Morphine (มอร์ฟีน) เป็นยาแก้ปวดในกลุ่มโอปิออยล์ (Opioid agonists) ออกฤทธิ์ยับยั้งสัญญาณความเจ็บปวดที่เข้าสู่สมองด้วยการไปจับกับโปรตีนในระบบประสาทที่ชื่อว่า “โอปิออยล์รีเซพเตอร์ (Opioid receptors)”
Morphine จะใช้รักษาอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรงทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ โดยยานี้มักถูกพบในข่าวว่า มีผู้ป่วยที่ใช้ยานี้เกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งมักพุ่งเป้าการฟ้องร้องไปที่ผู้จ่ายยา หรือคลินิกที่สั่งจ่ายยา
สารบัญ
การใช้ยา Morphine เกินขนาด และการถอนยา
การใช้ยา Morphine มีความเสี่ยงต่อการติดยาได้เช่นเดียวกับยาในกลุ่มโอปิออยล์ตัวอื่นๆ โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติ หรือประวัติครอบครัวเคยติดยา
การติดยามักทำให้ผู้ติดยาต้องสรรหาวิธีการเข้าถึงยาหลากหลายรูปแบบ เช่น การโทรศัพท์ หรือไปห้องฉุกเฉิน แกล้งทำเป็นยาหาย การเปลี่ยนแพทย์ที่ไปพบเรื่อยๆ หรือพยายามขอยาเพิ่มจากแพทย์
แม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้ใช้ยา Morphine เกินขนาด แต่คุณอาจเกิดอาการติดยาและมีอาการถอนยาได้ หากหยุดรับประทานยาทันที จึงควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรเกี่ยวกับปริมาณยาที่ควรรับประทาน และวิธีการลดปริมาณยาก่อนหยุดยาอย่างถูกต้อง
อาการถอนยา ประกอบด้วย
- มีน้ำตามากและคัดจมูก
- กระสับกระส่าย และวิตกกังวล
- เหงื่อออกและหนาวสั่น
- อยู่ไม่สุข หาว และมีปัญหาในการนอนหลับ
- ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดข้อ
- คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสีย และปวดท้อง
- อ่อนแรง
- หัวใจเต้นเร็วและหายใจเร็ว
ข้อควรระวังเกี่ยวกับยา Morphine
- การใช้ Morphine ร่วมกับยากดระบบประสาทส่วนกลาง จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการกดหายใจ และภาวะอื่นๆ ที่ทำให้เสียชีวิตได้ เช่น ความดันโลหิตต่ำ กล่อมประสาทอย่างรุนแรง หมดสติ และเสียชีวิต
- การใช้ Morphine รูปแบบน้ำที่มีความเข้มข้นสูงที่สุด (100 มิลลิกรัมใน 5 มิลลิลิตร) และการรับประทานยา Avinza แคปซูลขนาด 90 มิลลิกรัมขึ้นไป ควรรับประทานในผู้ที่คุ้นเคยกับผลของยาในกลุ่มโอปิออยล์มาก่อน
- หากคุณเพิ่งได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือมีความดันภายในกระโหลกศีรษะสูง การรับประทานยา Morphine อาจเพิ่มผลในการกดการหายใจได้ และยังอาจเพิ่มความดันภายในกระโหลกศีรษะขึ้นอีกด้วย
- การใช้ยา Morphine ขณะที่คุณมีโรคเกี่ยวกับน้ำดีหรือท่อที่มาจากตับอ่อน อาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดเกิดการหดเกร็งและทำให้การหลั่งน้ำดีและน้ำย่อยจากตับอ่อนนั้นน้อยลงได้
อาการและโรคที่ควรแจ้งแพทย์
- มีหรือเคยเป็นโรคไตหรือตับที่รุนแรง
- มีความดันโลหิตต่ำ
- โรคแอดดิสัน (Addison’s disease)
- มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ
- ต่อมลูกหมากโต
- ชัก
- กลืนลำบาก
- มีปัญหาในการปัสสาวะ
กรณีที่ไม่ควรใช้ Morphine
- อาการแพ้ Morphine
- มีปัญหาที่ทำให้กดการหายใจ โรคหอบหืด
- มีระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายที่ผิดปกติ
- อยู่ในสถานที่ที่ไม่มีคนดูแล หรือไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือ
- ลำไส้ไม่เคลื่อนไหว และเกิดการอุดตัน
ในผู้หญิงตั้งครรภ์ และผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
Morphine จัดอยู่ในกลุ่ม C คือ ยาอาจส่งผลต่อทารก และไม่สามารถยืนยันได้ว่า ยาจะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ จึงไม่ควรใช้ยานี้ในผู้หญิงตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ยาจริงๆ แพทย์จะใช้ในกรณีที่เกิดประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงเท่านั้น
สำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ยาสามารถส่งผ่านน้ำนมได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ยาในทารก จึงไม่ควรใช้ยาเช่นกัน
ผลข้างเคียงของการใช้ยา Morphine
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของการใช้ยา Morphine ประกอบด้วย
- ท้องผูก
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ง่วงนอน
- เวียนศีรษะและมึนหัว
- เหงื่อออก
ผลข้างเคียงที่รุนแรงของการใช้ยา Morphine
ควรไปพบแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการ
- อัตราการเต้นของหัวใจเปลี่ยนแปลง
- ชัก
- เป็นลม
- เจ็บหน้าอก
- มีไข้
- ผื่นคัน ลมพิษ
- คอและหน้าบวม
- เสียงแหบ หายใจลำบาก หรือกลืนลำบาก
ปฏิกิริยาระหว่างยา Morphine และยาอื่น
Morphine อาจทำปฏิกิริยากับ
- ยากดระบบประสาทส่วนกลาง
- ยาคลายกล้ามเนื้อ
- Cimetidine (Tagamet)
- ยากลุ่ม Monoamine oxidase inhibitors (MAOIs)
- ยากลุ่ม anticholinergics
- ยากลุ่ม P-Glycoprotein (PGP) inhibitors
- ยาขับปัสสาวะ
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังรับประทานอยู่ รวมถึงอาหารเสริม และยาสมุนไพร เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา
ควรหลีกเลี่ยงการขับรถ หรือใช้งานเครื่องจักรขณะรับประทานยา เด็กที่ได้รับยานี้โดยไม่ตั้งใจอาจได้รับยาเกินขนาด และเสียชีวิตได้
Morphine กับแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์ขณะที่รับประทานยา Morphine จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะที่เป็นอันตรายต่อชีวิต โดยเฉพาะหากคุณรับประทานยาชนิดที่ออกฤทธิ์นานกว่าปกติ เช่น Avinza
เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้มีการปล่อย Morphine ออกมาอย่างรวดเร็ว และการเคี้ยวยาเหล่านี้จะทำให้ปล่อย Morphine ออกมาในปริมาณมากเช่นเดียวกัน
ขนาดของยา Morphine ที่ใช้ในการรักษา
Morphine มีหลายรูปแบบ ทั้งแคปซูล แคปซูลชนิดออกฤทธิ์นาน ยาน้ำ และยาฉีด ควรใช้ยานี้ตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น
อาการได้รับยา Morphine เกินขนาด
การได้รับยา Morphine เกินขนาดจะทำให้เกิดอาการ
- กดการหายใจ
- ง่วงนอนอย่างรุนแรงจนถึงขั้นไม่รู้สึกตัวและหมดสติได้
- กล้ามเนื้ออ่อนตัว
- ผิวหนังเย็น
- ม่านตาหดแม้อยู่ในที่มืด
- เกิดการคั่งของสารน้ำในปอดที่ผิดปกติ
- หัวใจทำงานช้ากว่าปกติและหยุดทำงาน
- ความดันโลหิตต่ำ
- เสียชีวิต
หากคุณได้รับยา Morphine เกินขนาด ควรไปห้องฉุกเฉินในทันที
การลืมรับประทานยา Morphine
หากคุณลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่คุณนึกได้ แต่ให้เว้นระยะห่างจากยามื้อถัดไปให้เท่ากับปกติที่คุณเคยรับประทาน
แต่หากกำลังจะถึงการรับประทานยาครั้งถัดไป ก็ให้ข้ามมื้อที่ลืมนั้นไปและรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ และให้ข้ามยาที่ลืมนั้นไปเลยหากคุณรับประทานยา Avinza แบบแคปซูล
คำถามเกี่ยวกับยา Morphine
1. Morphine ทำให้น้ำหนักเพิ่มได้หรือไม่
คำตอบ: Morphine เป็นยาที่ใช้รักษาอาการปวดด้วยการบดบังตัวรับความรู้สึกเจ็บปวดในสมอง ยานี้มีทั้งในรูปแบบที่ออกฤทธิ์สั้นและออกฤทธิ์ยาว ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการใช้ยาประกอบด้วย ท้องผูก มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน และปากแห้ง ไม่มีรายงานที่พบว่ายานี้ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้
อย่างไรก็ตาม มีบางคนที่รับประทานยานี้แล้วน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากการที่ท้องผูกจากการใช้ยา
ผู้ที่ใช้ยา Morphine มักจะมีกิจกรรมทางกายที่ลดลง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุจากอาการปวด หรือความรู้สึกง่วงนอนจากการใช้ยาก็ตาม ดังนั้น การระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารอาจช่วยลดโอกาสที่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการใช้ยาได้
2. Morphine ส่งผลต่อฟันหรือเหงือกหรือไม่ แล้วจะรักษาอย่างไร
คำตอบ: ผลข้างเคียงเกี่ยวกับปากที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา Morphine มีอย่างเดียว คือ “อาการปากแห้ง” ซึ่งคุณสามารถเคี้ยวหมากฝรั่ง หรืออมลูกอมเพื่อบรรเทาอาการดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม ยา Morphine สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง หากหลังจากใช้ยาเกิดอาการผิดปกติใดๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ยา Morphine เป็นยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยล์ที่จำเป็นต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะยาอาจทำให้เกิดอาการติดยาและถอนยาได้ นอกจากนี้ Morphine ยังมีผลข้างเคียงหลายอย่าง จึงควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนการใช้ยา