Naproxen (นาพรอกเซน)

Naproxen (นาพรอกเซน) จัดอยู่ในกลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal anti-inflammatory drugs: NSAIDs) ใช้รักษาอาการปวดข้อ ปวดประจำเดือน เอ็นอักเสบ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบในเด็ก โรคเก๊าท์ โรคกระดูกสันหลังชนิดยึดติด เยื่อหุ้มข้ออักเสบ รวมถึงอาการปวดบวมทั่วไป มีไข้ และปวดศีรษะ

ในไทยนิยมใช้ ยา Naproxen 250 mg หรือ 275 mg ในการรักษาโรคปวดข้อ ปวดประจำเดือน ปวดเอ็น เก๊าท์ และโรคอื่นๆ

สรรพคุณยา Naproxen

ยา Naproxen เป็นยาที่อยู่ในกลุ่ม Nonsteroidal Anti-Inflammatory Drugs (NSAIDs) ซึ่งใช้ในการบรรเทาอาการปวดและการอักเสบ ดังนี้

  1. บรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบ: ช่วยลดอาการปวดและบวมในข้อ ซึ่งเกิดจากการอักเสบในข้อได้ดี เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ , โรคข้อเสื่อม และข้ออักเสบจากเกาต์
  2. รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ: อาการปวดที่เกิดจาก การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น การบิดเจ็บกล้ามเนื้อ, การยึดเอ็น หรือการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา และอาการ ปวดหลัง ที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมากเกินไปหรือการบาดเจ็บอื่น ๆ
  3. บรรเทาอาการปวดประจำเดือน: สามารถบรรเทาอาการ ปวดประจำเดือน ที่มักเกิดจากการอักเสบและการหลั่งพรอสตาแกลนดินในระหว่างการมีประจำเดือน
  4. บรรเทาอาการปวดหัว: ใช้ในการบรรเทา อาการปวดหัว ที่เกิดจากความเครียด หรืออาการปวดหัวที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบ
  5. รักษาอาการปวดและอักเสบจากโรคเกาต์: ใช้บรรเทาอาการ ข้ออักเสบเฉียบพลัน ที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในข้อ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคเกาต์ ทำให้อาการปวดและบวมลดลง
  6. บรรเทาอาการปวดฟัน: ยังสามารถใช้ในการบรรเทา อาการปวดฟัน หรืออาการปวดที่เกิดหลังการผ่าตัดในช่องปากได้
  7. ลดอาการอักเสบที่เกิดจากโรคและภาวะอื่น ๆ: การอักเสบใน เส้นเอ็น หรือการอักเสบใน เยื่อหุ้มข้อต่อ

การใช้ยา Naproxen ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากยานี้อาจมีผลข้างเคียงและข้อห้ามใช้งานในบางกลุ่มผู้ป่วย เช่น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือผู้ที่มีโรคหัวใจและหลอดเลือด

กลไกการออกฤทธิ์ของยา Naproxen

ยา Naproxen มีกลไกการออกฤทธิ์โดยยับยั้งการสร้างโปรสตาแกลนดินส์ (Prostaglandins) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย และอาการปวด

ยับยั้งเอนไซม์ Cyclooxygenase (COX-1 และ COX-2)

  • Naproxen ออกฤทธิ์โดยการ ยับยั้งเอนไซม์ Cyclooxygenase (COX-1 และ COX-2) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีหน้าที่สำคัญในการเปลี่ยนกรดอะราคิโดนิก (Arachidonic Acid) ไปเป็น พรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอาการอักเสบ ปวด และไข้ในร่างกาย
  • การยับยั้ง COX-2 จะลดการสร้างพรอสตาแกลนดินในบริเวณที่มีการอักเสบ ส่งผลให้การอักเสบและความเจ็บปวดลดลง
  • COX-1 มีบทบาทในกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การปกป้องเยื่อบุกระเพาะอาหารและการทำให้เกล็ดเลือดทำงานอย่างเหมาะสม การยับยั้ง COX-1 ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร เช่น กระเพาะอักเสบ หรือแผลในกระเพาะอาหาร

ลดการผลิตพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins)

  • พรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) เป็นสารเคมีในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ การขยายหลอดเลือด และการส่งสัญญาณปวด เมื่อการสร้างพรอสตาแกลนดินถูกยับยั้ง อาการอักเสบ ปวด และไข้จะลดลง
  • โดยการลดการสร้างพรอสตาแกลนดินในบริเวณที่อักเสบ Naproxen จึงมีผลลดความรุนแรงของอาการอักเสบ เช่น บวม แดง และปวด ซึ่งเกิดจากการสะสมของสารเคมีเหล่านี้ในบริเวณที่มีการบาดเจ็บ

รูปแบบของยา

ยา Naproxen มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำสำหรับรับประทาน ในไทยนิยมจ่ายยาเป็นขนาด Naproxen 250 mg หรือ Naproxen 275 mg

โดยยาเม็ดยังแบ่งเป็นแบบยาเม็ดเคลือบเพื่อป้องกันการกัดกระเพาะ และยาเม็ดแบบออกฤทธิ์นานที่สามารถรับประทานเพียงวันละ 1 ครั้งก็เพียงพอ

ปริมาณการใช้ยา Naproxen 

ปริมาณยาที่ใช้นั้นขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ขนาดของเม็ดยา ภาวะอาการที่รักษา และอายุของผู้ป่วย โดยในการรักษาภาวะข้ออักเสบด้วย Naproxen นั้นมักใช้ในปริมาณ 500-1000 มิลลิกรัม

ส่วนปริมาณยาที่ใช้ในเด็กจะต้องคำนวณจากน้ำหนักตัว ซึ่งการใช้ยานี้ในปริมาณต่ำๆ จะช่วยลดอาการปวดได้ดีอยู่แล้ว แต่หากต้องการใช้เพื่อลดอาการบวม แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาในปริมาณสูง

คำแนะนำโดยทั่วไปสำหรับปริมาณการใช้ยาแต่ละรูปแบบ มีดังนี้

  • ยาที่ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป มักรับประทานทุก 8-12 ชั่วโมง
  • ยาเม็ดทั่วไปสำหรับรักษาโรคเก๊าท์หรืออาการปวด อาจรับประทานทุก 8 ชั่วโมง
  • ยาเม็ดชนิดออกฤทธิ์นาน อาจรับประทานเพียงวันละ 1 ครั้ง
  • ยาเม็ดชนิดเคลือบ อาจรับประทานวันละ 2 ครั้ง

คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยา Naproxen

  • อย่าเคี้ยว แบ่ง หรือบดเม็ดยา ให้รับประทานโดยกลืนเข้าไปทั้งเม็ด
  • ไม่ควรสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ขณะที่ใช้ยานี้
  • ควรรับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร เนื่องจากตัวยาอาจกัดกระเพาะและทำให้ปวดท้องได้
  • รับประทานยาพร้อมกับน้ำ 1 แก้วเต็มเสมอ

ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา 

หากลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ แต่หากใกล้ถึงเวลารับประทานยาในครั้งถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาในมื้อนั้นได้เลย โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่าเพื่อทดแทนมื้อที่ลืม

การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์

มีหลักฐานชี้ว่าการใช้ยานี้อาจส่งผลให้เกิดปัญหาต่อทารกในครรภ์ และเพิ่มความเสี่ยงในการตกเลือดของมารดาหลังคลอด

หญิงที่กำลังตั้งครรภ์จึงไม่ควรใช้ยานี้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้

การใช้ยาขณะให้นมบุตร

การศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไม่มีผลสรุปที่ชัดเจน บางผลการศึกษาพบว่า การใช้ยานี้ในปริมาณปานกลางนั้นปลอดภัยต่อมารดาที่กำลังให้นมทารกที่มีอายุอย่างน้อย 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม สมาคมแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวของสหรัฐอเมริกา (American Academy of Family Physicians) ได้ออกประกาศเตือนว่า ยา Naproxen อาจไหลผ่านน้ำนมและไปสะสมในร่างกายของทารกที่แม่ใช้ยานี้มาเป็นเวลานานได้

ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยานี้ในระหว่างที่กำลังให้นมบุตร เนื่องจากอาจมีวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่าสำหรับคุณ และลูกน้อย

การใช้ยาเกินขนาด

คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้ยาบนฉลากยาหรือตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรอย่างเคร่งครัด เพราะการได้รับยาเกินขนาดอาจทำให้มีอาการข้างเคียงต่อไปนี้

  • เวียนหัว
  • หายใจลำบาก
  • ปวดท้อง
  • อาเจียน
  • ง่วงนอน

หากสงสัยว่า คุณ หรือคนรอบข้างได้รับยาเกินขนาด ควรติดต่อศูนย์พิษวิทยาทันที ที่เบอร์ 1367 หรือโทรเบอร์ 1669 ในกรณีที่ต้องผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน

ผลข้างเคียงของการใช้ยา Naproxen

ผลข้างเคียงจากการใช้ยานี้จะพบได้บ่อยขึ้นเมื่อคุณรับประทานยาเป็นเวลานาน โดยที่พบบ่อยที่สุดนั้นเป็นอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องผูก แสบร้อนกลางอก ปวดท้อง คลื่นไส้ ส่วนผลข้างเคียงอื่น ๆ ประกอบด้วย

  • ปวดหัว
  • คัน
  • เกิดรอยช้ำตามผิวหนัง
  • มีผื่นขึ้น
  • ง่วงนอน
  • ได้ยินเสียงในหู

ข้อควรระวังและคำเตือนในการใช้ยา Naproxen

  • แจ้งให้แพทย์ หรือเภสัชกรทราบก่อนใช้ยา หากคุณเคยมีประวัติแพ้ยาในกลุ่ม NSAIDs มาก่อน
  • ยานี้ยังอาจทำให้เกิดแผลและมีเลือดออกภายในระบบทางเดินอาหารได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งจะเสี่ยงได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยามากกว่า ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี จึงควรใช้ยาในขนาดที่ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • การใช้ยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและโรคเส้นเลือดสมองได้ และความเสี่ยงนี้จะมีมากขึ้นหากคุณมีประวัติ หรือมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจ รวมถึงการใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน และใช้ในปริมาณมาก
  • หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดหรือการอาบแดดในระหว่างที่รับประทานยานี้ เนื่องจากตัวยามีผลข้างเคียงทำให้ผิวหนังไวต่อแสงและเกิดผิวไหม้ง่ายกว่าปกติ
  • ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ขณะที่ใช้ยานี้ เนื่องจากหากใช้พร้อมกันจะเพิ่มโอกาสการเกิดแผลภายในกระเพาะอาหารหรือทำให้มีเลือดออกในทางเดินอาหารได้
  • หากคุณกำลังรับประทานยานี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการผ่าตัด รวมถึงการรักษาทางทันตกรรม
  • หากคุณมีภาวะต่อไปนี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา ซึ่งได้แก่ สารน้ำคั่งในร่างกาย ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคไต ซีด หอบหืด จมูกบวม มีแผลในกระเพาะอาหาร และเป็นโรคลำไส้อักเสบ
  • ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี

อาการผิดปกติที่ควรไปพบแพทย์

หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน คุณควรหยุดใช้ยาและปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และหากพบอาการข้างเคียงที่รุนแรงดังต่อไปนี้ ให้ไปพบแพทย์ทันที

  • อาการของโรคเส้นเลือดสมอง เช่น ร่างกายข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง เสียการทรงตัว มองเห็นไม่ชัด พูดไม่ชัด
  • อาการของการแพ้ยา เช่น ผื่นลมพิษ คัน บวมตามหน้า ปาก ลิ้น หรือคอ หายใจมีเสียงวี๊ด หรือหายใจลำบาก
  • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หัวใจเต้นผิดปกติ หรือมีภาวะคั่งน้ำในร่างกายอย่างเฉียบพลัน
  • อาการเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร เช่น ปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด หรืออุจจาระมีสีดำ
  • ปัญหาอื่นๆ เช่น ปัสสาวะสีเข้ม เบื่ออาหาร ตัวเหลืองตาเหลือง ปวดหัวรุนแรง ชัก ปัสสาวะออกน้อย มีรอยฟกช้ำหรือเลือดออก ปวดหลังอย่างรุนแรง หรือมีไข้หนาวสั่น

ถึงแม้ยา Naproxen จะเป็นยาแก้อักเสบที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายทั่วไป แต่ยาก็มีผลข้างเคียงหลายอย่าง และอาจทำอันตรกิริยากับยาได้หลายชนิด จึงควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยา เพื่อความปลอดภัย และการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Scroll to Top