โบท็อกซ์ลดริ้วรอย 101 กับทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์

ยุคนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับโบท็อกซ์ลดริ้วรอย หัตถการที่ช่วยลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าเรียว V shape ได้อย่างเห็นผล วันนี้เลยอยากพาทุกคนไปรู้จักกับการฉีดโบท็อกซ์ในหลายแง่มุม เพื่อจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเหมาะกับคุณหรือไม่ 

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย และกลไกการทำงาน

โบท็อกซ์ (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่สกัดมาจากแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ก่อโรคอาหารเป็นพิษ 

เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้ากล้ามเนื้อ ตัวยาจะไปจับกับปลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ทำให้เซลล์ประสาทยับยั้งการหลั่งสารสื่อประสาทที่ไปสั่งให้กล้ามเนื้อหดตัว กล้ามเนื้อเลยคลายตัวออกชั่วคราว ทำให้ริ้วรอยและรอยย่นตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า ลำคอ และส่วนอื่นเรียบตึงขึ้น

ขณะเดียวกันพอกล้ามเนื้อส่วนที่ฉีดทำงานน้อยลง เลยมีผลให้ขนาดกล้ามเนื้อเล็กลงด้วย การฉีดโบท็อกซ์เลยช่วยลดขนาดกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก หรือปรับกล้ามเนื้อส่วนอื่น อย่างน่องขาให้ดูเรียวสวยขึ้นได้  

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย ฉีดตรงไหนได้บ้าง แต่ละจุดใช้กี่ยูนิต

คนที่สงสัยว่ายูนิต (Unit) คืออะไร ยูนิตเป็นหน่วยในการฉีดโบท็อกซ์ จำนวนยูนิตที่ฉีดโบท็อกซ์จะแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่ฉีด ริ้วรอยมีมากน้อยแค่ไหน  และจุดประสงค์ของการฉีด โดยจะสัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายในการฉีดด้วย 

โบท็อกซ์ฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้หลายส่วน เพื่อความงามและการรักษาโรค สำหรับโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยบนใบหน้า สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง และจำนวนยูนิตที่ฉีดก็ต่างกันด้วย เช่น

• ลดริ้วรอยที่หน้าผาก 30 ยูนิต
• ลดรอยตีนกาที่หางตา 25 ยูนิต
• ลดรอยย่นระหว่างคิ้ว 25 ยูนิต
• เพิ่มความชัดของจมูก (รัดแกน/ลดปีกจมูก) 25 ยูนิต
• ยกกระชับกรอบหน้า 30–50 ยูนิต 
• ลดขนาดกราม เพิ่มความคมชัด 50–100 ยูนิต 

จำนวนยูนิตในการฉีดโบท็อกซ์ข้างต้นเป็นตัวอย่างเบื้องต้นเท่านั้น คุณหมอจะเป็นผู้ประเมินและแนะนำจำนวนยูนิตที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการตัดสินใจอีกครั้ง

เปรียบเทียบแพ็กเกจฉีดโบท็อกซ์ จากคลินิกและรพ.ใกล้คุณ HDmall.co.th รวมลิสต์มาให้แล้ว

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย เตรียมตัวอย่างไรดี

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อความสวยงามส่วนใหญ่ไม่ต้องเตรียมตัวล่วงหน้ามากเป็นพิเศษ กรณีที่ตั้งครรภ์ อยู่ในช่วงให้นมบุตร มีประวัติแพ้ยาและสารอื่น ๆ  มีโรคประจำตัวหรือปัญหาสุขภาพใด ๆ ควรแจ้งหรือปรึกษาคุณหมอแพทย์ก่อนฉีด 

คุณหมอหรือเจ้าหน้าที่อาจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติการฉีดโบท็อกซ์ครั้งก่อนหน้า ประวัติการแพ้โบท็อกซ์ หรือผลข้างเคียงหลังฉีด ควรแจ้งข้อมูลทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย 

คำแนะนำทั่วไปก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย เช่น

• งดใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือนาพรอกเซน (Naproxen) อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
• งดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนฉีด
• ถ้าฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบริเวณใบหน้า ควรเลี่ยงการการแต่งหน้า และทำความสะอาดใบหน้าก่อนฉีด 

อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ก่อนฉีดโบท็อกซ์ ควรปรึกษาคุณหมอถึงความต้องการของตนเองในแต่ละส่วนอย่างชัดเจน และปัญหาที่เป็นกังวลอยู่กังวล เช่น อยากให้ผิวตึงมาก ให้ผิวตึงแบบธรรมชาติ เพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจ   

หลังฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ดูแลผิวและตัวเองอย่างไร

ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับบ้านได้เลยทันทีไม่ต้องพักฟื้น แต่ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของคุณหมอ ถ้ามีอาการเจ็บ ปวดบวมหลังฉีด ให้ประคบเย็นบรรเทาอาการ แต่หากพบอาการผิดปกติหรือรุนแรง ให้กลับไปพบคุณหมอทันที

เบื้องต้นการดูแลผิวหลังฉีดโบท็อกซ์สามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

หลังฉีดทันที

• ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดในช่วง 1–2 ชั่วโมง เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
• ห้ามนอนราบหรือนอนคว่ำหน้าหลังจากฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้ตัวยากระจายออกนอกตำแหน่งที่ฉีด 
• เลี่ยงการอย่าถู ขัด ขยี้ นวด หรือล้างหน้าแรง ๆ หลังฉีดอย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง
• สามารถใช้เครื่องสำอางได้ แต่ควรเบามือ นุ่มนวล

หลังฉีด 3 วันแรก

• งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ 1 วัน
• งดกินยาจำพวกแอสไพริน วิตามินอี รวมถึงสมุนไพรร้อน เช่น แปะก๊วย โสม 2–3 วัน เพื่อลดรอยช้ำหลังฉีด 
• คนที่ฉีดหน้าเรียว ปรับรูปหน้า ควรเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะจะทำให้ผลการฉีดไม่ดีเท่าที่ควร

หลังฉีด 2 สัปดาห์

• งดนวดหน้า ซาวน่า เลเซอร์ ยกกระชับหน้า หรือการทำหัตถกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความร้อน ประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะจะทำให้โบท็อกซ์เสื่อม

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดตำแหน่งไหน ฉีดโบท็อกซ์เป็นครั้งแรกหรือฉีดซ้ำ และกล้ามเนื้อของแต่ละคน เช่น 

• ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้า ในช่วง 2–3 วันแรก จะรู้สึกตึงผิวบริเวณที่ฉีด และเห็นผลชัดเจนในช่วงสัปดาห์ที่ 2 
• ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ลดน่อง จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในช่วงสัปดาห์ที่ 2 และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 1 เดือน

ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้ราว 3–8 เดือนก่อนจะสลายไป เพื่อรักษาผลลัพธ์ มักจะแนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ทุก 3 เดือน หรือต่อเนื่องตามที่คุณหมอแนะนำ

ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ผลลัพธ์การฉีดโบท็อกซ์อยู่ได้นานจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้ 

• ยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ฉีด แต่ละยี่ห้อจะมีความบริสุทธิ์ ปริมาณสาร และคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งโบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูงจะยิ่งอยู่ในร่างกายได้นานกว่า 
• ตำแหน่งที่ฉีด กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก จึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์จะสั้นกว่ากล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กราม หน้าผาก หางตา 
• ความชำนาญและประสบการณ์ของแพทย์ คุณหมอที่เชี่ยวชาญจะฉีดโบท็อกซ์ได้ถูกวิธีและเหมาะสม ทำให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และช่วยแนะนำยี่ห้อโบท็อกซ์ที่เหมาะสมกับแต่ละคนได้

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยเจ็บไหม แสบผิวไหม อันตรายหรือเปล่า 

การฉีดโบท็อกซ์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดลงในชั้นผิวไม่ลึก คนส่วนใหญ่สามารถทนได้ ให้ความรู้สึกคล้ายกับการฉีดวัคซีน อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีด แต่ก่อนฉีดจะมีการแปะยาชา และระหว่างฉีดมีการประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บ 

เรื่องต้องรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

นอกจากข้อมูลทั่วไปของการฉีดโบท็อกซ์แล้ว ควรรู้ถึงข้อจำกัดของโบท็อกซ์ด้วย เพื่อความปลอดภัย และผลของการฉีดที่ตรงตามความต้องการ 

• ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ไม่ถาวร คงอยู่ได้นาน 3–8 เดือนแล้วแต่คน 
• โบท็อกซ์ฉีดซ้ำได้เมื่อกล้ามเนื้อกลับสู่สภาพเดิม หากต้องการให้อยู่คงเดิม จำเป็นต้องฉีดซ้ำตามนำแนะนำของคุณหมอ
• คุณแม่ตั้งครรภ์ คาดว่าตั้งครรภ์  หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์
• การฉีดโบท็อกซ์ห้ามฉีดในคนบางกลุ่ม เช่น คนที่เป็นโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อ (เช่น โรคหนังตาตก และภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง) คนที่มีประวัติแพ้อัลบูมิน (Albumin) หรือแพ้สารโบทูลินัม ท็อกซิน

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยอันตรายหรือเปล่า 

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงาม อยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอที่เชี่ยวชาญ และ จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่อาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ ก่อนการฉีดทุกครั้ง ควรปรึกษาและพูดคุยกับคุณหมออย่างละเอียด

ผลข้างเคียงส่วนมากมักเป็นแบบเฉพาะที่ ขึ้นอยู่กับว่าฉีดบริเวณใด เช่น 

• เกิดรอยช้ำ บวมแดง เขียวเป็นจ้ำบริเวณที่ฉีด 
• หนังตาตกชั่วคราว 
• น้ำตาไหล หรือตาแห้ง
• ปวดหัว
• น้ำลายไหล 
• หน้าไม่สมมาตร หน้าแข็งตึง รู้สึกบังคับกล้ามเนื้อบนใบหน้าไม่ได้ โดยสาเหตุอาจมาจากปริมาณโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไปไม่เหมาะสม
• หางคิ้วกระดก อาจเกิดจากเทคนิคการฉีดไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ทำให้คิ้วเลิกสูงขึ้น และอาจเกิดรอยย่นขึ้นด้านข้างของคิ้วเพิ่มขึ้นได้

อาการส่วนใหญ่จะดีขึ้นเอง แต่หากมีอาการเหล่านี้ติดต่อกันนาน อาการรุนแรงขึ้น พบอาการติดเชื้อ ปัญหาด้านการมองเห็น กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออาการแพ้ยา เช่น หายใจลำบาก หายใจไม่ออก ผื่นขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ผลลัพธ์ปัง ปลอดภัยต้องเลือกให้ดี

การฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม หลายคนอาจเจอกับโฆษณาชวนเชื่อ หรือราคาฉีดโบท็อกซ์ที่ถูกผิดปกติ ทำให้อาจได้รับอันตรายจากการฉีด หรือเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงได้ 

เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย อย่าลืมนึกถึงเรื่องต่อไปนี้

• เลือกฉีดโบท็อกซ์กับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ มีใบประกอบวิชาชีพ สามารถเช็กได้จากเว็บไซต์แพทยสภา และสถานพยาบาลได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง 
• โบท็อกซ์ที่เลือกฉีดต้องได้รับการรับรองจาก อย. ประเทศไทย ไม่ใช่ยี่ห้อไม่คุ้นหู เช็กที่มาไม่ได้ รวมถึงต้องระวังโบท็อกซ์หิ้วที่นำเข้ามาไม่ถูกกฎหมาย เพราะแม้จะเป็นของจริง แต่ขนส่งผิดวิธีก็จะกระทบกับคุณภาพโบท็อกซ์ได้
• โบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันอยู่หลายอย่าง เช่น เทคโนโลยีการผลิต ความบริสุทธิ์ ชนิดโปรตีน และอื่น ๆ จึงควรปรึกษาคุณหมอถึงความแตกต่าง ข้อดี ข้อจำกัดของแต่ละยี่ห้อเสียก่อน

ริ้วรอยหาย หน้าเด็กกว่าใคร แถมปลอดภัยด้วย เช็กแพ็กเกจฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย จากรพ. และคลินิกชั้นนำได้ที่ HDmall.co.th