ประโยชน์และผลข้างเคียงจากฟอสฟอรัส Phosphorus scaled

ประโยชน์และผลข้างเคียงจากฟอสฟอรัส (Phosphorus)

ฟอสฟอรัส เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ทำงานร่วมกับแคลเซียม มีความจำเป็นต่อร่างกายทั้งในภาวะปกติเพื่อการเจริญเติบโต และในภาวะเจ็บป่วย ปกติแล้วฟอสฟอรัสในร่างกายของคนเราจะถูกเก็บอยู่ในกระดูกประมาณ 80% อีก 10% อยู่ในกล้ามเนื้อ ส่วนที่เหลืออีก 10% จะอยู่ในเลือดที่อยู่ในรูปของฟอสเฟส

เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กและต้องการการเจริญเติบโต ร่างกายจะมีความต้องการแคลเซียมและฟอสฟอรัสเพื่อนำไปใช้ในการเสริมสร้างกระดูกให้โตและแข็งแรง ดังนั้นในเด็กจึงต้องการแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณที่มากกว่าผู้ใหญ่ นอกจากนี้ ฟอสฟอรัสยังจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ในร่างกาย เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ตามปกติ ไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อด้วย

เมื่อร่างกายได้รับฟอสฟอรัสจากการดูดซืมผ่านผนังลำไส้ ส่วนหนึ่งของฟอสฟอรัสในเลือดจะถูกขับออกทางปัสสาวะ หากไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ฟอสฟอรัสจะสมในร่างกาย

ระดับฟอสฟอรัสในเลือดปกติ ต่ำ และสูง

ฟอสฟอรัสในเลือดจะปกติ ต่ำ และสูง พิจารณาได้จากระดับฟอสฟอรัสในหน่วยมิลลิควิวาเลนต์ต่อลิตร ดังนี้

  • ระดับฟอสฟอรัสในเลือดปกติ อยู่ที่ 3.5-5.5 mEq/L
  • ระดับฟอสฟอรัสในเลือดต่ำ น้อยกว่า 3.5 mEq/L (จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร กล้ามเนื้ออ่อนแรง)
  • ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง มากกว่า 5.5 mEq/L

ฟอสฟอรัสในเลือดต่ำ จะมีอาการอย่างไร?

ฟอสฟอรัสในเลือดต่ำทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร กล้ามเนื้ออ่อนแรง

เมื่อฟอสฟอรัสในเลือดสูงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

มีอาการทั้งภายนอกและภายในที่บ่งบอกถึงภาวะฟอสฟอรัสในเลือดสูง ดังนี้

  • คันตามผิวหนัง เนื่องจากฟอสฟอรัสที่มีมากในเลือดไปสะสมตามเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
  • กระดูกบางและเปราะ เนื่องจากเมื่อไตทำหน้าที่ได้น้อยลง การขับฟอสฟอรัสก็จะน้อยลงไปด้วย ทำให้เกิดการสะสมของฟอสฟอรัสมากขึ้นในหลอดเลือด ร่างกายจึงตอบสนองโดยการนำแคลเซียมมาจับกับฟอสฟอรัส หากระดับของแคลเซียมในเลือดไม่พอ แคลเซียมก็จะละลายออกมาจากกระดูก จนทำให้เนื้อกระดูกบางลง กระดูกจะเปราะและหักง่ายขึ้น
  • หลอดเลือดแดงแข็ง เกิดจากการตกตะตอนของแคลเซียมกับฟอสฟอรัส มักเกิดตามหลอดเลือดหัวใจ หรือหลอดเลือดที่ใช้ฟอกเลือด ทำให้อุดตันได้ง่าย
  • มีก้อนแคลเซียมเกาะตามเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้มีแผลเรื้อรัง
  • ภาวะต่อมพาราไทรอยด์โต เมื่อระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง จะกระตุ้นต่อมพาราไทรอยด์มากขึ้นเพื่อผลิตฮอร์โมนเร่งการสลายแคลเซียมในกระดูกเข้าสู่กระแสเลือด มีผลทำให้กระดูกบางด้วย

ฟอสฟอรัสกับการรับประทานอาหาร

ผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม มักมีภาวะฟอสฟอรัสในเลือดสูง ร่างกายจะรักษาระดับฟอสฟอรัสให้อยู่ในระดับปกติ โดยมีตัวช่วยคือ แคลเซียมและฮอร์โมนพาราไทรอยด์ ฟอสฟอรัสสะสมจะมากหรือน้อยมักขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคจากอาหารด้วย

การควบคุมระดับฟอสฟอรัสในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยการควบคุมอาหารร่วมกับการฟอกเลือด จะช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ และลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

ปริมาณฟอสฟอรัสที่แนะนำคือ ระหว่าง 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยรักษาระดับฟอสฟอรัสในเลือดไม่ให้เกิน 5.5 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงถ้ามีระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง

ถ้ามีระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารต่อไปนี้

  • นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมสดรสจืด นมรสหวาน นมพร่องมันเนย นมขาดมันเนย นมข้น นมผง นมปรุงแต่งกลิ่นรส นมเปรี้ยว โยเกิร์ตชนิดข้นและชนิดดื่มได้ ไอศกรีม คัสตาร์ดครีม ชีส ช็อกโกแลต เนยแข็งทุกชนิด
  • ถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น ถั่วคั่ว ถั่วทอด เนยถั่ว นมถั่วเหลือง ลูกชุบ กระยาสารท เต้าฮวย เต้าหู้ น้ำเต้าหู้
  • เมล็ดพืชแห้ง ธัญพืชและผลิตภัณฑ์จากธัญพืช เช่น เมล็ดแตงโม เมล็ดฟักทอง เมล็ดดอกทานตะวัน ข้าวบาร์เลย์มอลต์ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ลูกเดือย งาดำ เครื่องดื่มธัญพืชต่างๆ
  • อาหารที่มีโปรตีนสูงบางชนิด เช่น เครื่องในสัตว์ แมลง ไข่ปลา ไข่แดงและผลิตภัณฑ์ที่ไข่แดงเป็นส่วนประกอบอาหาร เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สังขยา บะหมี่ มายองเนส สลัดครีม
  • อาหารที่สามารถกินได้ทั้งกระดูก เช่น กุ้งแห้ง ปลากรอบ ปลาเล็กปลาน้อย ครีบปลา
  • อาหารเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม ลูกชิ้น แหนม กุนเชียง หมูยอ
  • อาหารทะเลแช่แข็ง เช่น กุ้ง ปลาทะเล ที่มีการแล่เป็นชิ้นแล้วแช่แข็ง
  • เครื่องดื่มสีเข้ม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม เครื่องดื่มโกโก้ โคล่า เบียร์
  • อาหารที่ทำจากยีสต์ อาหารที่มีส่วนผสมของผงฟู เช่น ขนมปังปอนด์ โดนัท ขนมอบ เบเกอรี เค้ก แป้งซาลาเปา หมั่นโถว คุกกี้ พาย
  • อาหารที่มีลักษณะเป็นผง เช่น น้ำตาลป่น นมผง เกลือป่น ครีมผง ผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปต่างๆ ที่มีการใส่ฟอสเฟตเพื่อไม่ให้จับตัวกันเป็นก้อน

หมายเหตุ ฟอสฟอรัสที่อยู่ในรูปสารสังเคราะห์ ที่เป็นสารปรุงแต่งอาหารหรือสารกันบูดในอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มต่างๆ ร่างกายสามารถดูดซึมได้มากกว่าฟอสฟอรัสที่มาจากอาหารธรรมชาติ ทำให้ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงขึ้นได้เร็ว ดังนั้นผู้ป่วยที่มีภาวะฟอสฟอรัสในเลือดสูงควรหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มนี้

ตัวอย่างปริมาณฟอสฟอรัสในอาหารที่พบบ่อย

อาหาร
(ปริมาณ 100 กรัม หรือ ประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ)
ปริมาณฟอสฟอรัสในอาหาร
(มิลลิกรัม)
ข้าวโพด 360
นมผง 360-400
งาดำ 570
เต้าหู้ขาวอ่อน 190
เต้าหู้เหลือง 178
ถั่ว 400-600
ฟองเต้าหู้ 494
ถั่วพิสตาชิโอ 500
เต้าหู้ทอด 522
ปูทะเล 402
ปลาซาร์ดีน 430
ปลาร้า 400
ปลาจาระเม็ดทอด 325
ไข่ปลา 400-500
ไข่เจียว 313
เห็ดหอมแห้ง 377
กบหรือกระดูกย่าง 2,045
เบคอนอบไมโครเวฟ 480-533
กุ้งเผา 635
กุ้งแห้ง 703
ปลาริวกิว/ปลาหวาน 258
ลูกชิ้นกุ้ง 170
ลูกชิ้นปลา 101-114
นมข้นหวาน 205
นมแพะ 118
ไอศกรีม 110

เขียนบทความโดย ทีมนักกำหนดอาหารวิชาชีพ HD

Scroll to Top