บอกลาฟันเหลืองจากคราบชา กาแฟ ฟอกสีฟันช่วยแก้ได้ scaled

บอกลาฟันเหลืองจากคราบชา กาแฟ ฟอกสีฟันช่วยแก้ได้

ชา กาแฟ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในทุกเช้าหรือหลังมื้ออาหาร แต่ผลที่ตามมาคงหนีไม่พ้นปัญหาฟันเหลือง มีคราบชา คราบกาแฟ บนผิวฟัน จะยิ้มหรือพูดทีไรทำเอาหมดความมั่นใจทุกที แต่ไม่ต้องกังวลไป ปัญหาฟันเหลืองจากชา กาแฟ แก้ได้ง่าย ๆ ด้วยการฟอกฟัน 

ทำไมฟันเหลืองจากการดื่มชา กาแฟ 

ชาและกาแฟมีสารที่ให้สี อย่างแทนนิน (Tannins) และสารโครโมเจน (Chromogens) สารเหล่านี้จะไปจับตัวกับผิวฟัน ทำให้เกิดคราบเหลืองเกาะติดบนฟันของเรา นอกจากนี้ ชาและกาแฟยังมีฤทธิ์เป็นกรดจากสารแทนนิน จึงสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันให้บางลง ทำให้คราบสีจากชา กาแฟแทรกซึมและเกาะติดฟันของเราได้มากขึ้นนั่นเอง 

อีกทั้งชาจะมีปริมาณสารแทนนินสูงกว่ากาแฟ ฤทธิ์ในการกัดกร่อนก็จะมากตามไปด้วย การดื่มชาจึงมีโอกาสทำให้ฟันเหลืองได้มากกว่าการดื่มกาแฟ โดยเฉพาะชาดำ 

นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ฟันเหลือง ทำให้สีของฟันเปลี่ยนไปได้ เช่น อายุที่มากขึ้น พฤติกรรมการกินอาหาร ผลไม้ หรือเครื่องดื่มสีเข้มอื่น ๆ การดูแลช่องปากที่ไม่สะอาดเพียงพอ การใช้ยา และการสูบบุหรี่ เป็นต้น

ฟันเหลืองทำหมดความมั่นใจ รู้ทันสาเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง ฟันมีคราบ อ่านเพิ่มเติมบทความนี้ได้เลย (ใส่ลิงก์บทความ ฟันเหลืองเกิดจากอะไร ทำไมสีฟันถึงเปลี่ยน และวิธีขจัดคราบเหลืองบนฟัน) 

ฟันเหลืองจากคราบชา กาแฟ แก้ได้ด้วยการฟอกฟันขาว

การฟอกสีฟันหรือการฟอกฟันขาว คือ การเปลี่ยนสีฟันที่ขุ่น คล้ำ หรือเหลืองให้ขาวขึ้นด้วยการใช้น้ำยาฟอกฟัน เพื่อให้สารเคลือบบนผิวฟันแตกตัวเล็กลง ทำให้ฟันดูขาวขึ้น แต่ไม่ได้ส่งผลให้เคลือบฟันบางลงแต่อย่างใด 

การฟอกสีฟันเป็นวิธีการแก้ปัญหาฟันเหลืองที่คนนิยมทำ เพราะเห็นผลได้ทันที นอกจากคราบจากชา กาแฟแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาฟันเหลืองจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ด้วย โดยระดับความขาวของฟันจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำยา ระยะเวลาที่ฟอกฟัน และเฉดสีฟันเดิมก่อนฟอก 

การฟอกฟันมีกี่วิธี

การฟอกสีฟัน แบ่งได้เป็น 2 วิธีหลัก ได้แก่

1. การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์

เป็นการฟอกฟันโดยทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิก โดยใช้น้ำยาฟอกฟันที่มีความเข้มข้น 30-35% และใช้เวลาฟอกฟันไม่เกิน 1 ชั่วโมง เมื่อทำเสร็จแล้วเฉดสีของฟันจะเปลี่ยนได้ทันที แต่ความขาวของฟันจะขึ้นอยู่กับสีฟันเดิมของแต่ละคน 

2. การฟอกสีฟันที่บ้าน

เป็นการฟอกสีฟันด้วยตัวเองโดยใช้น้ำยาฟอกสีฟันความเข้มข้นต่ำประมาณ 2-10% และอุปกรณ์ถาดฟอกฟันที่เฉพาะกับฟันของแต่ละคน โดยให้ใส่วันละประมาณ 1-2 ชั่วโมง สามารถทำได้ต่อเนื่องจนกว่าจะได้เฉดสีที่พอใจ แต่สีฟันที่ได้จะไม่ขาวเท่ากับฟอกฟันกับทันตแพทย์

หลังฟอกฟันเสร็จแล้ว ควรดูแลฟันอย่างไร

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฟอกสีฟัน เป็นช่วงที่ง่ายต่อการติดคราบใหม่ที่ฟัน จึงควรงดการดื่มอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง วิสกี้ เครื่องแกง และซอสปรุงรสต่าง ๆ เพราะจะทำให้สีติดที่ฟันและความขาวของสีฟันที่ฟอกไปคืนตัวได้เร็วขึ้น  

เลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเย็นจัด เนื่องจากการฟอกสีฟันทำให้ปลายประสาทเส้นเล็ก ๆ ในตัวฟันไวต่อความร้อนหรือความเย็น ทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้ง่ายกว่าปกติ แต่อาการจะดีขึ้นใน 2-3 วัน หากรู้สึกเสียวฟันมากสามารถใช้ยาสีฟันสูตรช่วยลดการเสียวฟันร่วมด้วยได้

ควรงดสูบบุหรี่ เพราะอาจมีคราบจากสารนิโคตินและควันบุหรี่ติดที่ผิวฟันได้ และที่สำคัญต้องดูแลความสะอาดในช่องปากและฟันให้ดี 

ส่วนใหญ่แล้วการฟอกสีฟันจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละคน คนที่เคยฟอกฟันแล้วสีฟันเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่อยากจะคงความขาวเอาไว้ สามารถกลับไปฟอกฟันกับทันตแพทย์หรือฟอกที่บ้านเองก็ได้

วิธีดูแลไม่ให้ฟันกลับมาเหลืองในระยะยาว

  • ดูแลรักษาความสะอาดของปากและฟันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) ครั้งละ 2 นาที ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน และพบทันตแพทย์ทุก 6-12 เดือน เพื่อตรวจเช็คสุขภาพฟันและขูดหินปูน
  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้ฟันเหลือง เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง ซอส เครื่องเทศสีเข้มต่าง ๆ เป็นต้น
  • ใช้หลอดดื่มชา กาแฟ แทนการยกดื่ม หรือดื่มน้ำเปล่าตามทันที เพื่อลดโอกาสที่จะให้คราบจากชา กาแฟ เข้ามาติดที่ผิวฟัน การยกดื่มจะทำให้ฟันด้านหน้าจะสัมผัสกับคราบเหล่านั้นได้โดยตรง
  • ลดการดื่มชา กาแฟลง ไม่ควรเกิน 2 แก้วต่อวัน และอาจผสมนมลงในเครื่องดื่ม เพื่อช่วยลดความเข้มข้นของคราบสีชาและกาแฟ 
  • แปรงฟันหลังมื้ออาหารทันที เพื่อลดโอกาสที่คราบจะมาติดผิวฟัน
  • เลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่ทำให้เพิ่มคราบสกปรกติดที่ผิวฟัน 

ฟันเหลืองจากคราบชา กาแฟ ฟอกสีฟันช่วยได้! ปิดจบปัญหายิ้มไม่สดใสผ่านโปรโมชั่นฟอกสีฟันราคาพิเศษได้ ที่นี่

Scroll to Top