Oxycodone (ออกซิโคโดน)

ยา Oxycodone เป็นยาที่ใช้ในการบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรง ในกลุ่ม Opioid (narcotic) analgesics ซึ่งยาจะออกฤทธิ์ที่สมองเพื่อเปลี่ยนแปลงความรู้สึกและการตอบสนองต่อความเจ็บปวด

สรรพคุณของยา Oxycodone

• บรรเทาอาการปวด: ใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดเฉียบพลัน เช่น อาการปวดหลังการผ่าตัด หรืออาการปวดหลังการบาดเจ็บ รวมถึงอาการปวดเรื้อรัง เช่น อาการปวดจากโรคมะเร็ง
• ระงับประสาท: เนื่องจากเป็นยากลุ่ม opioid จึงมีคุณสมบัติในการระงับประสาท ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดรู้สึกผ่อนคลายและช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

วิธีใช้ยา Oxycodone

• อ่านคำแนะนำในการใช้ยาที่ได้รับจากเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ และในทุกครั้งที่มารับยาซ้ำ หากมีคำถามใดๆ ให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกร
• รับประทานยานี้เป็นประจำตามที่แพทย์สั่ง ห้ามใช้ยานี้เพื่อบรรเทาปวดเป็นครั้งคราว ยานี้สามารถรับประทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ โดยทั่วไปจะรับประทานทุกๆ 12 ชั่วโมง ถ้าใช้ยาไปแล้วมีอาการคลื่นไส้ อาจเปลี่ยนมารับประทานพร้อมอาหาร หรือหลังอาหารทันทีก็ได้ และให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีบรรเทาอาการคลื่นไส้ ถ้าอาการคลื่นไส้ยังไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์
• ให้กลืนยา Oxycodone ทั้งเม็ด ห้ามหัก บด เคี้ยว หรือละลายยาก่อนรับประทาน เพราะจะทำให้ยาถูกปลดปล่อยออกมาจากเม็ดทั้งหมด ทำให้เพิ่มโอกาสการได้รับยาเกินขนาดได้
• หากคุณต้องรับประทานยานี้มากกว่ามื้อละ 1 เม็ด แนะนำให้กลืนยาทีละ 1 เม็ด เพื่อป้องกันไม่ให้สำลักหรือกลืนยาลำบาก อย่าเอายาแช่น้ำ เลียเม็ดยา หรือทำให้เม็ดยาเปียกก่อนรับประทาน เมื่อกลืนยาแล้ว ให้ดื่มน้ำตามอย่างเพียงพอ เพื่อให้มั่นใจว่ายาถูกกลืนลงไปจนหมด
• ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานผลไม้เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit) หรือน้ำผลไม้เกรฟฟรุ๊ต ขณะใช้ยา Oxycodone ยกเว้นแพทย์หรือเภสัชกรแจ้งว่าคุณสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย เพราะผลไม้เกรฟฟรุ๊ตจะเพิ่มโอกาสเกิดอาการข้างเคียงจากยา ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
• ขนาดยาที่คุณได้รับจะขึ้นกับสภาวะโรคและการตอบสนองต่อการรักษา ห้ามปรับเพิ่มขนาดยา หรือรับประทานบ่อยครั้งกว่า หรือรับประทานยาเป็นระยะเวลานานกว่าที่แพทย์ และให้หยุดยาอย่างเหมาะสมเมื่อแพทย์สั่งให้หยุดได้
• ก่อนคุณจะใช้ยา Oxycodone ให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนว่าคุณจำเป็นต้องหยุดยา หรือเปลี่ยนวิธีการใช้ยา Opioid ชนิดอื่นที่กำลังใช้ร่วมด้วยหรือไม่ นอกจากนี้คุณอาจได้รับยาบรรเทาปวดชนิดอื่นร่วมด้วย เช่น Paracetamol, Ibuprofen และให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีใช้ยา Oxycodone ร่วมกับยาอื่นอย่างปลอดภัย
• ยา Oxycodone อาจทำให้เกิดการถอนยาได้ (Withdrawal reactions) โดยเฉพาะถ้าคุณใช้ยานี้เป็นเวลานานติดต่อกันหรือใช้ยาในขนาดสูง หากหยุดใช้ยากะทันหันอาจเกิดอาการถอนยาขึ้นได้ เช่น กระสับกระส่าย น้ำตาไหล น้ำมูกไหล คลื่นไส้ มีเหงื่อออก ปวดกล้ามเนื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการถอนยา แพทย์อาจพิจารณาปรับลดขนาดยาลงช้าๆ ก่อนหยุดยาให้กับคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกร และถ้ามีอาการถอนยาเกิดขึ้นให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
• เมื่อใช้ยา Oxycodone ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดีดังเดิม ดังนั้นถ้าเกิดอาการนี้ขึ้น ให้แจ้งแพทย์
• แม้ว่ายานี้จะช่วยรักษาผู้ป่วยจำนวนมาก แต่อาจทำให้เกิดอาการติดยาได้ (Addiction) ซึ่งจะมีโอกาสเกิดมากขึ้นถ้าคุณติดยาเสพติด หรือติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นแนะนำให้รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดเพื่อลดโอกาสเกิดอาการติดยา และปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
• แจ้งแพทย์หากอาการปวดไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง

ผลข้างเคียงของยา Oxycodone

• อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา Oxycodone ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ปากแห้ง อ่อนแรง เหงื่อออก เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือง่วงนอน ซึ่งอาการข้างเคียงบางอย่างอาจค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อใช้ยาไปสักระยะหนึ่ง ถ้าอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
• เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการท้องผูก ให้รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และออกกำลังกาย คุณอาจจำเป็นต้องรับประทานยาระบาย ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับการเลือกยาระบายที่เหมาะสมสำหรับคุณ
• เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการวิงเวียน และอาการหน้ามืด ให้ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ เมื่อเปลี่ยนจากท่านั่งหรือท่านอน
• คุณอาจสังเกตเห็นเปลือกแคปซูลยาในอุจจาระได้ ซึ่งไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะร่างกายได้ดูดซึมยาไปเรียบร้อยแล้ว
• โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
• ให้รีบไปพบแพทย์ทันที หากคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงมาก ได้แก่ หน้ามืด เป็นลม มีอาการชัก หายใจช้า หายใจตื้น ง่วงนอนอย่างรุนแรง ตื่นนอนยาก
• ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ ผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ) เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก
• อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

แจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง ได้แก่

• อารมณ์หรือสภาพจิตใจเปลี่ยนแปลงไป เช่น กระสับกระส่าย สับสน ประสาทหลอน
• ปวดท้องอย่างรุนแรง
• ปัสสาวะลำบาก
• มีอาการภาวะต่อมหมวกไตไม่ทำงาน เช่น เบื่ออาหาร อ่อนเพลียผิดปกติ น้ำหนักลด

ข้อควรระวังในการใช้ยา Oxycodone

• ยา Oxycodone ในขนาดสูงมากกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเม็ด ควรใช้ในผู้ที่ได้รับยาแก้ปวดในกลุ่ม Opioid ในขนาดปานกลางถึงขนาดสูงเป็นประจำมาก่อนแล้วเท่านั้น เพราะขนาดยาที่มากกว่า 40 มิลลิกรัมอาจทำให้เกิดการได้รับยาเกินขนาด (Overdose) ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้หากรับประทานในผู้ที่ไม่ได้ใช้ยาในกลุ่ม Opioids เป็นประจำ
• ห้ามใช้ยา Oxycodone ชนิดออกฤทธิ์นานเพื่อบรรเทาอาการปวดที่ไม่รุนแรง หรืออาการปวดที่ดีขึ้นในเวลาไม่กี่วัน และยานี้ไม่ใช่ยาสำหรับบรรเทาอาการปวดเฉียบพลันตามอาการ
• ถ้าคุณแพ้ยา Oxycodone หรือแพ้ยาแก้ปวดในกลุ่ม Opioid ตัวอื่นๆ เช่น Oxymorphone หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
• ยา Oxycodone อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงนอน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้คุณมีอาการวิงเวียนศีรษะหรือง่วงนอนได้มากขึ้น ห้ามขับรถ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องอาศัยการตื่นตัว จนกว่าคุณจะทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
• ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่
• ผู้สูงอายุอาจเกิดอาการข้างเคียงจากยาได้มากกว่าปกติ โดยเฉพาะอาการสับสน เวียนศีรษะ ง่วงนอน หายใจช้า หายใจตื้น
• ระหว่างการตั้งครรภ์ ยานี้ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นจริงๆ เพราะยาอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ โดยให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์
• ยา Oxycodone ผ่านไปยังน้ำนมได้ และอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารกที่กินนมแม่ ดังนั้นให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้าพบว่าทารกมีอาการง่วงนอนผิดปกติ ไม่ยอมดูดนม หรือหายใจผิดปกติ และให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร

ก่อนการใช้ยา Oxycodone ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณ

• เป็นโรคทางสมอง เช่น ได้รับบาดเจ็บที่สมอง มีเนื้องอกในสมอง มีอาการชัก
• มีปัญหาในการหายใจ เช่น หอบหืด หยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep apnea) โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease-COPD)
• เป็นโรคไต
• เป็นโรคตับ
• อารมณ์ สภาพจิตใจเปลี่ยนแปลงไป เช่น สับสน ซึมเศร้า
• ตนเองหรือคนในครอบครัวติดสารเสพติด หรือแอลกอฮอล์
• มีปัญหาที่ลำไส้ หรือกระเพาะอาหาร เช่น มีการอุดตัน ท้องผูก ท้องเสียจากการติดเชื้อ ภาวะลำไส้อืด (Paralytic ileus)
• มีอาการกลืนลำบาก
• มีอาการปัสสาวะลำบาก เช่น เกิดจากต่อมลูกหมากโต
• เป็นโรคตับอ่อนอักเสบ
• เป็นโรคของถุงน้ำดี

คำเตือนในการใช้ยา Oxycodone

• ยา Oxycodone เป็นยาที่มีความเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิดและเสี่ยงต่อการติดยาได้ นำไปสู่การได้รับยาเกินขนาดและการเสียชีวิต ยา Oxycodone อาจทำให้เกิดปัญหาอย่างรุนแรงทางระบบหายใจและการเต้นของหัวใจ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ เพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว แพทย์ควรให้คุณใช้ยาในขนาดต่ำที่สุดที่ยังมีประสิทธิภาพในการรักษา และให้ใช้ยาในระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• ความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาอย่างร้ายแรงทางระบบหายใจจะสูงขึ้นในช่วงที่เริ่มใช้ยา หรือเมื่อมีการปรับเพิ่มขนาดยา หรือเมื่อใช้ยาผิดขนาด ผิดความแรง
• การรับประทานยา Oxycodone ร่วมกับแอลกอฮอล์ หรือยาอื่นที่ทำให้มีอาการง่วงนอน หรือมีปัญหาในการหายใจ อาจนำไปสู่การเกิดอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงมาก รวมถึงการเสียชีวิต นอกจากนี้ยาอื่นๆ ที่ส่งผลรบกวนการกำจัดยา Oxycodone ออกจากร่างกาย อาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา Oxycodone ด้วย ดังนั้นคุณต้องทราบว่ามีรายการยาบางชนิดที่ไม่สามารถใช้ร่วมกับยา Oxycodone ได้ และหากเกิดอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงมากเกิดขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ หายใจช้า หายใจตื้น หน้ามืด เวียนศีรษะผิดปกติ เวียนศีรษะอย่างรุนแรง ง่วงนอนอย่างรุนแรง ตื่นนอนยาก
• ห้ามหักเม็ดยา บด เคี้ยว หรือละลายเม็ดยาก่อนรับประทาน การรับประทานยา Oxycodone ชนิดออกฤทธิ์นานที่ถูกหัก บด เบี้ยว หรือถูกละลายแล้วอาจทำให้ได้รับยาเกินขนาด และอันตรายถึงชีวิตได้
• ให้เก็บยานี้อย่างมิดชิดในที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการขโมย การนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือการใช้ผิดวิธี ถ้ามีใครก็ตามที่กลืนยานี้เข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
• ก่อนเริ่มใช้ยา Oxycodone ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยานี้ระหว่างตั้งครรภ์ ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทราบหากกำลังตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์
• ระหว่างตั้งครรภ์ ยานี้ควรใช้เฉพาะในกรณีที่ประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นจริงๆ ซึ่งยาอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการพิการแต่กำเนิดของทารกถ้าใช้ยาในช่วง 2 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ นอกจากนี้การใช้ยา Oxycodone เป็นเวลานาน หรือใช้ยาในขนาดสูงใกล้กับช่วงวันใกล้คลอด อาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว ให้ใช้ยา Oxycodone ในขนาดต่ำที่สุดที่ยังมีประสิทธิภาพในการรักษาโรค และใช้ในระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
• ทารกที่คลอดจากมารดาที่ใช้ยา Oxycodone เป็นระยะเวลานาน อาจมีอาการถอนยาอย่างรุนแรง (อาจทำให้เสียชีวิต) ดังนั้นให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้าสังเกตเห็นความผิดปกติในทารกแรกเกิด เช่น ร้องไห้ไม่หยุด หายใจช้า หายใจตื้น หงุดหงิดฉุนเฉียว ตัวสั่น อาเจียน ท้องเสีย ไม่ยอมดูดนม หรือน้ำหนักตัวเพิ่มช้า

ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยา Oxycodone

สภาวะต่อไปนี้ถือเป็นข้อห้ามในการใช้ยา Oxycodone ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้

• โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด systemic mastocytosis
• เป็นเนื้องอกในสมอง
• มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำที่ไม่ได้รับการรักษา
• เป็นโรค Addison’s disease
• มีการสูญเสียน้ำออกจากร่างกายในปริมาณมาก
• มีอาการทางจิตที่เกิดจากการถอนแอลกอฮอล์อย่างเฉียบพลัน
• มีอาการทางจิตที่เกิดจากสารพิษ
• มีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์
• มีความคิดฆ่าตัวตาย
• ติดยาเสพติด
• ภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ (Alcohol intoxication)
• มีการใช้ยาในทางที่ผิด
• หัวใจขวาล้มเหลว (Cor Pulmonale)
• หัวใจเต้นช้า
• หัวใจเต้นผิดปกติ
• ความดันโลหิตต่ำผิดปกติ
• ถุงลมโป่งพอง
• การทำงานของปอดลดลง
• ลำไส้ใหญ่เป็นแผล
• ลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory bowel disease)
• ท้องผูก
• เป็นโรคตับ
• เป็นโรคถุงน้ำดี หรือท่อน้ำดี
• เป็นโรคไตที่มีการทำงานของไตลดลง
• ท่อปัสสาวะตีบแคบ
• ต่อมลูกหมากโต
• อยู่ในภาวะโคม่า
• มีอาการชัก
• มีอาการช็อก
• ไม่สามารถปัสสาวะได้ปกติ (ปัสสาวะลำบาก)
• ผู้ป่วยที่ร่างกายอ่อนแอ
• มีความดันในกะโหลกศีรษะสูง
• มีอาการปวดเกร็งท้อง
• เป็นโรคอ้วนที่มีโรคแทรกซ้อน หรืออันตรายต่อชีวิต
• เป็นหอบหืดที่มีอาการแย่ลง
• แพ้ยาในกลุ่ม Opioids หรือ Morphine หรือยาที่มีโครงสร้างคล้ายกัน
• แพ้ยา Tramadol
• แพ้ยา Oxycodone

การใช้ยา Oxycodone ร่วมกับยาอื่น

• การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
• ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานแอลกอฮอล์ระหว่างการใช้ยา Oxycodone เพราะแอลกอฮอล์และยา Oxycodone มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง (Central nervous system (CNS)) ทำให้มีอาการง่วงนอนอย่างมาก หายใจช้า หรือหายใจลำบาก โคม่า และอาจทำให้เสียชีวิตได้ หากมีอาการหายใจช้า หายใจลำบาก หายใจตื้น ง่วงนอนอย่างรุนแรง ตื่นนอนยาก หัวใจเต้นช้าผิดปกติ ผิวหนังเย็น ผิวหนังชื้น หรือมีอาการชักเกิดขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

รายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา Oxycodone

• Naltrexone
• ยาที่ยังยั้งการทำงานของเอนไซม์ CYP3A4 บางรายการ
• Nalbuphine
• Butorphanol
• Buprenorphine
• Sodium Oxybate
• ยาที่กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ CYP3A4 อย่างมาก (บางรายการ)
• Cimetidine
• Phenobarbital, Primidone
• Benzodiazepines
• ยานอนหลับ ยาคลายกังวล
• ยาคลายกล้ามเนื้อ
• ยาต้านโรคจิตเภท, Phenothiazines
• ยาที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ CYP2D6 อย่างแรง (Strong CYP2D6 Inhibitors)
• Desmopressin
• Gabapentinoids

การได้รับยา Oxycodone เกินขนาด

• หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา Oxycodone เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
• อาการของการได้รับยาเกินขนาด อาจได้แก่ หายใจช้า หายใจตื้น หัวใจเต้นช้า โคม่า

หากลืมรับประทานยา Oxycodone

• ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้
• หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า

การเก็บรักษายา Oxycodone

• เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำ เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
• ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก

หมายเหตุ

• ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้
• ยานี้ถูกสั่งให้คุณเฉพาะสภาวะโรคในปัจจุบันเท่านั้น ห้ามใช้ยานี้ในสภาวะอื่นๆ ยกเว้นแพทย์สั่ง เพราะในแต่ละครั้งของการรักษาโรค อาจจำเป็นต้องใช้ยาชนิดอื่นแทน
• สอนให้คนในครอบครัวของคุณรู้ถึงวิธีสังเกตอาการของการได้รับยาเกินขนาด และวิธีในการจัดการเมื่อพบเหตุการณ์นี้