teeth whitening treatment process scaled

ฟอกสีฟัน คืออะไร เปลี่ยนสีฟันให้ขาวได้จริงไหม อันตรายหรือเปล่า

ทำยังไงดี…อยากจะเผยรอยยิ้มแต่อายฟันเหลือง! ไม่ต้องกังวลไป ฟันเหลืองหรือฟันมีคราบแก้ได้ด้วยการฟอกสีฟัน แต่ก่อนตัดสินใจไปฟอกฟัน มีหลายเรื่องที่ควรรู้และทำความเข้าใจเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อช่องปาก และได้สีฟันขาวสว่างตามต้องการ จะมีเรื่องอะไรบ้าง HDmall รวบรวมมาให้แล้ว 

ฟอกสีฟัน คืออะไร 

ฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาว เป็นการปรับเฉดสีเดิมของฟันให้ขาวสว่างขึ้น โดยใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันเข้าไปทำปฏิกิริยากับเม็ดสีในตัวฟันให้แตกตัวและมีขนาดเล็กลง ทำให้สีฟันขาวดูเป็นธรรมชาติ ถือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาฟันหมองคล้ำ ฟันเหลืองจากหลายปัจจัย เช่น การรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม การสูบบุหรี่ การดูแลช่องปากไม่สะอาด และการใช้ยา 

ประเภทของฟอกสีฟัน มีกี่แบบ

ปัจจุบันการฟอกฟันแบ่งได้เป็น 2 แบบหลัก คือ ฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ (In-office Bleaching) และฟอกสีฟันเองที่บ้าน (At Home Bleaching)

1. ฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ 

เป็นการฟอกฟันที่คลินิกทันตกรรมหรือโรงพยาบาลภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ โดยจะใช้น้ำยาฟอกสีฟันกลุ่มไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) หรือกลุ่มคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ (Carbamide Peroxide) ความเข้มข้นสูงประมาณ 15-35% รวมกับการฉายแสงหรือเลเซอร์แบบต่าง ๆ เช่น Zoom หรือ Cool Light เพื่อกระตุ้นให้น้ำยาฟอกฟันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีนี้จะใช้ระยะเวลาไม่นาน ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง และเห็นผลได้ทันทีหลังฟอกฟัน

2. ฟอกสีฟันที่บ้าน 

เป็นการฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน ทันตแพทย์จะให้ชุดฟอกสีฟันกลับมาฟอกเองที่บ้าน ประกอบไปด้วยถาดครอบฟันที่ทำขึ้นเฉพาะบุคคลและน้ำยาฟอกฟัน โดยให้ใส่ถาดครอบฟันที่มีน้ำยาฟอกฟันอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อวัน ทำต่อเนื่องนาน 2-4 สัปดาห์ และสามารถฟอกซ้ำจนกว่าจะได้ตามเฉดสีที่ต้องการ วิธีนี้จะใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ถึงจะเริ่มเห็นผล เพราะน้ำยาฟอกฟันมีความเข้มข้นน้อยกว่าที่ใช้ในคลินิกทันตกรรมหรือโรงพยาบาล

นอกจากประเภทการฟอกฟันหลักแล้ว ยังแบ่งการฟอกฟันออกเป็นประเภทย่อย ๆ ได้อีก ได้แก่ 

  • การใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน (Over-the-counter Bleaching) ที่มีวางขายทั่วไป เช่น แผ่นแปะฟันขาว ยาสีฟันช่วยให้ฟันขาวหรือยาสีฟันไวท์เทนนิ่ง น้ำยาบ้วนปากช่วยให้ฟันขาว เป็นต้น
  • การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ร่วมกับการฟอกสีฟันเองที่บ้าน (In-office Assisted Bleaching) มักใช้ในคนที่มีสีฟันเข้มมาก โดยจะให้ฟอกสีฟันกับทันตแพทย์ก่อนแล้วค่อยให้กลับไปฟอกสีฟันเองที่บ้าน
  • การฟอกสีฟันเฉพาะซี่ (Internal Bleaching) ที่ต้องทำโดยทันตแพทย์ในคนที่มีฟันตาย 

ใครบ้างที่เหมาะกับการฟอกสีฟัน 

  • คนที่มีฟันเหลืองตามธรรมชาติ ฟันหมองจากคราบบนผิวฟัน โดยเฉพาะคนที่ดื่มชา กาแฟ และน้ำอัดลมเป็นประจำ คนที่สูบบุหรี่จัด    
  • คนที่มีเนื้อฟันเหลืองจากยาปฏิชีวนะ

ใครบ้างไม่ควรฟอกสีฟัน 

  • คนที่มีปัญหาในช่องปากและฟัน เช่น เหงือกร่น เหงือกไม่แข็งแรง ฟันผุ ฟันบิ่นหรือฟันแตก
  • คนที่มีอาการเสียวฟันอยู่ก่อนแล้ว เพราะอาจทำให้เสียวฟันมากขึ้น
  • คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • คนที่ใส่ฟันปลอม ครอบฟัน วีเนียร์ และใส่สะพานฟัน เพราะการฟอกฟันจะเปลี่ยนสีได้เฉพาะกับฟันธรรมชาติเท่านั้น ไม่ฟอกสีวัสดุเหล่านั้นให้ขาวขึ้นได้
  • คนอายุน้อยกว่า 16 ปี เพราะโพรงประสาทฟันยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองขึ้นได้ 

ขั้นตอนการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันทั้ง 2 แบบ จะต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน รวมถึงขูดหินปูนและขัดฟันก่อน ถ้ามีฟันผุ เหงือกร่น เหงือกอักเสบ หรือปัญหาช่องปากอื่น ๆ จะต้องรักษาให้เรียบร้อยก่อนจะฟอกฟัน โดยขั้นตอนการฟอกสีฟันแต่ละแบบมีรายละเอียด ดังนี้

ขั้นตอนฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ 

  1. ทันตแพทย์จะทาเจลบริเวณเหงือก และใส่อุปกรณ์ป้องกันในช่องปาก เพื่อไม่ให้น้ำยาฟอกสีฟันไหลไปโดนเหงือก กระพุ้งแก้ม หรือส่วนอื่นในช่องปาก 
  2. ทาน้ำยาฟอกสีฟันลงไปบนผิวฟัน และฉายแสงหรือเลเซอร์ไปที่ฟัน เพื่อเร่งการทำงานของน้ำยาฟอกฟัน ทันตแพทย์จะทำขั้นตอนนี้ซ้ำ 2-3 รอบ ขึ้นอยู่เทคโนโลยีที่ใช้
  3. เช็ดน้ำยาฟอกสีฟันออก ทำความสะอาดฟัน และทาฟลูออไรด์หรือสารช่วยลดอาการเสียวฟัน ขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 

ขั้นตอนฟอกสีฟันที่บ้าน 

หลังจากตรวจสภาพช่องปากเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะนัดเข้าไปพิมพ์ปาก เพื่อทำถาดครอบฟันที่เข้ากับรูปฟันของแต่ละคน และให้มารับพร้อมน้ำยาฟอกสีฟันอีกครั้ง ในวันที่มารับอุปกรณ์ฟอกฟัน ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีใช้ที่ถูกต้อง และนัดหมายให้กลับมาตรวจเช็กสภาพฟันหลังจากฟอกฟันครบตามกำหนดแล้ว  

  1. ก่อนเริ่มฟอกฟัน ให้แปรงฟันให้สะอาด
  2. ตรวจเช็กถาดครอบฟันว่าแห้งสนิท หยดน้ำยาหรือเจลฟอกสีฟันลงในถาดครอบฟัน 
  3. สวมถาดครอบฟันเข้าไปในปาก กดให้แนบสนิทหรือนวดเบา ๆ ให้น้ำยาเคลือบฟันได้ทั่ว โดยมากมักจะต้องสวมทิ้งไว้อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อวัน บางคนอาจให้สวมตอนนอน และทำต่อเนื่องนาน 2-4 สัปดาห์ 
  4. หลังจากครบเวลาแล้ว ให้ถอดถาดครอบฟันออก บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง ส่วนถาดครอบฟันให้นำมาทำความสะอาดด้วยการแปรงเบา ๆ เอาน้ำยาฟอกฟันที่ตกค้างอยู่ออก และเช็ดให้แห้งสนิท  

สงสัยกันรึเปล่า! ฟอกสีฟันที่คลินิกกับทำเองที่บ้าน ต่างกันยังไง แล้วเลือกฟอกฟันแบบไหนดีกว่ากัน คลิกอ่านเพิ่มเติม  

ฟอกฟันแล้วฟันขาวขึ้นเลยไหม ขาวได้นานแค่ไหน

การฟอกสีฟันกับทันตแพทย์จะเห็นว่าฟันขาวขึ้นทันทีหลังฟอกฟัน ขณะที่การฟอกสีฟันเองที่บ้าน ฟันจะค่อย ๆ ขาวขึ้นภายใน 2 สัปดาห์เมื่อทำอย่างต่อเนื่อง โดยความขาวของฟันจะไม่ได้คงอยู่ถาวร ส่วนมากจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสีฟันเดิม ความเข้มข้นของน้ำยาฟอกฟัน การดูแลช่องปาก และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดคราบสีบนฟัน เช่น อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม หรือการสูบบุหรี่

ดูแลฟันยังไงให้ขาวนานหลังฟอกฟัน

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฟอกสีฟันเป็นเป็นช่วงที่คราบสีจากอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ ไปติดที่ผิวฟันได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงหรือลดการรับประทานอาหาร ผลไม้ และเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง วิสกี้ แกงเหลือง แกงส้ม หรือซอสปรุงรสต่าง ๆ  และไม่สูบบุหรี่ เพราะควันบุหรี่และการเผาไหม้ของสารเคมีในบุหรี่จะเกิดเป็นคราบสะสมที่ผิวฟัน ทำให้ฟันมีสีเข้มได้ไวขึ้น

นอกจากนี้ ควรดูแลสุขอนามัยในช่องปากด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปาก หลังมื้ออาหารควรบ้วนปากหรือแปรงฟันทันที เพื่อป้องกันคราบต่าง ๆ เกาะสะสมที่ผิวฟัน และสิ่งสำคัญ ควรไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูน 

ฟอกสีฟันมีผลข้างเคียงไหม เป็นอันตรายหรือเปล่า

อาการเสียวฟันชั่วคราว อาการเสียวฟันจะเกิดขึ้นได้ระหว่างฟอกฟันและหลังฟอกเสร็จใหม่ ๆ เพราะน้ำยาฟอกฟันซึมเข้าไปในตัวฟันและกระตุ้นโดนปลายประสาทฟัน ถ้ามีอาการเสียวฟันมากสามารถใช้ยาสีฟันสูตรลดอาการเสียวฟัน เลี่ยงการรับประทานอาหารร้อนหรือเย็นจัด เพราะจะทำให้เสียวฟันมากขึ้น ถ้าเป็นการฟอกฟันที่บ้านอาจเว้นระยะการฟอกฟันหรือปรับเวลาการฟอกฟันให้สั้นลง โดยให้ปรึกษาทันตแพทย์ถึงระยะเวลาที่เหมาะสม 

อาการระคายเคืองในช่องปาก กระพุ้งแก้ม หรือเหงือก น้ำยาฟอกฟันที่สัมผัสโดนเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนภายในช่องปากระหว่างการฟอกฟัน อาจทำให้เกิดการระคายเคืองขึ้นได้ โดยเกิดได้จากน้ำยารั่วหรือซึมผ่านวัสดุป้องกันเหงือก สวมถาดครอบฟันไม่กระชับ หรือใช้ถาดครอบฟันที่ไม่พอดีกับฟัน ทำให้น้ำยาฟอกฟันไหลออกนอกถาดครอบฟัน ถ้าเกิดอาการระคายเคืองหรือมีอาการผิดปกติระหว่างฟอกสีฟัน ควรรีบแจ้งทันตแพทย์ทันที 

ผลข้างเคียงเหล่านี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว ไม่เป็นอันตราย ปกติแล้วสามารถหายได้เองภายใน 1-3 วันหลังจากหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟัน หรือเสร็จสิ้นการรักษา

หลายคนยังไม่กล้าฟอกสีฟัน เพราะกลัวว่าถ้าฟอกแล้วจะทำให้เนื้อฟันบางลงหรือเปล่า จริง ๆ แล้วการฟอกสีฟันไม่มีผลทำให้เนื้อฟันบางลง ฟันสึก ฟันอ่อนแอ หรือสุขภาพช่องปากแย่กว่าเดิม เพียงแค่ต้องเลือกทำกับคลินิกทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน และระวังในการซื้อผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้เอง เพราะจะเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีอันตรายหรือเป็นอันตรายกับช่องปาก หากไม่แน่ใจอาจจะเลือกเป็นการฟอกฟันที่บ้าน ซึ่งยังอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ และมีความปลอดภัยมากกว่า   

ไม่อยากฟันเหลืองแล้ว ฟอกสีฟันช่วยได้ รวมโปรฟอกสีฟันไว้แล้วที่ HDmall.co.th คลิกเลย พร้อมส่วนลดเพิ่มเติมทุกครั้งที่จอง หรือไม่แน่ใจ ซื้อโปรฟอกฟันแบบไหนดี อยากปรึกษาคุณหมอก่อน แชทหาแอดมินเราได้เลย ที่นี่ 

Scroll to Top