่ยนก็อาจมีอาการเวียนหัว (มารู้ทีหลังว่าถ้าเวียนหัวปวดหัวก็กินยาพาราได้เลยนะคะ)

พอหยิบโทรศัพท์มาดูก็รู้สึกว่ายังอ่านอะไรไม่ค่อยชัด แต่ก็สามารถจิ้มๆ สั่งอาหารให้มาส่งได้ เดินลงไปรับของได้ 

ตอนบ่าย 2 เทนมีนัดตรวจเช็กติดตามผลหลังทำ ReLEx SMILE กับคุณหมอค่ะ ในตอนแรกก็คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ไปเองได้ชิวๆ แต่เอาเข้าจริงด้วยตาที่บวมเป่งมากๆ ก็เลยโทรหาเพื่อนให้ไปส่งค่ะ

วันนี้เทนออกจากบ้านด้วยลุคส์ดาราค่ะ ใส่แว่นกันแสง สวมหมวกปิดมิดชิด พอมาถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ตรวจดูตาทั้งสองข้างของเทน แล้วอธิบายว่า ดวงตาข้างขวาปกติดี ส่วนตาซ้ายที่บวมเพราะว่ามีอาการอักเสบนิดหน่อย คุณหมอก็เลยให้คุณพยาบาลมาหยอดยาที่ตา ก็ดีขึ้นค่ะ ตาบวมน้อยลง ลืมตาได้มากขึ้น

หลายคนอาจจะคิดว่าหลังทำ ReLEx SMILE จะมองเห็นชัดแจ๋วแบบ HD เลยมั้ย ตรงนี้ผลลัพธ์ขึ้นกับแต่ละคนนะคะ คุณหมออธิบายเอาไว้ว่า สายตาจะเริ่มเข้าที่ใน 1-2 เดือน แต่บางคนก็ใช้เวลาแปปเดียว ซึ่งความแตกต่างในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน และผลข้างเคียงก็ไม่เหมือนกันด้วยค่ะ

วิธีทายาที่ตาหลังทำ ReLEx SMILE

ในเคสของเทนที่ตาข้างซ้ายอักเสบ คุณหมอให้หยอดยาที่ตาถี่ขึ้น หยอดทุกๆ 2 ชั่วโมง ส่วนข้างขวาหยอดวันละ 4 ครั้งค่ะ และก็มีน้ำตาเทียมด้วย วันนึงก็หยอดกันสนุกเลย เทนก็ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ที่มือถือ เพื่อจะได้ไม่ลืมหยอดตา และยังมียาสำหรับทาที่ตาข้างซ้ายก่อนนอน เป็นขี้ผึ้งที่ใช้รักษาตาข้างซ้ายที่อักเสบค่ะ 

ยาทาตัวนี้ไม่ใช่ยาหยอดตาแต่เป็นลักษณะขี้ผึ้งมาป้ายตาค่ะ เภสัชกรแนะนำว่าถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะทาได้ไหม ให้เอาสำลีคัตเติ้ลบัตป้ายตัวยา แล้วดึงหนังตาล่างลง จากนั้นนำคัตเติ้ลบัตป้ายตัวยาลงไปตรงเปลือกตาล่างด้านในให้ทั่ว แล้วค่อยหลับตา กะพริบตาเพื่อให้ยากระจ่ายทั่วตา ตาข้างที่ใส่ยาจะขุ่นๆ นิดนึง แต่ก็มองเห็นอยู่นะ สวมที่ครอบตาปิดเอาไว้ เสร็จแล้วก็ไปนอน

แต่ในวันที่ 2 เทนชินแล้วก็เลยบีบจากหลอดไปที่หนังตาล่างเลย ปริมาณก็จะเยอะกว่าเอาคัตเติ้ลบัตปาดนิดนึง ตื่นเช้ามาขี้ตาก็จะเปรอะๆ นิดหน่อย ก็ใช้น้ำเกลือและสำลีเช็ดทำความสะอาดเบาๆ ค่ะ 

หลังจากเสร็จจากตรวจเช็กดวงตาเสร็จ เทนไปกินข้าวกับเพื่อน ตอนนั้นก็ลืมตาได้มากขึ้น ตาบวมน้อยลงแถมน้ำตาไม่ค่อยไหลแล้ว ดีใจมากๆ ค่ะ สรุปภาพรวมหลังทำเลสิก 24 ชั่วโมง ไม่แสบ ไม่เจ็บ มองเห็นทุกอย่างชัด คุณหมอบอกว่าจะใช้เวลาในการปรับตัวนิดนึง ให้หยอดตาตามที่หมอแนะนำแล้วร่างกายของเราจะสมานแผลด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ

วันที่ 2 หลังทำ ตายุบบวมแล้วจ้า

เมื่อคืนเทนหลับสบายมากๆ ไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกเลย เช้าวันนี้ตาข้างซ้ายบวมน้อยลงแล้ว แต่มองเห็นเป็นภาพมัวๆ เพราะว่าเทนป้ายยาขี้ผึ้งที่ตาเอาไว้เยอะตอนก่อนนอน

วันนี้เริ่มเล่นโทรศัพท์มือถือได้แล้ว ตอบแชทไลน์ได้เป็นปกติ ต่างจากเมื่อวานที่ต้องใช้ความพยายามนิดนึง เพราะปวดตาปวดหัวนิดหน่อย แต่เทนก็พยายามไม่ใช้สายตามากเพราะจะมีอาการล้าๆ เมื่อยๆ ปวดตาตามมา

หลังจากหยอดยารัวๆ ตามที่คุณหมอแนะนำทุก 2 ชั่วโมง สายตาก็ค่อนข้างกลับมาเป็นปกติ น้ำตาไม่ไหล ไม่ระคายเคือง แต่เหมือนมีอะไรเป็นเม็ดๆ อยู่ในลูกตา ส่วนข้างขวาปกติมาก ไม่รู้สึกอะไรเลย

เทนคิดว่าสายตาตอนนี้เหมือนตอนก่อนทำ คือมองเห็นทุกอย่างชัด แต่มองใกล้ๆ อย่างมือถือจะมีเบลอๆ บ้างนิดหน่อย รู้สึกว่าต้องเพ่ง ต้องใช้ความพยายามในการอ่านนิดนึง

ส่วนตอนกลางคืน ตาก็กลับมาสู้แสงได้ เปิดไฟห้องได้ปกติโดยไม่รู้สึกว่าสว่างเกินไป กลับมาเขียนบทความได้ เพราะรู้สึกว่าการเขียนไม่ต้องใช้สายตาเยอะเท่ากับการอ่าน

วันที่ 3 หลังทำ มองเห็นทุกอย่างชัดแจ๋ว

3 วันหลังทำ ReLEx ก็กลับมาติดตามผลกับคุณหมออีกครั้งเพื่อตรวจดูดวงตา คุณหมอจะเช็ก 2 ครั้งค่ะ ในครั้งแรกคุณหมอจะส่องดูตาปกติ ส่วนครั้งที่ 2 คุณหมอจะเอาสีเข้ามาแตะตานิดนึงเพื่อดูว่ากระจกตาของเทนมีแผลถลอกอะไรไหม ซึ่งของเทนข้างขวาปกติดี ส่วนข้างซ้ายให้หยอดยาตามเดิมทุกๆ 2 ชั่วโมงค่ะ

ส่วนค่าสายตา ตอนนี้ตาข้างนึง +0.5 ส่วนอีกข้าง -0.5 คุณหมอก็ทักว่ามองเห็นชัดแล้วรึยัง เทนก็แอบบ่นกับคุณหมอว่ามองใกล้ๆ ก็ไม่ชัด ไกลๆ ก็ไม่ชัด

คุณหมอก็เลยลองให้อ่านตัวเลข ผลปรากฎว่าเทนอ่านได้ปกติเลย คุณหมอก็อธิบายเพิ่มว่าเทนอาจจะติดนิสัยเดิมตอนสายตาสั้น เวลาดูอะไรก็ติดนิสัยยกมาใกล้ตา ตอนนี้สายตาปกติ เวลาจะอ่านอะไรก็ให้ห่างจากสายตาสัก 1 ช่วงแขน

ก่อนหน้านี้เทนคิดว่า หลังจากทำเลสิกแล้วเราก็จะมองเห็นทุกอย่างชัดแจ๋วแบบ HD แต่ในความเป็นจริง ตัวหนังสือเล็กๆ ในที่ไกลๆ คนที่สายตาปกติเค้าก็มองไม่เห็นอยู่แล้ว ด้วยความที่เทนคาดหวังว่าต้องเห็นทุกอย่างชัด แต่พอไม่ได้ดั่งใจเลยคิดว่ามันไม่ชัดค่ะ 555+

เทนก็กลับมาคิดว่า ตัวเทนสายตาสั้นมานาน เราติดนิสัยดูอะไรใกล้ๆ พอตอนนี้สายตาปกติจะดูอะไรใกล้ๆ มันก็จะไม่ชัดค่ะ พอออกจากโรงพยาบาลก็ลองสังเกตตามที่คุณหมอบอกก็ตกใจค่ะ อ้าว!! ชัดแล้วนิ ชัดโดยที่ไม่รู้ตัว 555+ เทนอาจจะไม่ชินเองว่าโลกที่ชัดมันเป็นแบบนี้นี่เอง ก็เลยยังคิดว่าไม่ชัดอยู่

ในวันนี้เทนกลับมาทำงานแล้ว คุณหมอก็เลยแนะนำว่าถ้าหากเมื่อยตา หรือล้าสายตาก็พักสักหน่อย ถ้าเมื่อยเร็วก็ใส่แว่นตาดำเพื่อกันแสงได้ แต่ตอนนี้ประมาณเที่ยงวัน เทนไม่ได้ใส่แว่นตาก็สู้แสงธรรมดาได้ปกติ แต่เทนก็ใส่เผื่อเอาไว้เท่านั้นเอง

1 สัปดาห์ หลังทำ ReLEx SMILE

วันนี้กลับมาเจอคุณหมออีกครั้ง ได้ตรวจสุขภาพตาเหมือนเดิมทุกอย่างเลย ส่วนค่าสายตาตอนนี้ได้ -0.25 ทั้งสองข้าง คุณหมออธิบายว่าจริงๆ แล้วค่าสายตาอาจจะไม่เป็น 0 เป๊ะ แต่นี่ก็ใกล้เคียงมากๆ การมองเห็นก็ไม่ติดปัญหาอะไร ภาพทุกอย่างชัดเจน

สำหรับอาทิตย์ที่ผ่านมาอาการตาแห้งน้อยมาก ไม่ค่อยมีอาการระคายเคือง จนบางทีเทนก็ไม่ได้หยอดน้ำตาเทียมไปหลายชั่วโมงก็อยู่ได้ แต่คุณหมอก็บอกว่าให้หยอดตาไปเรื่อยๆ ทั้งตัวที่เป็นยาและน้ำตาเทียม แล้วก็ขี้ผึ้งที่ป้ายตาข้างซ้ายด้วย แต่ไม่ต้องหยอดตาทุก 2 ชั่วโมงแล้ว ให้เปลี่ยนเป็น 4 ครั้งต่อวันเหมือนข้างขวาแทน

ส่วนที่ครอบตา คุณหมอบอกให้เทนใส่ต่ออีก 1 อาทิตย์ รวมแล้วหลังจากทำเลสิกก็ใส่เป็น 2 อาทิตย์ และหลังจากนี้ก็ล้างหน้าได้ปกติค่ะ

ซึ่งวิธีการล้างหน้าโดยปกติเราจะใส่น้ำเต็มที่ บีบโฟมหรือถูสบู่แล้วเอาน้ำสาดล้างหน้า แต่ช่วงนี้เทนจะใช้ล้างหน้าน้อยมากๆ ก่อนอื่นจะอาบน้ำล้างตัวให้เสร็จก่อน แล้วค่อยเอาน้ำมาลูบหน้าหมาดๆ จากนั้นค่อยลงครีมล้างหน้าถูเป็นส่วนๆ ไม่ให้น้ำมันไหลล้นเกินไป

ส่วนด้านบนเทนก็จะหลับตาแล้วเอามือแตะน้ำ สะบัด 3-4 ที แล้วค่อยๆ เอามาลูบล้างออก น้ำจะได้ไม่ไหลลงมาที่ตาแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวเลย เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำจะไม่เข้าตาค่ะ แต่จริงๆ คุณพยาบาลแนะนำให้ใช้ฟองน้ำจะง่ายกว่านี้ ถ้าใครสะดวกก็เอาฟองน้ำบิดหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดหน้าได้ค่ะ

คำแนะนำหลังทำ ReLEx SMILE

Q: แต่งหน้าได้เมื่อไหร่? หลังผ่านที่เปลือยหน้าสดไปทำงานมาพักใหญ่ๆ เทนก็ถามคุณหมอว่าจะแต่งหน้าได้เมื่อไหร่ คุณหมอบอกว่าถ้าล้างทำความสะอาดได้เกลี้ยง ก็แต่งได้ แต่ถ้าไม่แน่ใจก็ขอสัก 2 อาทิตย์ขึ้นไปค่อยแต่งหน้าค่ะ

Q: ต่อขนตาได้เมื่อไหร่? คุณหมอบอกว่า จริงๆ แล้ว 2 อาทิตย์ก็ติดขนตาได้แล้ว แต่คุณพยาบาลเสริมว่าหลายคนที่ไปต่อขนตาที่ไม่ได้มาตรฐาน กาวหรือสารเคมีอาจะระเหยเข้าตา หรือบางทีขนตาหลุดเข้าตาทำให้มีอาการตาแดงบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าจะให้ชัวร์ๆ ก็แนะนำว่าให้เว้นไปสัก 1 เดือนก็ดีค่ะ

Q: ออกกำลังกายได้เมื่อไหร่? เทนแอบกลัวไปเองว่าถ้าเราออกกำลังกายหนักๆ กระจกตาจะเลื่อนไหม 555+ ซึ่งก็บอกว่าไม่เลื่อนนะคะ แต่คุณหมอแนะนำว่าให้ระวังไม่ให้เหงื่อเข้าตาก็พอ หรือใส่ผ้าคาดหัวเอาไว้กันเหงื่อไหลก็ได้ ส่วนการดำน้ำ ว่ายน้ำ ไม่ว่าจะในสระปิด หรือในทะเลให้งดไปก่อนสัก 2 เดือนค่ะ

อีกเรื่องที่กลัวและไม่กล้าทำเลสิกก็เพราะว่าหลายคนบอกอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นคือ อาจจะเห็นแสงแตกเป็นแฉกๆ ในตอนกลางคืน และเทนชอบไปคอนเสิร์ตก็เลยกลัวว่าจะขับรถกลับบ้านไม่ได้ แต่สุดท้ายเทนไม่มีอาการนี้เลยค่ะ

สำหรับใครที่กังวล หรือลังเลว่าจะทำดีหรือไม่ทำดี เทนแนะนำให้เข้าปรึกษาคุณหมอก่อนได้เลย เอาที่เราสบายใจ เพราะการทำเลสิก ไม่ว่าจะเทคนิคไหนมันไม่ใช่การผ่าตัดที่เร่งรีบ เอาที่เราพร้อมแล้วค่อยทำ

แต่ถ้าใครมาปรึกษาเทนก็จะแนะนำให้ทำค่ะ เพราะว่าการที่เราอยู่กับโลกที่ชัดเจน อะไรๆ มันก็ชัดเจนไปหมด ไม่ต้องคอยหยีตา ไม่ต้องมีอะไรมาบดบังการมองเห็นของเรา เรียกได้ว่าเปิดโลกใหม่ด้วยการมองเห็นได้เลยค่ะ

สุดท้ายนี้ เทนอยากแนะนำ HDmall.co.th ที่เป็นสื่อกลางสำหรับเปรียบเทียบโปรแกรมสุขภาพ ทำฟัน และความงาม ที่มีแพ็กเกจจากหลายคลินิก หลายโรงพยาบาล เพิ่มทางเลือกให้กับเราในการเข้ารับบริการ และโปรแกรมเลสิกก็ยังมีให้จองผ่าน HDmall.co.th ด้วยค่ะ

---

บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

• ทำ ReLEx สายตา คือะไร ดีไหม? ราคาเท่าไหร่?
• 4 เทคนิคผ่าตัดแก้ค่าสายตา PRK, LASIK, Femto LASIK, ReLEx SMILE
• ReLEx SMILE คืออะไร ดีไหม ทำที่ไหนดี มีผลข้างเคียงอย่างไร?
• รวมราคาเลสิกและสถานพยาบาลที่มีบริการ
• ทำ PRK ผ่าตัดรักษาสายตา ข้อจำกัดน้อย ราคาไม่สูง