รีวิว ตรวจตาก่อนทำเลสิกแบบ ReLEx SMILE


รีวิว ตรวจตาก่อนทำเลสิกแบบ ReLEx ที่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

สรุปการรีวิว

ขยาย

ปิด

  • เวลาเทนใส่คอนแทคเลนส์ ก็จะใส่แบบที่แพงที่สุด ถ้าคอนแทคเลนส์ทั่วไปจะมีปัญหาตาแห้งตามมา บางครั้งที่กลับมาใส่แว่นก็ต้องปวดหัวกับความขี้ลืมของตัวเอง เพราะเทนชอบทำแว่นหาย สรุปแล้ว เทนเสียค่าใช้จ่ายไปกับสายตาที่สั้นของตัวเองไปเยอะมากๆ ค่ะ
  • พอดีเทนได้ไปเห็นโปรโมชั่นการ ทำเลสิกแบบ ReLEx (Refractive Lenticule Extraction) มาค่ะ ก็เลยสนใจมากๆ เลย
  • หลังจากทำนัดกับทางโรงพยาบาล เทนก็เข้าไปรับการตรวจสายตาก่อน บอกเลยว่าตรวจละเอียดมากๆ
  • คุณหมออธิบายการ ทำเลสิกแบบ ReLEx แบบละเอียดมาก โดยจุดเด่นของการ ทำ ReLEx ก็คือ เป็นการทำเลสิกที่มีแผลที่กระจกตาเล็กที่สุดในเทคโนโลยีการทำเลสิกตอนนี้ค่ะ
  • หลังจากตรวจเสร็จเรียบร้อย คุณหมอก็คอนเฟิร์มผลการตรวจตาว่าเทนสามารถ ทำเลสิกแบบ ReLEx ได้ เราก็นัดวันทำเลสิกกันเลย

สาเหตุที่เทนตัดสินใจทำเลสิกก็เพราะมีปัญหาเรื่องสายตาสั้นอยู่ที่ประมาณ 200 แม้ว่าค่าสายตาจะไม่ถึงกับแย่มาก แต่มันก็ทำให้มองอะไรหลายๆ อย่างไม่ชัด หลายคนชอบทักว่าเทนหยิ่ง ไม่มองหน้าใครตรงๆ หรือเวลาเจอกันข้างนอกเทนก็ไม่เคยทักเลย แต่จริงๆ แล้วมองไม่เห็นต่างหาก 555+

เวลาเทนใส่คอนแทคเลนส์ เทนจะใส่แบบที่ดีที่สุดและมีราคาสูง เพราะเทนทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ยาวตั้งแต่เช้าถึงดึกๆ เลย ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ทั่วไปจะมีปัญหาตาแห้ง และบางครั้งที่กลับมาใส่แว่นก็ต้องปวดหัวกับความขี้ลืมของตัวเอง เพราะเทนชอบทำแว่นหาย และแว่นแบบกรองแสงฟ้าก็ไม่ใช่ถูกๆ สรุปแล้ว เทนเสียค่าใช้จ่ายไปกับสายตาที่สั้นของตัวเองไปเยอะมากๆ ค่ะ

พอดีเทนได้ไปเห็นโปรโมชั่นการ ทำเลสิกแบบ ReLEx (Refractive Lenticule Extraction) มาค่ะ ซึ่งราคาปกติจะอยู่ที่หลักแสนกว่าเลย เทนก็เลยสนใจ ทำเลสิกแบบ ReLEx ที่นี่ค่ะ

ขั้นตอนการตรวจตาก่อนทำเลสิกแบบ ReLEx SMILE

หลังจากทำนัดกับทางโรงพยาบาล เทนก็เข้าไปรับการตรวจสายตาก่อน บอกเลยว่าตรวจละเอียดมากๆ อันดับแรกพอไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จะพาไปวัดสายตาด้วยเครื่องอัตโนมัติก่อน แล้วต่อด้วยการวัดสายตาแบบ Manual ซึ่งจะเป็นการปิดตาทีละข้างแล้วอ่านตัวเลขแบบที่หลายๆ คนเคยตรวจกัน

ภาพขั้นตอนการตรวจวัดสายตา
ภาพอุปกรณ์ตรวจวัดสายตา
ภาพผลการตรวจค่าสายตา

จากนั้นก็จะมีวัดความดันตา การวัดตรงนี้ก็จะตื่นเต้นหน่อย เพราะมันจะมีลมมาพ่นใส่ตาเราเหมือนไอพ่นแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนนั่งรอให้ลมพ่นออกมาก็จะลุ้นๆ หน่อย 555+

เครื่องตรวจความดันตา

แล้วเจ้าหน้าที่ก็พาไปวัดความหนาของกระจกตาค่ะ โดยปกติแล้วกระจกตาควรจะมีค่าความหนาอยู่ที่ 500-600 ไมครอน ถ้าต่ำกว่า 500 ไมครอน คุณหมอจะไม่แนะนำให้ทำเลสิก เพราะการผ่าตัดเปิดชั้นกระจกตา จะทำให้กระจกตาบางลงไปอีกค่ะ

หลังจากตรวจครบทุกรายการ ก็ได้เวลาพบกับคุณหมอที่เป็นจักษุแพทย์โดยตรง ซึ่งคุณหมอที่เทนเข้ามาพบในวันนี้เป็นคุณหมอสูงวัยที่ดูคูลๆ อะค่ะ ประทับใจมาก เพราะคุณหมออธิบายเก่งมากๆ เลย

ภาพบรรยากาศในรพ.

คุณหมออธิบายการ ทำเลสิกแบบ ReLEx แบบละเอียดมาก โดยจุดเด่นของการ ทำ ReLEx ก็คือ เป็นการทำเลสิกที่มีแผลที่กระจกตาเล็กที่สุดในเทคโนโลยีการทำเลสิกตอนนี้ค่ะ

แล้วคุณหมอก็อธิบายถึงความเสี่ยงว่าการทำเลสิกอาจทำให้ตาบอดได้ แต่โอกาสจะต่ำมากๆ ซึ่งที่ผ่านมาคนไข้ของคุณหมอไม่เคยเกิดภาวะนั้นเลยค่ะ แต่คุณหมอก็แจ้งไว้ก่อนเพราะเป็นเรื่องสำคัญ

เรื่องที่เทนกังวลแล้วปรึกษาคุณหมอเพิ่มก็คือ ค่าสายตาเทนไม่ได้สั้นมาก อายุเทนก็ไม่ได้เยอะ เพื่อนๆ หลายคนก็ทักท้วงว่า น่าจะทำเลสิกตอนที่อายุเยอะกว่านี้ ให้สายตาแย่กว่านี้ก่อนค่อยไปทำ เพราะถ้าทำไปตอนนี้สายตาแย่ลงอีกก้ต้องกลับมาทำอีกรอบ

ซึ่งคุณหมอก็อธิบายว่าจริงๆ แล้วมีคนไข้น้อยมากที่ต้องกลับมาทำเลสิกเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็ขึ้นกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตหลังทำด้วย ถ้าใช้สายตาเยอะ ไม่ถนอมสายตา ก็มีความเสี่ยงที่จะต้องกลับมาทำเลสิกใหม่ แต่การจะทำเลสิกซ้ำได้ กระจกตาจะต้องมีความหนาที่มากพอนะคะ

หลังจากพูดคุยกันต่ออีกสักพัก คุณหมอก็ให้ไปตรวจตาในส่วนอื่นกันต่อ โดยสิ่งแรกคือ เจ้าหน้าที่จะตรวจความแห้งของดวงตากันค่ะ

ภาพขั้นตอนการตรวจความแห้งของตา

วิธีการตรวจคือ เจ้าหน้าที่จะสอดกระดาษมีลักษณะตัดเป็นรูปทรงยาวๆ ตามภาพ เข้าไปแตะกับลูกตาของเรา แล้วดูว่าน้ำที่ซึมออกมากับเนื้อกระดาษมันไล่มาถึงระดับไหน ความรู้สึกไม่ได้เจ็บนะคะ แต่รู้สึกเหมือนมีของมาแตะลูกตา ออกจะรำคาญๆ บวกกับรู้สึกไม่ค่ะ

เมื่อเสร็จขั้นตอนการตรวจตาแห้งแล้ว ก็จะตรวจการขยายของรูม่านตา โดยเจ้าหน้าที่จะหยอดยาขยายม่านตาให้เราก่อน แล้วตรวจดูปฏิกิริยาของดวงตาว่า รูม่านตาของเราขยายได้ขนาดไหน

หลังจากนั้นก็กลับเข้าไปพบคุณหมออีกครั้ง คุณหมอจะตรวจจอประสาทตาของเราโดยการเอากล่องสีเหลี่ยมๆ มาใส่ที่ตาเรา ตรงปลายกล่องจะมีเลนส์แข็งๆ ติดอยู่ แล้วคุณหมอก็จะถ่างตาแล้วเอาเลนส์ที่กล่องนั้นมาใส่ให้เราค่ะ ค่อนข้างน่าหวาดเสียวพอสมควรเลย

จากนั้นคุณหมอก็จะเอาแสงจ้าๆ มาส่องที่ตาเพื่อตรวจจอประสาทตา ระดับแสงที่ส่องมาคือจ้ามากๆ เหมือนกำลังจะได้ไปสวรรค์ที่มีแสงสว่างมากๆ เลย 555+ เทนอยากหลับตาแต่ก็โดนพยาบาลจับไว้แล้วกำชับว่าห้ามหลับตาค่ะ

หลังจากตรวจเสร็จเรียบร้อย คุณหมอก็คอนเฟิร์มผลการตรวจตาว่าเทนสามารถ ทำเลสิกแบบ ReLEx ได้ เราก็นัดวันทำเลสิกกันเลย

ภาพบรรยากาศภายในรพ.

สรุปลำดับการตรวจสุขภาพตาก่อนทำเลสิกแบบ ReLEx ก็มีเท่านี้ค่า อาจารย์หมอใจดี อธิบายง่าย มือเบามากๆ แถมคุณหมอยังเท่สุดๆ ไปเลย

อ้อ หลายคนอ่านจบแล้วอาจจะสงสัยว่า ควรพาญาติหรือเพื่อนมาด้วยดีมั้ย เพราะดูมีบางขั้นตอนที่อาจจะทำให้เรามองเห็นพร่าเบลอไปบ้าง เทนว่าถ้าขับรถมาเอง ก็พาใครมาเป็นเพื่อนสักคนก็ดีค่ะ แล้วขากลับก็ให้เขาขับรถให้ เพื่อความปลอดภัยของเรา

แต่ถ้าเรามาแท็กซี่แล้วกลับบ้านด้วยแท็กซี่เหมือนกัน คิดว่าก็ไม่จำเป็นนะคะ เพราะเทนก็ไปขึ้นแท็กซี่กลับบ้านได้ตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยค่า

ไว้เมื่อเทนทำเลสิกแบบ ReLEx เรียบร้อยแล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะคะว่าเป็นยังไงกันบ้าง ส่วนใครที่สนใจอยากทำเลสิก แต่ไม่รู้จะซื้อแพ็กเกจที่ไหน และอยากได้ราคาถูกลงมาหน่อย ก็ลองกดเข้าไปดู แพ็กเกจทำเลสิก ที่ HDmall.co.th ก็ได้นะคะ

หรือใครอยากตรวจสุขภาพตาก่อน ใน HDmall.co.th ก็มีแพ็กเกจตรวจตา รักษาโรคเกี่ยวกับตา ด้วยเหมือนกันค่า ลองคลิกเข้าไปดูก่อนได้นะคะ


บทความที่ HDmall.co.th แนะนำ

@‌hdcoth line chat